เมื่อพลัง LGBT 'นัท-อิม แห่ง Loonnystore' ทลายกำแพงเฉิดฉายบนรันเวย์อีคอมเมิร์ซ จากปรากฏการณ์ 'เสื้อผ้าหลายพันชิ้น' ขายเกลี้ยงภายใน 5 นาทีแรกในแคมเปญ Lazada 12.12

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 20, 2021 09:23 —ThaiPR.net

เมื่อพลัง LGBT 'นัท-อิม แห่ง Loonnystore' ทลายกำแพงเฉิดฉายบนรันเวย์อีคอมเมิร์ซ จากปรากฏการณ์ 'เสื้อผ้าหลายพันชิ้น' ขายเกลี้ยงภายใน 5 นาทีแรกในแคมเปญ Lazada 12.12

ปัจจุบันประเด็น 'ความหลากหลายทางเพศ' ไม่ได้มีการจำแนกเพศ เพียงแค่เพศชาย หรือเพศหญิง เหมือนในสมัยก่อนอีกต่อไป เรียกว่าเป็นยุคที่ไม่มีข้อจำกัดทางเพศ (Genderless Era) ก็ว่าได้ โดยกลุ่ม LGBT ในไทยมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มที่มีการเติบโตสูง และมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก ดังนั้น 'ความหลากหลายทางเพศ' จึงไม่ใช่เรื่องแปลก อยู่ที่แต่ละคนจะเลือกแสดงความเป็นตนเองในด้านใดออกมาก็เท่านั้นเอง ไม่ต่างกันกับการเลือกใส่เสื้อผ้าที่แตกต่างกันในแต่ละวัน เช่นเดียวกันกับ 'คุณนัท - นันทพงษ์ บุนเนาว์' และ 'คุณอิม - มนัสวี ทรวงแก้ว' ประธานบริษัท 'Loonnystore' จาก 'Lazada Millionaires Club' ก็เลือกที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงว่าเป็น LGBT ออกมา แม้ว่าจะต้องแลกกับการโดนคำดูถูก และต้องพบกับคนที่ไม่ชอบอัตลักษณ์ทางเพศแบบนี้ แต่ทั้งสองก็พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของ LGBT ที่สามารถทลายกำแพงทุกอุปสรรคด้านความหลากหลายทางเพศ และฝ่าวิกฤตโควิด-19 จนแบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิง 'Loonnystore' ใน LazInStyle บนแพลตฟอร์มลาซาด้า ประสบความสำเร็จ สร้างรายได้ 7 หลักในทุกเดือน และจำหน่ายเสื้อผ้าหลายพันชิ้นได้ในระยะเวลาเพียง 5 นาทีแรกของวันแคมเปญ Lazada 12.12 Grand Year-End Sale ที่ผ่านมา

จากความตั้งใจของนักศึกษาและทุน 1,000 บาท สู่นักธุรกิจรายได้หลักล้าน
Loonnystore เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 8 ปีที่แล้ว จากความคิดของนักศึกษาสองคน 'คุณนัท-คุณอิม' ที่อยากหาเงินค่าเทอมให้กับตนเอง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว จึงได้ร่วมกันรวมเงินค่าขนมในขณะเรียนมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นเงินลงทุน เพียงคนละ 500 บาท และลองรับเสื้อผ้าผู้หญิงมาโพสต์ขายบนโซเชียลคอมเมิร์ซ ซึ่งในช่วงแรกลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อสินค้าก็มีเพียงแค่กลุ่มเพื่อนและคนรู้จักเท่านั้น

