สมศ. ดีเดย์ใช้ระบบ "ตรวจเยี่ยมสถานศึกษาแบบออนไลน์" พร้อมเผยลดเวลาประเมินลงเหลือเพียงครึ่งวัน ปลื้มประเมินรูปแบบใหม่ รร. ส่ง SAR แล้วเฉียด 2 หมื่นแห่ง

ข่าวทั่วไป Wednesday March 3, 2021 17:06 —ThaiPR.net

สมศ. ดีเดย์ใช้ระบบ

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา หรือ สมศ. เริ่มตรวจเยี่ยมสถานศึกษาที่ผ่านการประเมิน SAR แล้วผ่านรูปแบบออนไลน์ครั้งแรกตาม"แนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกภายใต้สถานการณ์โควิด-19 : การตรวจเยี่ยม Online" ผ่าน แอพพลิเคชั่น Google Meet, Line Video Call หรือแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ที่สอดคล้องกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยในการประเมินตรวจเยี่ยม Online มีการเปลี่ยนแปลงและเป็นประโยชน์หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาที่ใช้ในการประเมินเพียง ครึ่งวันจากเดิมที่ใช้เวลา 3 วัน แต่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างครบถ้วน เน้นหลักฐานเชิงประจักษ์ สัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้อง ดูบริบทการเรียนการสอนที่เป็นปัจจุบัน ก็สามารถวัดคุณภาพสถานศึกษาได้ พร้อมเผยในปี 2564 ได้ตั้งเป้าประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาให้ได้อย่างน้อย 17,000 แห่ง ขณะนี้มีสถานศึกษาส่ง SAR มาแล้วเกินกว่าจำนวนที่ สมศ.ได้ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว โดยเบื้องต้นโรงเรียนส่วนใหญ่ที่ส่ง SAR เข้ามานั้น มีความประสงค์ที่จะรับการประเมินผ่านรูปแบบใหม่ เพื่อให้ สมศ. ตรวจสอบคุณภาพสถานศึกษาและนำผลที่ได้ไปใช้พัฒนาสถานศึกษาต่อไป

ดร.นันทา หงวนตัด รักษาการผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา กล่าวว่า จากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ส่งผลให้ สมศ. ต้องปรับรูปแบบการประเมินคุณภาพภายนอกใหม่ โดยการประเมินคุณภาพภายนอกในครั้งนี้ สมศ.จะดำเนินการตามรูปแบบการประเมินคุณภาพที่กำหนดขึ้นมาใหม่ คือ "แนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกภายใต้สถานการณ์โควิด-19" ซึ่งแบ่งการประเมินออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรก การประเมินผลจากการวิเคราะห์ SAR เป็นการพิจารณาเอกสารหลักฐานของการประกันคุณภาพภายใน (IQA) ตามที่ปรากฎในรายงานการประเมินตนเอง (SAR ) มีระดับคุณภาพเป็น 3 ระดับ คือ ดี พอใช้ ปรับปรุง และระยะสองคือการประเมินจากการตรวจเยี่ยม (Site Visit) พิจารณาจากหลักฐานเชิงประจักษ์ของ IQA ด้วยการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ซึ่งในขณะนี้ปรับเปลี่ยนเป็นการประเมินรูปแบบออนไลน์แบ่ง ระดับคุณภาพเป็น 5 ระดับ คือ ดีเยี่ยม ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) ระลอกใหม่ที่ทำให้ สมศ. ไม่สามารถลงพื้นที่ทำการประเมินคุณภาพภายนอกได้ โดยในช่วงเดือนธันวาคม 2563 ที่ถือเป็นช่วงแรกในการเริ่มการประเมินคุณภาพภายนอกรอบปี 2564 สมศ.ได้ดำเนินการวิเคราะห์ SAR ของสถานศึกษาจำนวน 3,831 แห่งเรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างส่ง (ร่าง) รายงานผลการประเมินไปยังสถานศึกษา และหากสถานศึกษาทั้งหมด หรือบางส่วนพึงพอใจกับผลการประเมินในระยะแรกแล้วก็สามารถหยุดการประเมินคุณภาพภายนอกได้เลย เพราะถือว่าเป็นการประเมินที่เป็นไปตามมาตราที่ 49 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งพชาติ พ.ศ.2542 เรียบร้อยแล้ว

ดร.นันทา กล่าวต่อว่า ส่วนการประเมินในระยะสอง จะเป็นการประเมินในลำดับต่อไปหลังจากที่สถานศึกษาทราบผลการประเมินในระยะแรก และยึดถือตามความสมัครใจของสถานศึกษาเท่านั้น โดยหากสถานศึกษาต้องการรับการประเมินสามารถแจ้งความประสงค์มายัง สมศ. ได้ทันที โดย สมศ.จะทำการนัดหมายและแจ้งไปยังสถานศึกษาเพิ่มเติมว่าผู้ประเมินภายนอกจะประเมินในประเด็นใดบ้างตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้รวมถึงการขอข้อมูลหลักฐานบางประการที่ผู้ประเมินสามารถตรวจสอบได้ ก่อนพิจารณาการประเมินในรูปแบบออนไลน์ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านระบบเทคโนโลยีของสถานศึกษาเอง ตลอดจนการเตรียมบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ที่ผู้ประเมินต้องการสัมภาษณ์เพิ่มเติม เป็นต้น

