เดอะโคคา-โคล่า คัมปะนี ผนึกกำลัง The Ocean Cleanup เดินหน้าทำความสะอาดแม่น้ำ 15 แห่งทั่วโลก ป้องกันการรั่วไหลของขยะพลาสติกลงสู่มหาสมุทร

ข่าวทั่วไป Friday June 4, 2021 15:55 —ThaiPR.net

เดอะโคคา-โคล่า คัมปะนี ผนึกกำลัง The Ocean Cleanup เดินหน้าทำความสะอาดแม่น้ำ 15 แห่งทั่วโลก ป้องกันการรั่วไหลของขยะพลาสติกลงสู่มหาสมุทร

เดอะโคคา-โคล่า คัมปะนี จับมือเป็นพันธมิตรระดับโลกรายแรกกับ The Ocean Cleanup เพื่อร่วมกันทำงานในโครงการทำความสะอาดแม่น้ำเดินหน้าแนะนำและดำเนินการติดตั้งนวัตกรรมเครื่อง Interceptor เครื่องทำความสะอาดแม่น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ในแม่น้ำ 15 แห่งทั่วโลกให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2565 มุ่งผสานพลังองค์กรระดับโลกของโคคา-โคล่า เข้ากับโซลูชันข้อมูลและเทคโนโลยีของ The Ocean Cleanup เพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญเดียวกันในการป้องกันและดักจับขยะพลาสติกจากแม่น้ำไม่ให้รั่วไหลลงสู่มหาสมุทร พร้อมระดมกำลังภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาชนทั่วโลก สร้างการมีส่วนร่วมด้านปัญหาขยะพลาสติก ควบคู่ไปกับการดูแลระบบนิเวศ สิ่งมีชีวิต และแหล่งน้ำต่าง ๆ

มร. โบแยน สแลต ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งองค์กร The Ocean Cleanup กล่าวว่า "ปัจจุบัน แม่น้ำกว่า 1,000 แห่งทั่วโลกปล่อยขยะพลาสติกลงสู่มหาสมุทรเป็นปริมาณสูงถึงร้อยละ 80 ของขยะในมหาสมุทรทั้งหมดและมีทีท่าจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ภายใต้ภารกิจสำคัญในการกำจัดขยะพลาสติกในมหาสมุทร องค์กรจึงต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน โดยจากจำนวนขยะที่รวบรวมได้ในระบบ พบว่าจำนวนมากเป็นขวดพลาสติกซึ่งรวมถึงบรรจุภัณฑ์ของโคคา-โคล่าด้วย นั่นจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับ The Ocean Cleanup และมหาสมุทรทั่วโลก ที่โคคา-โคล่าได้เข้ามาเป็นพันธมิตรรายแรกของอุตสาหกรรม เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกจากการจัดการปัญหาขยะพลาสติกระดับโลกนี้ไปด้วยกัน โดยองค์กรจะนำการเรียนรู้ที่มีประโยชน์จากความร่วมมือในครั้งนี้ ไปพัฒนา ต่อยอด และขยายการดำเนินงานอย่างรวดเร็วในอนาคตต่อไป"

Interceptor เปิดตัวครั้งแรกในปี 2562 โดยเป็นนวัตกรรมที่ช่วยป้องกันไม่ให้ขยะพลาสติกจากแม่น้ำต่างๆ รั่วไหลลงสู่มหาสมุทร Interceptor ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100% และมีระบบดักเก็บขยะได้โดยอัตโนมัติ ด้วยเหตุนี้ Interceptor จึงสามารถใช้ได้ดีกับแม่น้ำที่มีปัญหามลพิษจากขยะอย่างรุนแรงในเกือบทุกพื้นที่ทั่วโลก ตลอดจนมีศักยภาพที่จะพัฒนามาสู่การใช้งานจริงในวงกว้าง  

มร. เจมส์ ควินซี่ย์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดอะโคคา-โคล่า คัมปะนี กล่าวว่า "ในฐานะผู้นำด้านเครื่องดื่มระดับโลก โคคา-โคล่ามุ่งมั่นดำเนินงานในด้านต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าวัสดุที่ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดจะถูกรวบรวมและนำกลับมาใช้ใหม่อย่างเหมาะสม ไม่กลายเป็นขยะเล็ดลอดออกไปยังสิ่งแวดล้อม โคคา-โคล่าจึงพร้อมสนับสนุนทีมงานและเทคโนโลยีของ The Ocean Cleanup เพื่อปกป้องระบบนิเวศทางทะเล รักษาแหล่งน้ำที่มีค่าของโลกใบนี้"

