กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์
ดร.ลักขณา ลีละยุทธโยธิน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เซเรบอส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้สนับสนุนโครงการทุนวิจัย เซเรบอส อวอร์ด ซึ่งเป็นทุนที่จัดขึ้นเพื่อมอบให้กับนักวิจัยที่ต้องการนำไปเป็นทุนในการค้นคว้าวิจัยผลงานอันจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยรวม ได้เปิดเผยถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากร ทางด้านงานวิจัยหรือนักวิจัยในประเทศไทยว่าตอนนี้ประเทศไทยกำลังประสบภาวะขาดแคลนนักวิจัย ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว “งานวิจัย” ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากในการสร้างฐานความรู้ใหม่ ของการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ
เรามีบัณฑิตจบใหม่เพิ่มมากขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่าน แต่เป็นการเพิ่มในเชิงปริมาณเท่านั้น เห็นได้จากสัดส่วนของผลงานวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ รวมถึงการจดสิทธิบัตรต่างๆ ที่มีอยู่ค่อนข้างน้อยมาก เรามีผลงานของนักวิจัยไทยที่ได้รับการตีพิมพ์เพียง 1,207 ผลงานเท่านั้นในปี 2542 ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นมีถึง 81,043 ผลงาน หรือประเทศสิงคโปร์เพื่อนบ้านเรา ที่มีผลงานถึง 3,637
และอีกปัญหาหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการขาดแคลนงบประมาณสนับสนุน แม้เราจะมีบุคลากรนักวิจัยที่เก่งๆ อยู่มาก แต่ยังขาดการสนับสนุนด้านเงินทุน ประเทศไทยมีสัดส่วนการลงทุนเพื่อการวิจัยเพียง 0.26 % ของจีดีพีเท่านั้น
ซึ่งบริษัทเซเรบอสเองก็ตระหนักดีถึงปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น จึงได้ ก่อตั้งโครงการ ทุนวิจัยเซเรบอส อวอร์ด (Cerebos Awards) ขึ้น เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการค้นคว้าวิจัยทางด้านโภชนาศาสตร์ เภสัชศาสตร์ และสาขาที่เกี่ยวข้อง เช่น แพทย์ เภสัชกร นักโภชนาการ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์ และนักวิชาการทั่วไป โดยไม่มีข้อผูกพันใดๆ เพื่อให้ผู้รับทุนวิจัยนำทุนที่ได้นั้นไปใช้ประโยชน์ในด้านการค้นคว้าวิจัยผลงานของตนเองอันจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป ที่ผ่านมา มีผลงานที่ได้รับทุนวิจัย เซเรบอส อวอร์ด ไปแล้วกว่า 11 โครงการ
ส่วนในปีนี้มีผู้รับทุนทั้งสิ้น 3 โครงการคือ
1.การศึกษาผลของยาลีโวโดปาและไม้เท้าเลเซอร์ช่วยเดินในผู้ป่วยโรคพาร์กินสันที่มีปัญหาการเดินติดขัด โดย น.พ.รุ่งโรจน์ พิทยศิริ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย
2. การเสริมกลูตามีนไดเปปไทด์ทางหลอดเลือดแก่ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดมายอีลอยด์ที่กำลังได้รับยาเคมีบำบัด : ผลต่อการทำหน้าที่ของนิวโตรฟิล การป้องกันการเกิดผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัดและต้นทุนต่อประสิทธิผล โดยมี ศ.นพ.สุรัตน์ โคมินทร์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี ม.มหิดล เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย และ ผศ.ภญ.ชุลีกร สอนสุวิทย์ เป็นผู้ร่วมวิจัย
3.การศึกษาเภสัชจลนศาสตร์และประสิทธิภาพของแอลฟ่าไลโปอิคแอซิดต่อพัฒนาการการเกิดภาวะแทรกซ้อนทางไตในผู้ป่วยชาวไทยที่มีเบาหวานชนิดที่ 2 โดยมี ผศ.ดร.สุพัตรา ปรศุพัฒนา ภาควิชาพิษวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ ม.ขอนแก่น เป็นหัวหน้าโครงการวิจัย
โดยทางโครงการได้ให้ทุนสนับสนุนทั้ง 3 โครงการเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 200,000 บาท ซึ่งทุนดังกล่าวจะไม่มีข้อผูกพันใดๆ เพื่อให้ผู้รับทุนวิจัยนำทุนที่ได้นั้นไปใช้ประโยชน์ในด้านการค้นคว้าวิจัยผลงานของตนเองอันจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป และหวังว่าผลงานวิจัยทั้ง 3 เรื่องบรรลุผลตรงตามวัตถุประสงค์ของคณะผู้จัดทำโครงการฯ ต่อไป”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 0-2736-3430 ต่อ 31--จบ--