กินยังไงให้สมองอ่อนเยาว์เมื่อเข้าวัย 40 ปี

ข่าวทั่วไป Thursday January 28, 2021 17:18 —ThaiPR.net

กินยังไงให้สมองอ่อนเยาว์เมื่อเข้าวัย 40 ปี

สมองของเรากำลังเป็นเบาหวานหรือเปล่า ชอบกินของหวาน ท้องผูกบ่อย มีอาการหลงลืมมากขึ้น และมักเหม่อลอยระหว่างวัน รูปร่างท้วม ไม่แน่ คุณอาจกำลังเสี่ยงจากโรค "เบาหวานสมอง" ก็เป็นได้

เบาหวานสมอง หรือ โรคสมองเสื่อม คือภัยใกล้ตัวคนไทยที่มีระยะฟักตัวกว่า 10 ปี จึงจะออกอาการ ร้ายกว่านั้นยังรักษาให้หายขาดไม่ได้อีกด้วย ยิ่งอายุมากก็ยิ่งเสี่ยงมากขึ้น แต่เราลดความเสี่ยงของโรคนี้ได้

ไม่สายเกินไปที่จะเริ่มดูแลตัวเอง ลองเปิดหนังสือ "กินยังไงให้สมองอ่อนเยาว์เมื่อเข้าวัย 40 ปี" เล่มนี้ ที่ได้รับคำแนะนำดี ๆ จากประสาทศัลยแพทย์ชาวญี่ปุ่นที่ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมมาเป็นเวลากว่า 20 ปี เพียงแค่คุณปรับเปลี่ยนการกินเท่านั้น สุขภาพสมองและร่างกายของคุณจะสมดุลดีอย่างไม่น่าเชื่อ

เพราะทุกส่วนในร่างกายของคนเราสัมพันธ์กับสมองทั้งสิ้น หากอาหารของเราเป็นพิษต่ออวัยวะใด โรคเบาหวานสมองหรือสมองเสื่อมก็จะถามหาได้ไม่ยาก

โรคนี้กระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างมาก เริ่มจากหลง ๆ ลืม ๆ จนกระทั่ง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องมีผู้ดูแลตลอดชีวิต ถึงเวลาที่เราต้องควบคุมดูแลการกินอาหารอย่างจริงจังเพื่อสร้างสมดุลลำไส้ที่ดี คัมภีร์แห่งความอ่อนเยาว์ยืนยาวอยู่ที่นี่แล้ว

หนังสือเล่มนี้จะช่วยแนะนำอาหารที่ดีต่อสุขภาพและเคล็ดลับการกินที่จะช่วยรักษาสมองให้แข็งแรง ไม่เป็นโรคสมองเสื่อม เบาหวาน หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังต่าง ๆ และไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุเท่านั้นที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะโรคเหล่านี้เป็นภัยเงียบที่ฝังตัวในร่างกายได้ทุกช่วยวัย ดังนั้น หนุ่มสาวทั้งหลายควรเริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ด้วยเคล็ดลับความรู้ที่ครอบคลุมและเข้าใจง่าย ดังตัวอย่างเช่น

  • เพียงแค่เปลี่ยนอาหารสมองก็แข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • อาหารและวิธีกินอาหารที่ทำให้สมองกลับมาอ่อนเยาว์
  • เหตุใด "น้ำตาล" จึงทำลายสมอง
  • หากมีความรู้เรื่องน้ำตาลในเลือดจะช่วยป้องกันการแก่ตัวของสมองและโรคต่าง ๆ ได้

ภายในเล่มมีหลายเรื่องน่าสนใจใกล้ตัวที่คุณรู้จัก แต่ยังไม่รู้จริง ซึ่งมีผลต่อสมองของพวกเราทุกคนหากไม่ระวังให้ดี หากรู้เท่าทันสุขภาพสมองที่ดีดีก็อยู่ไม่ไกลแล้ว

  • 0 แคลฯ ไม่ได้แปลว่าน้ำตาลเป็น 0
    • หากถามว่าผลิตภัณฑ์น้ำตาล 0% เป็นสิ่งที่นิยมในสมัยดีนั้นไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหรือเสพติดน้ำตาลหรือไม่ ตอบเลยว่าไม่ ปัจจุบันมีผลการศึกษาว่าผู้ที่กินสารให้ความหวานเทียมเป็นโรคเบาหวานและโรคอ้วนจำนวนมาก เพราะสารเหล่านี้ไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าร่างกาย สมองจึงต้องการน้ำตาลและทำให้รู้สึกหิวมากขึ้น
  • คนจำนวนมากเป็นโรคเบาหวานทั้งที่รูปร่างผอม
    • หลายคนคิดว่าตัวเองผอมจะไม่เป็นเบาหวาน คุณคิดผิด! คนเอเชียจะมีไขมันสะสมในหน้าท้องมากกว่าคนชาติตะวันตก ซึ่งเป็นไขมันอันตรายที่ก่อให้เกิดโรคเบาหวานและโรคหลอดเลือดแดงแข็งอีกด้วย แถมชาวเรายังหลั่งอินซูลินได้น้อยกว่าทำให้แม้น้ำหนักขึ้นเพียงเล็กน้อยแต่น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นง่ายอีกด้วย คนที่ไม่อ้วนก็ไม่ได้รับประกันว่าไม่มีโอกาสเสี่ยงนะ
  • คอเลสเตอรอลเป็นสิ่งจำเป็นต่อการทำงานของสมอง
    • รู้หรือไม่ว่าสมองเป็นอวัยวะที่มีคอเลสเตอรอลสูงที่สุด หากสมองขาดคอเรสเตอรอลแล้วล่ะก็ประสิทธิภาพการทำงานของสมองจะลดลงและเกิดความเครียดได้ง่าย แต่หากสูงเกินไปย่อมเกิดความเสี่ยงต่อโรคอันตรายต่าง ๆ เช่นนั้นแล้วการกินที่สมดุลเป็นสิ่งสำคัญต่อร่างกาย!

สมองไม่ได้ทำหน้าที่แค่ดำรงรักษาชีวิตของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่คอยค้ำจุนความเป็นมนุษย์และความเป็นตัวเรา การทำให้สมองมีสุขภาพที่ดีจะส่งผลให้ร่างกายมีสุขภาพดีไปด้วย

พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ทำต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน อาจจะไม่สามารถเปลี่ยนได้ชั่วข้ามคืน แต่หากเราค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตอนนี้ ย่อมไกลโรคสมองเสื่อมในอนาคตระยะยาวอย่างแน่นอน

จะรักษาสมองหรือทำร้ายสมองขึ้นอยู่กับตัวเราเอง มาเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคเพื่อให้ร่างกาย จิตใจ และสมองมีสุขภาพที่แข็งแรง เพื่อ ตัวคุณเอง และ คนที่คุณรัก กันเถอะ


แท็ก ว่าน   สมอง  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