ทุกการทำธุรกิจย่อมมีอุปสรรค ทั้งเรื่องต้นทุนที่มีไม่มากนัก บางช่วงก็ขายสินค้าไม่ได้ แต่ทั้งสองคนก็ไม่เคยย่อท้อ นำสิ่งที่ได้พบเจอ กลับมาคิดทบทวน เรียนรู้ และปรับตัวอยู่เสมอ ทำให้ผลตอบรับและยอดขายดีมากขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อทั้งคู่เรียนจบมหาวิทยาลัย จึงเริ่มมองเห็นโอกาสที่จะต่อยอดธุรกิจและเริ่มสร้างแบรนด์อย่างจริงจัง ช่วยกันออกแบบและติดต่อโรงงาน เพื่อผลิตเสื้อผ้าเป็นแบรนด์ของตนเอง ภายใต้ชื่อแบรนด์ 'Loonnystore' ต่อมาในช่วงปี 2562 ได้ลองขยายช่องทางการจำหน่ายไปยัง LazInStyle บนแพลตฟอร์มลาซาด้า จนประสบความสำเร็จแบบเกินคาด สามารถสร้างรายได้ได้ถึง 7 หลักในทุกเดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเมกะแคมเปญที่ได้ยอดขายแบบถล่มทลาย อย่างแคมเปญล่าสุด Lazada 12.12 Grand Year-End Sale ที่ผ่านมา มียอดขายสินค้าหลายพันชิ้น ในระยะเวลาเพียง 5 นาทีแรกของแคมเปญ และตลอดทั้งวันแคมเปญมียอดขายรวมสูงถึงประมาณ 4,000 ออเดอร์ กวาดรายได้ไปกว่าล้านบาท ไม่เพียงแต่ตัวเลขยอดขายที่น่าทึ่ง แต่ Loonnystore ยังมีทราฟฟิกลูกค้าเข้าชมร้านอย่างล้นหลาม กว่าหลายแสนวิวในวันแคมเปญอีกด้วย

เปลี่ยนคำดูถูก เป็นพลังคว้าความสำเร็จ
การที่เจ้าของและหุ้นส่วนแบรนด์ Loonnystore เป็น LGBT นั้น นับว่าเป็นประเด็นหนึ่ง ที่ทำให้เกิดอุปสรรคในการทำธุรกิจ โดยช่วงแรก คุณนัทไม่ได้รับการสนับสนุนและความเชื่อมั่นจากครอบครัวในการทำธุรกิจ ดูเหมือนว่าการเป็น LGBT จะมีภาพลักษณ์ที่ติดลบกว่าคนอื่น ทำอะไรก็ต้องพิสูจน์มากกว่า รวมถึงมีคำพูดดูถูกจากคนรอบข้างอยู่เสมอว่า 'ทำไม่ได้หรอก' แต่คุณนัทไม่ได้นำอุปสรรคที่เกิดขึ้น มาเป็นขวากหนามกีดขวางเส้นทางเดินของธุรกิจ แต่กลับเปลี่ยนคำดูถูกเหล่านั้นมาเป็นพลัง และเชื่อมั่นในตัวเองว่าต้องทำให้ได้ ต้องอดทน ไม่ท้อแท้ จนมาถึงเส้นชัยแห่งความสำเร็จในวันนี้โดยยึดแนวคิดที่ว่า "ไม่ว่าจะมีอะไรเข้ามา จะลองทำทุกอย่าง และไม่หยุดที่จะพัฒนา"

ทางด้านคุณอิม ซึ่งเป็นทรานส์เจนเดอร์ (Transgender) หุ้นส่วนของแบรนด์ และยังเป็นโมเดล ถ่ายแบบเสื้อผ้าของแบรนด์ Loonnystore ในช่วงแรก เธอเกรงว่าจะเกิดผลเสียต่อแบรนด์ ถ้าหากลูกค้าทราบว่า เธอเป็นทรานส์เจนเดอร์ หรือแบรนด์มีเจ้าของเป็น LGBT แต่เมื่อมาถึงในยุคที่ช่องทางออนไลน์ เริ่มต้องมีการเคลื่อนไหวต่อหน้ากล้อง เช่น การลงคลิปวิดีโอโปรโมทสินค้า และการไลฟ์สตรีม จึงตัดสินใจเปิดเผยความจริง เมื่อลูกค้าได้ทราบ กลับกลายเป็นผลดีอย่างไม่คาดคิด ลูกค้า 95% ของแบรนด์ที่เป็นผู้หญิง รู้สึกสบายใจที่ได้ซื้อสินค้ากับ Loonnystore เพราะรู้สึกว่า LGBT เข้าถึงได้ง่าย พูดคุยสนุก ทำให้สนิทสนมกับคุณอิมและคุณนัท รวมถึงใกล้ชิดกับแบรนด์ง่ายมากขึ้น

