ก.แรงงาน ขับเคลื่อนงานพ.ร.บ. ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 พร้อมสร้างความเข้าใจ

ข่าวทั่วไป Thursday December 3, 2020 16:57 —ThaiPR.net

ก.แรงงาน ขับเคลื่อนงานพ.ร.บ. ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 พร้อมสร้างความเข้าใจ

ณ ห้องบอลรูม 2 ชั้น 3 โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีผู้เข้าร่วมสัมมนากว่า 200 คนนายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยหลังจากเป็นประธานเปิดโครงการดังกล่าวว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงานมีบทบาทในการพัฒนากำลังแรงงานให้มีศักยภาพ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ การพัฒนากำลังแรงงานในสถานประกอบกิจการที่มีอยู่เป็นจำนวนมากนั้น หน่วยงานภาครัฐเพียงฝ่ายเดียวไม่สามารถดำเนินการพัฒนากำลังแรงงานได้อย่างทั่วถึง จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชนดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยมีมาตรการจูงใจให้ ผู้ประกอบกิจการได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้เป็นจำนวนร้อยละร้อยของรายจ่ายที่จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่าย ในการฝึกอบรมรวมทั้งสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

นายธวัช กล่าวต่อไปว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีเป้าหมายในการดำเนินการ ตามกิจกรรมส่งเสริม และสนับสนุนให้สถานประกอบกิจการดำเนินการฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 4 ล้านคน ซึ่งจำนวนพนักงานที่ได้รับ การฝึกอบรมฝีมือแรงงานจากสถานประกอบกิจการ ที่นายทะเบียนให้ความเห็นชอบหลักสูตรตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีศักยภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีระบบบริการภาครัฐผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e - Service) อำนวยความสะดวกให้สถานประกอบกิจการในการยื่นคำขอเพื่อขอรับสิทธิประโยชน์ ซึ่งปัจจุบัน กพร. ได้พัฒนาการให้บริการ โดยสถานประกอบกิจการสามารถจัดพิมพ์หนังสือรับรองหลักสูตรได้ด้วยตนเอง"สำหรับสถานประกอบกิจการที่อยู่ในข่ายบังคับต้องยื่นแบบแสดงการส่งเงินสมทบกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน ประจำปี พ.ศ. 2563 ภายใน 31 มีนาคม 2564 โดยปี พ.ศ.2563 ได้ลดสัดส่วนจำนวนลูกจ้างที่จัดให้ มีการพัฒนาฝีมือแรงงาน จากร้อยละ 50 เหลือเพียงร้อยละ 10 โดยข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2563 มีจำนวนสถานประกอบกิจการที่เป็นเป้าหมายจำนวน 14,704 แห่ง ดังนั้น เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะต้องมีความพร้อมในการดำเนินการตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน พ.ศ. 2545 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การปฏิบัติงานมีความชัดเจนเป็นไปในแนวทางเดียวกัน" อธิบดี กพร.กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