"สำหรับการประเมินในระยะที่ 2 นั้น สมศ.ได้เตรียมการตรวจเยี่ยมในรูปแบบออนไลน์ ด้วยระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ผ่าน แอพพลิเคชั่น Google Meet, Line Video Call หรือแอพพลิเคชั่น อื่น ๆ ตามที่สถานศึกษาสะดวกเพื่อไม่เป็นการสร้างภาระเพิ่มเติม โดยจะใช้เวลาเพียง 3 ชั่วโมง หรือแค่ครึ่งวันเท่านั้น จากเดิมที่ต้องใช้เวลานาน 3 วันในการตรวจเยี่ยมสถานศึกษา จากนั้นผู้ประเมินจะรายงานผลมายัง สมศ. เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ สมศ.พิจารณารับรอง ก่อนส่งผลการประเมินไปยังสถานศึกษาและหน่วยงานต้นสังกัด"

ดร.นันทา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการประเมินคุณภาพภายนอกรอบใหม่ สมศ.ได้วางเป้าหมายไว้ว่าในปี 2564 จะต้องประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาให้ได้อย่างน้อย 17,000 แห่ง ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดในวันที่ 2 มีนาคม 2564 มีสถานศึกษาส่ง SAR มาแล้วเกินกว่าจำนวนที่ สมศ.ได้ตั้งเป้าหมายไว้ และเบื้องต้น สมศ. ทราบว่าโรงเรียนส่วนใหญ่ที่ส่ง SAR เข้ามานั้น มีการเรียนการสอนที่ปรับไปสู่ช่องทางออนไลน์ และมีความประสงค์ที่จะรับการประเมินผ่านรูปแบบใหม่ เพื่อให้ระบบที่ใช้ในการพัฒนาสถานศึกษา - การเรียนการสอนมีความสอดคล้องกัน

ด้านซิสเตอร์ ดร.บุษบา ชูวิรัช อธิการิณีโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ กล่าวว่า โรงเรียน เซนต์ฟรังซีสซาเวียร์คอนแวนต์ เป็นโรงเรียนภายใต้สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล-มัธยมศึกษาปีที่ 6 มีจำนวนนักเรียนประมาณกว่า 2,100 คน สำหรับการจัดการเรียนการสอนช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 ระบาด ทางโรงเรียนได้มีการเตรียมความพร้อมครูผู้สอนแต่ละรายวิชาเพื่อให้จัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์ในรายวิชาที่สามารถทำได้ ส่วนวิชาใดที่จำเป็นจะต้องเรียนในห้องเรียนหรือรายวิชาการปฏิบัติ จะเก็บไว้ก่อน เพราะการเรียนออนไลน์นั้นจากการวิเคราะห์พบว่าเด็กจะมีสมาธิเพียงแค่ประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น ดังนั้นการเรียนออนไลน์จึงไม่เหมาะจะสอนในวิชาที่ยากและซับซ้อน

อย่างไรก็ตาม การจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อมในการเข้ารับการประเมินคุณภาพภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ระบาดในปีนี้ด้วย เพราะหลังจากที่โรงเรียนได้รับแจ้งเกี่ยวกับรูปแบบการประเมินแนวใหม่จากสมศ. ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมของครู และข้อเสนอแนะจากผลการประเมิน SAR ในการนำเสนอข้อมูล ซึ่งทางโรงเรียนไม่ได้ทำเอกสารอะไรเพิ่มเติม ทั้งนี้จากการประเมินในระยะแรกด้วยการวิเคราะห์ SAR ผลการประเมินของโรงเรียนอยู่ในเกณฑ์ "ดี" แต่ทางโรงเรียนต้องการยกระดับมาตรฐานให้ดียิ่งขึ้นจึงได้ยื่นความประสงค์ไปยัง สมศ. เพื่อขอเข้ารับการประเมินคุณภาพภายนอกในระยะสองเพิ่มเติม เนื่องจากทางโรงเรียนเห็นว่าการประเมินในระยะสองเป็นการประเมินในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งไม่ได้รบกวนเวลาเรียนของนักเรียน หรือรบกวนเวลาสอนของครูแต่อย่างใด เนื่องจากก่อนที่ผู้ประเมินจะออนไลน์เข้ามา สมศ. จะแจ้งประเด็นในเบื้องต้นก่อนว่าจะขอตรวจตามเกณฑ์ที่กำหนด โดยในการประเมินระยะสองนั้น สมศ.ได้เน้นการประเมินจากสิ่งที่โรงเรียนปฏิบัติจริง ดังนั้นการตัดสินใจเข้ารับการประเมินในระยะสองสถานศึกษาจึงหวังว่านอกจากมาตรฐานการประเมินที่จะต้องออกมาในระดับดีเยี่ยมแล้ว โรงเรียนจะได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพ รู้ว่าจุดเด่นของโรงเรียนคืออะไรเพื่อให้โรงเรียนสามารถนำข้อมูลไปพัฒนาให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 0-2216-3955 หรือเข้าไปที่ www.onesqa.or.th


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