มองสถานการณ์ออก ปรับตัวได้เร็ว
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น คุณนัทคิดเพียงแค่ทำอย่างไรก็ได้ให้แบรนด์อยู่รอด ควบคู่กับการวางแผนตามสถานการณ์แบบรายสัปดาห์ ทั้งการออกแบบ การผลิต และการสต๊อกสินค้า โดยไม่ได้หวังผลกำไรมากนัก แต่ที่สำคัญคือ ต้องมีเงินเดือนให้กับพนักงานทุกคน ซึ่งการบริหารคนถือเป็นหนึ่งหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจของ Loonnystore พนักงานทุกคนเป็นเสมือนครอบครัว เจ้าของแบรนด์ต้องทำงานให้ได้ทุกอย่างก่อนจะมอบหมายให้พนักงานทำ เพื่อที่จะได้รู้ถึงขอบเขตของการทำงาน เปรียบเสมือนการ 'เอาใจเขา มาใส่ใจเรา' เพื่อให้พนักงานทำงานกันอย่างมีความสุข

คอนเซ็ปต์ในการออกแบบเสื้อผ้าของ Loonnystore จะยึดตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละช่วงเป็นหลัก เช่น คิดว่าช่วงนี้ลูกค้าชอบไปเที่ยวที่ไหนกัน ก็จะออกแบบเสื้อผ้ามาตอบรับกับเทรนด์ในช่วงนั้น อย่างในช่วงนี้ที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ Loonnystore ได้มีการออกแบบเสื้อผ้าเป็น Basic Wear ที่ใส่ง่าย ใส่ได้ทุกวัน เป็น Everyday Look ออกมาให้ลูกค้าได้ช้อปกัน

ก้าวอย่างมั่นคง บนรันเวย์อีคอมเมิร์ซสายแฟ
จากการดำเนินธุรกิจตลอด 8 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะต้องเจออุปสรรคมาหลายต่อหลายครั้ง คุณนัทก็ยังเชื่อมั่นและมุ่งมั่นที่จะอดทน ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มาได้ อยู่รอดมาได้แม้ว่าจะเจอกับวิกฤตโควิด-19 อย่างในปัจจุบันก็ตาม โดยจุดแข็งของแบรนด์ Loonnystore คือการมอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้า การันตีได้เลยว่าเมื่อซื้อสินค้าจากร้านนี้แล้ว จะได้สินค้าคุ้มค่าเกินราคาอย่างแน่นอน ซึ่งเสื้อผ้าทุกชิ้นผลิตขึ้นมาจากความตั้งใจของทั้งคุณนัท และคุณอิม ตั้งแต่การหา Inspiration มาสร้างสรรค์ออกแบบ เลือกผ้าที่จะนำมาใช้ในการผลิต และดูแลเอาใจใส่ตลอดการผลิต ประกอบกับการบริการที่เป็นกันเอง ทั้งการตอบแชทลูกค้า และบริการหลังการขาย นอกจากนี้คุณนัทและคุณอิมยังมีการไลฟ์สด พูดคุยกับลูกค้าอย่างเป็นกันเอง พร้อมแจกคูปองส่วนลดให้ลูกค้าผ่านทาง LazLive ฟีเจอร์ไลฟ์สตรีมบนแอปพลิเคชันลาซาด้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างภาพจำของแบรนด์ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ Loonnystore สามารถมัดใจลูกค้าและมีชื่อเสียงจนเป็นที่บอกต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้

