ส่องความหมายอาหารมงคลเทศกาลตรุษจีน สิงคโปร์เทียบเคียงไทย มีอะไรต่างกันบ้าง

ข่าวบันเทิง Friday February 5, 2021 15:10 —ThaiPR.net

ส่องความหมายอาหารมงคลเทศกาลตรุษจีน สิงคโปร์เทียบเคียงไทย มีอะไรต่างกันบ้าง

วันนี้ การท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board - STB) จะพามาทำความรู้จักและเข้าใจเทศกาลตรุษจีนในสิงคโปร์ให้มากขึ้นว่ามีรูปแบบหรือธรรมเนียมเหมือนหรือแตกต่างจากบ้านเราอย่างไร

ทุกๆ ปี สิงคโปร์จะจัดเทศกาล 'ปีใหม่จีน' หรือตรุษจีนอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยจำนวนประชากรเชื้อสายจีนกว่า 75% ของประเทศ ย่านไชนาทาวน์ จะถูกเนรมิตให้เป็นสีแดง - ทอง กินเวลานานกว่าสองสัปดาห์

วันแรกของเทศกาล ร้านค้า และธุรกิจส่วนใหญ่มักจะปิดทำการ วันนี้จะเป็นวันที่เด็กได้หยุดเรียน โดยใช้โอกาสดังกล่าวเดินทางไปแสดงความเคารพต่อครอบครัวผู้อาวุโส พร้อมกับรับพร และรับอั่งเปา ซึ่งก็เป็นธรรมเนียมว่า ผู้ใหญ่จะมอบอั่งเปาให้แก่ลูกๆ หลานๆ และผู้ที่อายุน้อยกว่าทุกคน

เมื่อเทศกาลเดินทางมาถึงวันที่ 3 ชาวสิงคโปร์จะเรียกวันนี้ว่าเป็น "วันสุนัขแห่งความภักดี" ความหมายสำคัญก็คือ 'วันพักผ่อน' เพราะฉะนั้น หากจะเยี่ยมญาติ หรือรับผู้มาเยี่ยม ต้องผ่านพ้นวันนี้ไปก่อน เพราะวิญญาณชั่วร้าย อาจอยู่ในพื้นที่กลางแจ้งทุกที่ และทำร้ายทุกคนที่ออกจากบ้าน ร้านจีนดั้งเดิม จึงหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 3-5 ของเทศกาล เพื่อหลีกหนีวิญญาณชั่วร้าย

และวันที่ 15 จะเป็น "คืนแรก" ของวันพระจันทร์เต็มดวง เป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำ รวมญาติกินข้าวด้วยกัน ทั่วบ้านจะประดับด้วยโคมไฟ พร้อมคำอวยพรเช่น อยู่ดีมีสุข อายุยืนยาว ขอให้ร่ำรวยเงินทอง พร้อมกับจัดวางส้ม ที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลประดับไว้ในบนโต๊ะกินข้าว คู่กับ "เกี๊ยว" รูปพระจันทร์เต็มดวงเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลแห่งความสุขของทุกคนครอบครัว

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ปีนี้ เทศกาลตรุษจีนของสิงคโปร์ จึงจัดขึ้นแบบนิวนอร์มัล เริ่มตั้งแต่การห้ามรวมกลุ่มในครอบครัวเดียวกันเกิน 8 คน เยี่ยมบ้านได้ไม่เกิน 2 บ้านต่อวัน ให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด พร้อมกับต้องพกอุปกรณ์ติดตามตัวไปด้วยทุกครั้ง ซึ่งจะจับสัญญาณการเดินทางไปสถานที่ต่างๆ อย่าง Trace Together Token รวมถึงให้ลดการใช้เสียง และขอให้จัดกิจกรรมแจกอั่งเปาด้วยระบบ E-Banking แทนการแจกซองแดงแบบเดิม เพื่อลดความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสให้มากที่สุด

แล้วอาหาร-ขนมมงคลของสิงคโปร์ที่นิยมมอบให้กันในวันตรุษจีน มีอะไรบ้าง และมีอะไรแตกต่างจากเทศกาลตรุษจีนในไทยอย่างไร ก่อนอื่นลองมาดูอาหาร และขนมมงคลในสิงคโปร์กันก่อน

