
สำนักงานนวัตกรรมแหงชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เปิดกลยุทธ์ 7 เครื่องมือส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างนวัตกรรม ภายใต้แคมเปญ "เสริมพลังสร้างโอกาสทางระบบนวัตกรรมภูมิภาค (Empowering Regional Innovation System)" เพื่อกระจายโอกาสให้ผู้ประกอบการหรือสตาร์ทอัพในภูมิภาคต่างๆ สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานทางนวัตกรรมได้อย่างเท่าเทียมทั้งด้านองค์ความรู้ แหล่งเงินทุน และเครือข่าย และสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมขึ้นภายในพื้นที่ เกิดการจ้างงาน สร้างรายได้ ให้กับคนในพื้นทีได้อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ NIA ตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะสามารถสร้างสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเชิงลึกจากทั้งส่วนกลางและภูมิภาค 100 ราย และสร้างบริษัทสตาร์ทอัพหน้าใหม่ 3,000 ราย พร้อมเผย 7 นวัตกรรมเปลี่ยนประเทศ ได้แก่ 1) นวัตกรรมรูปแบบธุรกิจ 2) นวัตกรรมเชิงพื้นที่ 3) นวัตกรรมสังคม 4) นวัตกรรมภาครัฐและสาธารณะ 5. นวัตกรรมข้อมูล 6) นวัตกรรมกระบวนทัศน์ และ 7) นวัตกรรมเชิงศิลป์
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาสังคมไทยถูกดึงเข้าสู่สังคมในยุค New Normal อย่างกะทันหัน ซึ่ง NIA คาดว่าปัญหาเหล่านี้จะยังคงอยู่ไปอีกหลายปี และส่งผลให้หลายธุรกิจต้องปรับตัวอย่างรุนแรง เนื่องจากปัญหาที่เกิดกระทบต่อโครงการสร้างพื้นฐานทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ทั้งนี้ สำหรับปี 2564 การสร้างนวัตกรรมจะไม่ได้ตอบโจทย์แค่ปัญหาการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เท่านั้น แต่จะสะท้อนไปถึงการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน และลดความเหลื่อมล้ำภายในประเทศ โดย NIA จะเน้นการเสริมพลังและสร้างโอกาสนวัตกรรมท้องถิ่นผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งเอกชน รัฐ สถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคม เพื่อสร้างให้จังหวัดหัวเมืองกลายเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมในระดับภูมิภาค และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการหรือสตาร์ทอัพในพื้นที่ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยการส่งเสริมให้เข้าถึงการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยหรือองค์ความรู้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น ให้เกิดการจ้างงานภายในภูมิภาคเพื่อสร้างความเท่าเทียม สร้างโอกาสทางนวัตกรรมในพื้นที่ รวมถึงการสนับสนุนให้เกิดการใช้เทคโนโลยีเชิงลึกในภาคธุรกิจให้มากขึ้น โดยวางเป้าหมายว่าในปี 3 ปีข้างหน้าจะต้องสามารถสร้าง Deep Tech Startup 100 ราย และสร้างบริษัทสตาร์ทอัพหน้าใหม่ 3,000 ราย จาก 7 กลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งแบ่งเป็น "นวัตกรรมเทคโนโลยีเชิงลึก" ได้แก่ เกษตร (Agritech) อาหาร (FoodTech) อารีย์ (AI, Robotic, Immersive; ARI) อวกาศ (SpaceTech) สุขภาพ (Healthtech) และ "นวัตกรรมเชิงคอนเท้นท์" ได้แก่ มาร์เทค (MARtech - ดนตรี/ศิลปะ/นันทนาการ) และการท่องเที่ยว/ไมซ์ (Traveltech & MICE)
ดร.พันธุ์อาจ กล่าวต่อว่า สำหรับการตีโจทย์วิกฤตให้เป็นโอกาส จะพบว่า "เงิน" ไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับการสร้างสรรค์ธุรกิจนวัตกรรม หากแต่เป็นโอกาสทางนวัตกรรมที่ถูกหยิบยื่นให้กับผู้ประกอบการหรือสตาร์ทอัพในภูมิภาค เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน ดังนั้น NIA จึงออกแบบและพัฒนาเครื่องมือต่างๆ ให้ตอบโจทย์การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพให้ครอบคลุมในทุกมิติ ผ่าน 7 เครื่องมือพร้อมเสิร์ฟ ได้แก่
- Incubator/Accelerator ซึ่งมีทั้งมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน เพื่อให้ความรู้ บ่มเพาะ และเร่งการเติบโตของผู้ประกอบการหรือสตาร์ทอัพ เช่น โครงการ AgGrowth, Space F
- Investment โดย NIA จะเป็นสะพานเชื่อมผู้ประกอบการและสตาร์ทอัพให้เข้าถึงแหล่งลงทุนมากขึ้น ผ่านเครือข่ายนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
- Innovation Organization / Digital / Transformation เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรมีการใช้ระบบดิจิทัล หรือปรับเปลี่ยนธุรกิจตัวเองให้สอดรับกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของสังคม รวมถึงการใช้เครื่องมือในการประเมินองค์กรนวัตกรรม
- SID หรือหน่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม เพื่อบ่มเพาะ ยกระดับและพัฒนาขีดความสามารถด้วยการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ การวิจัย และนวัตกรรม ให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคมหรือผู้ที่สนใจเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาสังคมจนสามารถพัฒนาแนวคิดสู่ต้นแบบหรือโครงการนำร่องได้ ซึ่งปัจจุบันมี 8 แห่ง กระจายอยู่ในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
- Grant เงินทุนอุดหนุนให้กับผู้ประกอบการหรือสตาร์ทอัพ ผ่านกลไกการสนับสนุนของ NIA หรือ สถาบันการเงินพันธมิตร ได้แก่ ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- Region/Innovation Hub/Innovation District เพื่อสร้างให้เกิดการทำงานร่วมกันในแบบเครือข่ายที่เข้มแข็ง ซึ่งถือเป็นการสร้างศักยภาพให้แก่พื้นที่นั้นๆ โดยการสร้างนวัตกรรมเชิงพื้นที่จำเป็นต้องเลือกพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
- Entrepreneurial University การส่งเสริมและสนับสนุนความเป็นผู้ประกอบการในระดับมหาวิทยาลัย โดยมุ่งเน้นให้ความรู้และความเข้าใจในการทำธุรกิจนวัตกรรม สามารถสร้างโมเดลการทำธุรกิจใหม่ผ่านเครือข่ายมหาวิทยาลัยหลักๆ ตามหัวเมืองใหญ่ของประเทศ เพื่อกระจายความรู้และโอกาสไปยังท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม NIA ตั้งเป้าอยากเห็นผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนสามารถสร้างโมเดลธุรกิจนวัตกรรมให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างพื้นฐานในปัจจุบัน โดย NIA เล็งเห็นถึง 7 นวัตกรรมที่สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงประเทศได้ในช่วงที่ระบบนวัตกรรมกำลังเปลี่ยนแปลง ได้แก่