ก้าวต่อไปของ Loonnystore ที่คุณนัทได้วางแผนไว้ คือความตั้งใจที่จะพัฒนาและเสริมแกร่งให้กับแบรนด์ Loonnystore บนแพลตฟอร์มออนไลน์ให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสต๊อกสินค้าและทีมงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างมากบนช่องทางนี้ รวมไปถึงการเพิ่มความถี่ในการโปรโมทและไลฟ์สด ซึ่งจะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังหาโอกาสในการขยายหน้าร้านแบบออฟไลน์ในอนาคตอีกด้วย

"การจะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่าง หรือแม้แต่การทำธุรกิจเอง ไม่ต้องรีรอ ให้ลงมือทำเลย จะสำเร็จหรือไม่ก็ตาม แต่สิ่งที่ได้กลับมาแน่ๆ คือ ทำให้เราได้รู้ว่า ชอบที่จะทำสิ่งๆ นี้จริงไหม ยิ่งเป็นการทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ หรือช่องทางออนไลน์ ที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ด้วยแล้ว จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องรอ หลักง่ายๆ ที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จมีเพียง 4 ข้อเท่านั้น คือ 1) 'ด้านได้ อายอด' ขายไม่ได้ก็ต้องโพสต์ต่อไป ไลฟ์สดไม่มีคนดูก็ต้องหากิมมิคมาเสริมจนกว่าจะมีคนเข้ามาดู ต้องไม่ย่อท้อ และอดทนทำต่อเนื่อง 2) มีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า 3) ความคุ้มค่า ส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพเกินราคาให้กับลูกค้า และ 4) ช่องทางการจำหน่าย หากเราเลือกแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพอย่างลาซาด้า ที่ช่วยสร้างทราฟฟิกหน้าร้านออนไลน์ ช่วยจัดการคำสั่งซื้อเป็นพันรายการได้ในนาทีเดียว มีทีมงานคอยซัพพอร์ตตลอดเวลา นี่แหละ 'กุญแจดอกสำคัญ' สู่ความสำเร็จของ Loonnystore ในวันนี้" คุณนัท เจ้าของแบรนด์ Loonnystore กล่าวทิ้งท้าย

ไม่ว่าใครก็ตามที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจ อย่ามัวรีรอ มาร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจ และเปิดร้านบนแพลตฟอร์มกันได้เลย เพราะลาซาด้ามุ่งเน้นช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับผู้ขาย ด้วยการจัดแคมเปญและดีลสุดปังอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ลาซาด้าเตรียมเสิร์ฟดีลสุดปังเพื่อผู้หญิงยุคใหม่ ในแคมเปญ 'Lazada Women's Festival สวย สมาร์ท ฉลาด ช้อป' ขนพาเหรดสินค้าแฟชั่น ความงามและสุขภาพ ลดสูงสุด 80% พร้อมพบกับดีลสุดพิเศษและการ Collaboration ระหว่างแบรนด์และเซเลบริตี้จำนวนมาก ระหว่างวันที่ 30 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ 2564 เพราะผู้หญิงยุคใหม่ แค่สวยไม่พอ?ต้องสมาร์ท ฉลาดช้อป ที่ลาซาด้า

ติดตามรายละเอียดแคมเปญเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lazada.co.th/women-festival-jan21
สนใจเปิดร้านค้าบนลาซาด้า คลิก https://lzd.co/PWD2020

เกี่ยวกับลาซาด้า (Lazada)
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 ลาซาด้า กรุ๊ป เป็นผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ขับเคลื่อนและพัฒนาอุตสาหกรรมในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ด้วยการนำเสนอธุรกิจการค้าและเทคโนโลยีอันทันสมัย พร้อมระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง และเครือข่ายการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ลาซาด้าได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทั่วภูมิภาค พร้อมความมุ่งมั่นที่จะให้บริการเหล่านักช็อปออนไลน์กว่า 300 ล้านคนภายในปี 2030 ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ลาซาด้าได้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญของกลุ่มอาลีบาบาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รับการขับเคลื่อนโดยโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีระดับโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