  • ส้มโอ ความหมายของส้มโอก็คือการนำเอา "โชคลาภ" ความอุดมสมบูรณ์ ความมั่งคั่ง ร่ำรวย มาสู่เจ้าของบ้าน ฉะนั้น หลายบ้านจึงมีผลส้มโอประดับไปด้วยพร้อมๆ กัน ชาวสิงคโปร์นิยมนำส้มโอไปมอบ 2 ลูก ด้วยความเชื่อที่ว่า "สิ่งดีๆ จะมาพร้อมกัน"
  • ส้ม สิงคโปร์นิยมมอบส้มหรือ "จวี๋จื่อ" ให้กัน เพื่อความเป็นสิริมงคล โดยจะใส่ส้มในซองสีแดง หรือกล่องสีแดง - สีทอง เป็นจำนวนคู่ กี่ลูกก็ได้ ใช้มือทั้งสองข้างมอบ ยิ่งแนบไปพร้อมซองอั่งเปายิ่งดี
  • ขนมทาร์ทสับปะรด (Pineapple Tarts) พายชิ้นเล็ก ไส้สับปะรด เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของขนมหวานสิงคโปร์ ความหมายของสับปะรด ตามภาษาจีนฮกเกี้ยน หมายถึง "โชคลาภ" กำลังจะมาหาเจ้าบ้าน
  • ขนมเข่ง" ภาษาจีนเรียกว่า "เหนียนเกา" (Nian gao) ขนมเข่ง ทำจากแป้งข้าวเหนียว เหนียนนั้นแปลว่า "ปี" ส่วน "เกา" แปลว่าสูงขึ้น หรือสูงส่ง จึงมีหมายความอีกอย่างว่าปีนี้จะดียิ่งขึ้น และเจริญก้าวหน้ามากขึ้น
  • เกี๊ยว เป็นอาหารมงคลที่คนจีนตั้งแต่โบราณ ทุกชนชั้น ฐานะ ต่างก็กินเพื่อเสริมความเป็นมงคล เพราะคำว่า เจี่ยวจึ ในภาษาจีนนั้นพ้องกับคำที่แปลว่าสิ่งเก่ากำลังจะผ่านพ้น สิ่งใหม่ๆ กำลังจะเข้ามา
  • หยี่ซัง (Yu sheng) อาหารมงคลประจำเทศกาลสำหรับชาวสิงคโปร์ โดยหยี่หมายถึงปลา และซัง หมายถึงดิบ ซึ่งพ้องเสียงกับคำว่าอุดมสมบูรณ์ แต่ปลาดิบ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งปลาแซลมอน หรือปลาทูน่า อย่างเดียวยังไม่เพียงพอ หยี่ซัง นั้นรวบรวมอาหารซึ่งมีชื่อพ้องกับความหมายมงคลหลายอย่าง อาทิ แครอท ที่หมายถึงความสิริมงคล แตงกวา ที่หมายถึงความเจริญก้าวหน้า แมงกะพรุนน้ำมันงา ซึ่งหมายถึงความโชคดี หรือซอสถั่วลิสงบดซึ่งหมายถึงความร่ำรวย วิธีกิน ต้องเริ่มต้นจากการบีบมะนาวใส่ปลาดิบ ค่อยๆ คลุกซอสวัตถุดิบทั้งหมดเข้าด้วยกันด้วยตะเกียบ พร้อมกับกล่าวคำอวยพรไปด้วยระหว่างบรรจงคลุกเคล้า ประเพณีการรับประทานหยี่ซังร่วมกัน มีอีกชื่อว่า"โล เฮ" (lo hei) ซึ่งมีความหมายถึงการโยนเรียกโชค นำสิ่งดีๆ เข้าหาตัว และให้ประสบความสำเร็จตลอดปี
  • บัวลอยในน้ำเชื่อม ภาษาจีนเรียกว่า "ถ่างหยวน" เป็นสัญลักษณ์ของการรวมตัวกันพร้อมหน้าของคนในครอบครัว ชาวสิงคโปร์จะร่วมโต๊ะกินบัวลอยพร้อมกัน ในวันสุดท้ายของเทศกาล ก่อนบอกลาญาติสนิท
  • ขนมถ้วยฟู หรือ ฟาเกา (Fa gao) ซึ่งหมายถึงความเจริญ รุ่งเรือง เฟื่องฟู ยิ่งอบแล้วด้านบนของขนมบานออกเท่าใด ยิ่งหมายความว่าคุณจะเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นเท่านั้น
  • ขณะที่เทศกาลตรุษจีนในไทยนั้น มีอาหาร - ขนม มงคลหลายชนิดที่พ้องกับประเพณีในสิงคโปร์ ไม่ว่าจะเป็นส้ม ขนมเข่ง ขนมบัวลอย เกี๊ยว ขนมถ้วยฟู ซึ่งก็เป็นอาหารมงคล เพราะความหมายนั้นพ้องเสียงตรงกัน สะท้อนให้เห็นว่าวัฒนธรรมของชาวไทยเชื้อสายจีน ไม่ได้ห่างไกลจากชาวสิงคโปร์เท่าใดนัก แต่อย่างไรก็ตาม มีความแตกต่างอยู่ในอาหารมงคลหลายชนิดเช่นเดียวกัน เริ่มตั้งแต่

