แค่นอนกรน... ทำไมเสี่ยงไหลตาย?

ข่าวทั่วไป Friday November 27, 2020 17:28 —ThaiPR.net

แค่นอนกรน... ทำไมเสี่ยงไหลตาย?

ก่อนจะรู้ถึงสาเหตุของการไหลตาย หรือวิธีรักษาการนอนกรน อยากให้ทุกคนรู้ก่อนว่า "การกรน" มันเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง

ปกติแล้วหลอดลมในช่องคอของเรามันจะเป็นท่อเกลี้ยงๆ ธรรมดา เวลาลมวิ่งผ่านเข้าออกมันก็จะไม่มีเสียงอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดกล้ามเนื้อช่องคอไม่แข็งแรง มีการคลายตัวขณะนอนหลับหรือผนังกั้นจมูกคด, เพดานอ่อนหย่อน, โคนลิ้นโต จนทำให้ท่ออากาศเกิดการตีบตัน ก็จะทำให้ลมวิ่งผ่านเข้าออกได้ไม่ค่อยดีนัก

หากท่ออากาศของเราแคบลง ก็ทำให้อากาศผ่านเข้าออกได้ไม่ดีพอ จนเราเริ่มขาดอากาศ ระบบประสาทอัตโนมัติ ก็พยายามเร่งการหายใจให้มากขึ้น พอลมแรงผ่านช่องอากาศแคบๆ ก็เลยกลายเป็นเสียงกรนนั่นเองซึ่งการนอนกรนนั้น แบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือ

  • นอนกรนธรรมดา อันนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง นอกจากมลพิษทางเสียงที่รบกวนคนรอบข้างเท่านั้น
  • นอนกรนแบบมีภาวะหยุดหายใจร่วมด้วย ซึ่งแบบนี้ถือว่าอันตราย และเสี่ยงไหลตายได้เลย ซึ่งตอนนอนหลับอยู่เราจะไม่รู้ตัว หากทางเดินหายใจมีอะไรไปอุดไว้นิดๆ หน่อยๆ เราก็ยังนอนชิวต่อได้อยู่ ซักพักพอคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดเพิ่มขึ้น เพราะออกซิเจนตก สมองก็เลยสั่งการให้ระบบประสาทอัตโนมัติพยายามช่วยหายใจก่อน ไม่งั้นปล่อยไว้แบบนี้อาจเสียชีวิตได้
  • ด้วยเหตุนี้เราก็เลยพยายามหายใจเฮือกขึ้นมาขณะหลับ พอหลับไปซักพักออกซิเจนตกอีก ก็กลับเข้าสู่ภาวะนี้อีกรอบวนลูปแบบนี้ไปทั้งคืนจนกว่าจะเช้าจึงเป็นสาเหตุให้ตอนเช้าเราตื่นมาแล้วยังรู้สึกเพลียหรือง่วงตอนกลางวัน ทั้งๆ ที่นอนไปตั้งเยอะแล้วนั่นเอง

    ส่วนสาเหตุที่ทำให้นอนกรน นอกจากกล้ามเนื้อช่องคอคลายตัวแล้ว ก็มีปัจจัยอื่นอีกเพียบเลย อาจมีอะไรอุดตันในช่องจมูก หรือหลังโพรงจมูก ก็ทำให้เกิดเสียงกรนได้ทั้งนั้น และสาเหตุของการนอนกรนที่เป็นกันเยอะที่สุด เกิดจากความอ้วน เพราะไขมันที่สะสมบริเวณคอไปกดทับช่องทางเดินหายใจได้ รวมถึงไขมันที่หน้าอกและท้องจะเป็นภาระให้ร่างกายต้องใช้แรงในการหายใจมากขึ้นด้วย หลายคนไปหาหมอเพราะนอนกรนหมอเลยให้ลดน้ำหนักเป็นอันดับแรกก่อน

    และคำถามที่ว่า ต้องกรนขนาดไหนถึงจะเรียกว่าอันตราย อย่างที่บอกตอนแรกว่า คนนอนกรนมี 2 แบบ คือนอนกรนเฉยๆ และกรนแล้วหยุดหายใจ ส่วนการที่บอกได้ว่าการกรนของเราคือกรนแบบไหน? ก็ต้องไปทำ Sleep Test เพื่อหาคำตอบ ซึ่งนอกจากวัดว่าหยุดหายใจกี่รอบขณะหลับแล้ว ยังดูได้ว่าตอนนอนออกซิเจนในเลือดต่ำจนถึงจุดที่น่าเป็นห่วงไหม? และถ้าปล่อยให้นอนหลับแล้วหยุดหายใจไปนานๆ ก็เสี่ยงเป็นอัลไซเมอร์ หลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจตีบตันได้ รวมถึงเสี่ยงทำให้นอนแล้วไหลตายได้อย่างที่บอก นอกจากนี้การทำ Sleep Test ยังดูจังหวะการหายใจอุดตันหรือมีลักษณะของกล้ามเนื้อกระตุกได้ด้วย ส่วนการรักษาหลักๆ ก็มีอยู่หลายทางด้วยกัน แบบแรกคือรักษาที่ต้นเหตุ เช่น การผ่าตัดกล้ามเนื้อ หรือท่ออาการในช่องคอบริเวณที่มีปัญหาเกิดการกดทับ ทำให้หายใจลำบาก รวมไปถึงบางคนต้องลดความอ้วน และออกกำลังกายควบคู่กันด้วย เพื่อให้ไขมันในช่องคอหายไป รวมถึงเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออาการกรนถึงจะหายไปได้

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าเราหาสาเหตุเจอ แล้วคนไข้ปฏิเสธการรักษา หรือคนไข้มีความยากลำบากในการลดความอ้วน แพทย์อาจต้องเลือกใช้การรักษาด้วยเครื่อง CPAP แทน ด้วยการใส่ครอบจมูกไว้ตอนนอน เครื่อง CPAP จะทำหน้าที่คอยตีอากาศเข้าไปในร่างกายเวลาที่เราหายใจเฮือกๆ เองอัตโนมัติ พอลมเข้าออกได้สะดวกมากขึ้น ก็จะไม่มีเสียงกรนมารบกวนตอนนอนและทำให้หลับสนิทได้ดียิ่งขึ้นนั่นแอง แต่อย่างที่บอกว่าการนอนกรนมีแบบกรนธรรมดาและกรนแบบอันตราย ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ไปซื้อเครื่อง CPAP มาใช้เองเด็ดขาด ควรไปพบแพทย์ หู คอ จมูก ตรวจก่อนว่าสาเหตุของการนอนกรนที่แท้จริงเกิดจากอะไร? กันแน่ รวมถึงเป็นอันตรายหรือไม่ บางคนอันตรายมาก อาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อรักษา หรือบางคนแค่ลดน้ำหนักก็หายกรนได้ หรือบางคนกินยาแก้แพ้เม็ดเดียวก็หายแล้ว ฉะนั้นไปตรวจก่อนดีที่สุดครับ

    เพราะโรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ อย่าปล่อยให้ถึงจุดที่ยากเกินรักษาเลย เพราะอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายที่มาก มันไม่คุ้มเลยจริงๆ ครับ

    เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