ASIMAR ประกาศผลงานไตรมาสแรก ปี 64 มีรายได้รวม 155.81 ลบ. เพิ่มขึ้น 16.71% จากงานซ่อมเรือที่สาขาสมุทรปราการสามารถรับงานได้เพิ่มมากขึ้น และมีมูลค่าซ่อมต่อลำสูงขึ้น และรายได้จากงานต่อเรือพุ่งกว่า 26% คาดแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2564 ผลงานยังเติบโตได้ดี จากงานในมือทยอยรับรู้รายได้ และการเข้าประมูลงานใหม่หลายโปรเจ็กต์ เชื่อหนุนรายได้ปีนี้โตราว 10% เปิดแผนรับมือสู้โควิด-19 รอบ 3 เน้นให้ความสำคัญดูแลพนักงานให้ปลอดภัย เผยภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดรอบใหม่ บริษัทฯ ยังคงมีรายได้จากงานซ่อมเรือเป็นหลัก
นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด(มหาชน) หรือ ASIMAR เปิดเผยว่า สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/2564 มีกำไรสุทธิ 14.84 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.87 ล้านบาท โต 35% โดยมีรายได้มาจากงานซ่อมเรือ 106.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.91ล้านบาท โดยงานซ่อมเรือที่สาขาสมุทรปราการ สามารถรับงานได้เพิ่มขึ้น และมีมูลค่าซ่อมต่อลำสูงขึ้น ส่งผลให้รายได้ที่เกิดขึ้นจากเรือซ่อมเพิ่มขึ้น
ส่วนรายได้จากงานต่อเรืออยู่ที่ 28.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 5.80 ล้านบาท โต 26% โดยในไตรมาสที่ 1/2564 มีการส่งมอบงานเรือโครงการต่อเรือเก็บขยะ ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งจำนวน 2 ลำ รวมทั้งบริษัทฯมีการรับรู้รายได้โครงการต่อเรือโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าของบริษัท ไมน์โมบิลิตี้ รีเสิร์ช จำกัด จำนวน 5 ลำ โดยมีการรับรู้รายได้ไปแล้วราว 80% และมีโครงการต่อเรือกำจัดผักตบชวาอลูมิเนียม ของกรมโยธาธิการและผังเมือง จำนวน 7 ลำ โดยสองลำแรกมีกำหนดส่งมอบภายในไตรมาส 2/2564 นี้
"ผลประกอบการที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจทั้งรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น พร้อมสร้างความเชื่อมั่น แม้ในสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ถือเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทฯ ได้รับงานต่อเรือ และซ่อมเรือในกลุ่มลูกค้าใหม่ รวมถึงประเภทงานที่หลากหลายขึ้น ประกอบกับการควบคุมต้นทุนอย่างรัดกุม ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถสร้างผลกำไรได้ดี" นายสุรเดช กล่าว
ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/2564 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสแรกที่ผ่านมา จากงานในมือที่ทยอยรับรู้รายได้ นอกจากนี้ บริษัทเตรียมส่งมอบงานต่อเรือโดยสารปรับอากาศพลังงานไฟฟ้าแบบ Catamaran จำนวน 5 ลำ กับบริษัท ไมน์โมบิลิตี รีเสิร์ช จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA โดยคิดเป็นมูลค่างาน 67 ล้านบาท เตรียมทยอยส่งมอบภายในเดือนมิ.ย.นี้ นอกจากนี้บริษัทยังรอลุ้นข่าวดีจากการเข้าร่วมประมูลงานในไตรมาส 2/2564
รวมทั้งบริษัทฯ เตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมประมูลโครงการต่อเรือของภาครัฐอีกหลายโครงการเพื่อสนับสนุนการเติบโตในระยะยาว สนับสนุนรายได้เติบโต 10% ได้ตามแผน จากปัจจุบันบริษัทมีงานที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ราว 110 ล้านบาท
"ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบ 3 บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นความปลอดภัยในการดำเนินธุรกิจ กำหนดมาตรการในการป้องกันและดูแล ทั้งในส่วนพนักงานและลูกค้าที่มาใช้บริการในอู่ แม้ว่าจะมีผลกระทบจากโควิด-19 แต่ลูกค้ายังคงเชื่อมั่น และให้ความไว้วางใจ มีงานซ่อมเรือเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกำหนดมาตรการป้องกันโควิด-19 รวมทั้งสุขอนามัยในการทำงาน และการเข้าออกบริษัทฯ อย่างเข้มงวด" นายสุรเดช กล่าว