  • โหงวก้วยกระทงเผือก ซึ่งประกอบด้วยส่วนผสมหลัก 5 อย่าง ได้แก่ พุทราจีน มะม่วงหิมพานต์ แปะก๊วย เห็ดหอม ไก่และกุ้ง ผัดกับซอส นำมาวางในกระทงเผือก ความหมายก็คือยิ่งกินโหงวก้วย จะยิ่งโชคดีตลอดทั้งปี
  • ขนมเทียน ความหมายของขนมมงคลชนิดนี้ หมายถึง "ความสว่าง" และความราบรื่น โดยขนมเทียนแบบไทยๆ มีทั้งไส้เค็มนิดๆ หอมพริกไทย และไส้หวาน โดยทั้งสองไส้ ทำจากแป้งข้าวเหนียว ห่อใบตอง กินกันอย่างเพลิดเพลินทั้งครอบครัวตลอดเทศกาลตรุษจีน
  • ขนมจันอับ ขนม 5 อย่างสำหรับไหว้เจ้า ได้แก่ ขนมถั่วตัด งาตัด ถั่วเคลือบน้ำตาล ฟักเชื่อม และข้าวพอง นำมาจัดเรียงไว้ด้วยกัน ความหมายสำคัญคือยิ่งรับประทาน ยิ่งมีความสุขเพิ่มพูนมากขึ้น จันอับ ยังใช้ในงานแต่งงานด้วย โดยมีความหมายว่าชีวิตรักของคนสองคน จะอยู่คู่กันอย่างสุขสันต์
  • บะหมี่ - มี่ซั่ว คนไทยเชื้อสายจีนนิยมกินทั้งในวันปีใหม่จีน และวันเกิด มีความหมายถึงอายุยืนยาว วิธีปรุงและวิธีรับประทานคือห้ามตัดเส้นหมี่เด็ดขาด และค่อยๆ ใช้ตะเกียบคีบกินจนหมดเส้น
  • อาหารและขนมมงคลทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่สอดแทรกผ่านอาหารการกิน และกลายเป็นมรดกตกทอด ที่ทำให้เทศกาลตรุษจีน มีความหมายมากกว่าการเป็น "วันขึ้นปีใหม่" เพียงอย่างเดียว

    เกี่ยวกับการท่องเที่ยวสิงคโปร์
    การท่องเที่ยวสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board - STB) เป็นหน่วยงานเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจชั้นนำในด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักในภาคการบริการของสิงคโปร์ ด้วยการสร้างพันธมิตรกับพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรม และชุมชน ส่งผลให้การท่องเที่ยวสิงคโปร์สร้างให้สิงคโปร์เกิดภูมิทัศน์การท่องเที่ยวที่โดดเด่นและหลากหลาย การท่องเที่ยวสิงคโปร์ได้เปิดตัวแบรนด์แคมเปญใหม่ ภายใต้แนวคิด "Passion Made Possible: ทุกความชอบที่ใช่ เป็นไปได้ที่สิงคโปร์" เพื่อสร้างความแตกต่างให้กับสิงคโปร์ในฐานะจุดมุ่งหมายอันมีชีวิตชีวาที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ปลดปล่อยและแสดง passion ของตนเองได้อย่างเต็มที่ ผู้สนใจสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.stb.gov.sg และ www.visitsingapore.com หรือติดตามผ่านทวิตเตอร์ได้ที่ @STB_sg (https://twitter.com/stb_sg)


    เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