ในปัจจุบัน โคคา-โคล่ากำลังดำเนินการแบบบูรณาการในการจัดการกับปัญหาขยะพลาสติกผ่านวิสัยทัศน์ระดับโลก World Without Waste โดยมีเป้าหมายหลักคือ 1) ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% ก่อนปี 2568 และใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิลไม่น้อยกว่า 50% ก่อนปี 2573 2) จัดเก็บบรรจุภัณฑ์เพื่อนำมารีไซเคิลในปริมาณเทียบเท่ากับบรรจุภัณฑ์ที่จำหน่ายออกสู่ตลาดให้ได้ก่อนปี 2573 และ 3) ประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่สะอาดปราศจากขยะมูลฝอยทั้งบนพื้นดินและในทะเล นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านวัสดุบรรจุภัณฑ์และนวัตกรรมไร้บรรจุภัณฑ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการรีไซเคิล เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบาพิเศษ เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์จากพืช รวมถึงนวัตกรรมเครื่องจำหน่ายเครื่องดื่ม โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทได้ตั้งเป้าลดการใช้พลาสติกบริสุทธิ์จากเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลกลง 20% จากปริมาณการใช้ในปัจจุบันให้ได้ภายในปี 2568[1] อีกด้วย

และเพื่อตอบรับวิสัยทัศน์ดังกล่าว โคคา-โคล่ายังมุ่งให้ความช่วยเหลือและเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานระดับโลกมากมาย เพื่อจัดการกับปัญหาขยะพลาสติกผ่านการปฏิบัติงาน และการระดมความคิดเพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุดจากทั้งภาคประชาสังคม ภาคอุตสาหกรรม และภาครัฐ โดยมีเป้าหมายคือส่งเสริมให้คนหันมารีไซเคิลและนำขยะกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงผลักดันให้องค์กรต่างๆ หันมาลงทุนในเศรษฐกิจหมุนเวียนมากขึ้น เพื่อคงคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์และวัสดุที่ไม่ได้ใช้แล้ว ให้สามารถกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตได้อย่างถูกต้อง ไม่กลายเป็นขยะอีกต่อไป

มร.ไบรอัน สมิทธิ์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เดอะโคคา-โคล่า คัมปะนี กล่าวเสริมว่า "The Ocean Cleanup เป็นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจน มีเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรองและเหมาะสมสำหรับภารกิจในการกำจัดขยะพลาสติกในมหาสมุทร โคคา-โคล่าก็มีทีมงานในพื้นที่ที่พร้อมร่วมทำการติดตั้งเครื่อง Interceptor ในแม่น้ำทั่วโลก รวมถึงมีความพร้อมในด้านกระบวนการรีไซเคิลขยะที่รวบรวมได้ การที่จะได้เห็นพนักงานโคคา-โคล่าจากทั่วโลกได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานในระดับท้องถิ่น รวมถึงเป็นกระบอกเสียงในการทำภารกิจที่จะขยายใหญ่ขึ้นนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าตื่นเต้น โดยโคคา-โคล่าเชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ จะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างแท้จริง"

ภายใต้การจับมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ทั้งสององค์กรได้ตั้งเป้าช่วยกันกำจัดขยะในแม่น้ำ 15 แห่งทั่วโลกภายในสิ้นปี 2565 โดยมีการนำร่องติดตั้งเครื่อง Interceptor ไปแล้ว 2 เครื่องในแม่น้ำที่กรุงซันโตโดมิงโก สาธารณรัฐโดมินิกัน และนครเกิ่นเทอ ประเทศเวียดนาม และจะร่วมกันพัฒนาโซลูชันจัดการขยะที่รวบรวมได้ รวมถึงวางแผนขยายการดำเนินงานไปยังแม่น้ำอีก 13 แห่งผ่านการทำงานร่วมกัน โดย The Ocean Cleanup จะใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีรวบรวมพลาสติก ข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จากการติดตั้งเครื่อง Interceptor รวมถึงวิเคราะห์ปัญหาและหลักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับขยะพลาสติก ขณะที่โคคา-โคล่าจะเสริมแกร่งด้านการปฏิบัติงานด้วยเครือข่ายมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลกที่พร้อมลงพื้นที่สร้างความเข้าใจแก่ชุมชนเกี่ยวกับการติดตั้งเครื่อง Interceptor รวมถึงใช้ความเชี่ยวชาญจัดการกับขยะพลาสติกที่รวบรวมได้ เพื่อสนับสนุนหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมร่วมกันสรรหาพันธมิตรและการลงทุนที่จำเป็นเพิ่มเติม เพื่อขยายการดำเนินงานด้วยการติดตั้งเครื่อง Interceptor รวมถึงสนับสนุนการออกใบอนุญาตและติดตั้งกล้อง River Monitoring System (RMS) เพื่อวิเคราะห์มลพิษในแม่น้ำเพิ่มเติมต่อไป

เกี่ยวกับ The Ocean Cleanup

The Ocean Cleanup ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดย มร. โบแยน สแลต มีเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อกำจัดพลาสติกในมหาสมุทรทั่วโลก โดยมุ่งดำเนินการยับยั้งการรั่วไหลของพลาสติกจากแม่น้ำลงสู่ทะเล และเดินหน้าเก็บพลาสติกที่สะสมอยู่ในมหาสมุทร สำหรับการทำงานเพื่อยับยั้งการรั่วไหลของพลาสติกจากแม่น้ำลงสู่ทะเล องค์กรได้เปิดตัวนวัตกรรมเครื่องทำความสะอาดแม่น้ำ Interceptor(TM) ขึ้นเมื่อปี 2019 เพื่อดำเนินการดักจับพลาสติกในแม่น้ำไม่ให้รั่วไหลออกสู่ทะเล ส่วนด้านการเก็บพลาสติกที่สะสมอยู่ในมหาสมุทร องค์กรกำลังพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพเพื่อกำจัดพลาสติกในมหาสมุทรเป็นระยะ ๆ โดยจะนำพลาสติกดังกล่าวไปสร้างเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทาน จัดจำหน่ายออกสู่ตลาด นำมาเป็นแหล่งเงินทุนในการดำเนินการส่วนนี้ต่อเนื่อง โดยองค์กรตั้งเป้าให้ระบบดังกล่าวนี้สามารถบริหารจัดการตัวเองได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบัน The Ocean Cleanup มีวิศวกรและนักวิจัยทั้งสิ้น 95 คน สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ สามารถเยี่ยมชมรายละเอียดเพิ่มเติมขององค์กร ได้ที่ theoceancleanup.com และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวบนโซเชียลมีเดียได้ที่ @theoceancleanup

เดอะโคคา-โคล่า คัมปะนี (NYSE: KO) บริษัทเครื่องดื่มครบวงจรที่มีผลิตภัณฑ์จำหน่ายครอบคลุมมากกว่า 200 ประเทศ มีเจตนารมณ์เพื่อมอบความสดชื่น และสร้างความแตกต่างให้กับโลกใบนี้ แบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอ ประกอบไปด้วย โคคา-โคลา, สไปรท์, แฟนต้า และแบรนด์น้ำอัดลมอื่น ๆ แบรนด์ผลิตภัณฑ์น้ำดื่ม เครื่องดื่มเกลือแร่ ชา และกาแฟ ประกอบไปด้วย น้ำดื่มดาซานิ, น้ำดื่มสมาร์ตวอเทอร์, น้ำดื่มวิตามินวอเทอร์, แอลกอฮอล์อัดลมโทโปชิโก, เครื่องดื่มเกลือแร่พาวเวอเรด, กาแฟพร้อมดื่มคอสตา, กาแฟจอร์เจีย, ชาพร้อมดื่มโกลด์พีค, ชาออนเนสต์ และชาอายาทากะ แบรนด์เครื่องดื่มโภชนาการ น้ำผลไม้ นม และเครื่องดื่มจากพืช ประกอบไปด้วย น้ำส้มมินิทเมด, น้ำผลไม้ซิมพลี, เครื่องดื่มสมูธตี้รสผลไม้อินโนเซนต์, น้ำผลไม้เดลวาล, นมพรีเมี่ยมแฟร์ไลฟ์ และ น้ำดื่มเอเดส บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การปรับสูตรลดน้ำตาลในเครื่องดื่ม ไปจนถึงนำเสนอนวัตกรรมเครื่องดื่มใหม่ๆ ออกสู่ตลาด ตลอดจนการทำงานเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คน ชุมชน และโลก โดยการคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติ ส่งเสริมการรีไซเคิล สนับสนุนการจัดซื้ออย่างยั่งยืน และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตลอดห่วงโซ่คุณค่า บริษัทดำเนินธุรกิจร่วมกับพันธมิตรผู้ผลิตและจัดจำหน่าย มีพนักงานมากกว่า 700,000 คน ที่ช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับชุมชนท้องถิ่นทั่วโลก เยี่ยมชมรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท โคคา-โคล่า ได้ที่ www.coca-colacompany.com และยังสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ช่องทางออนไลน์ผ่าน Twitter Instagram Facebook และ Linkedin

กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท โคคา-โคล่า (ประเทศไทย) จำกัดในฐานะเจ้าของแบรนด์ รับผิดชอบในกิจกรรมการตลาด และสองบริษัทพันธมิตรผู้ผลิตและจำหน่าย บจ. ไทยน้ำทิพย์ รับผิดชอบ 63 จังหวัด ทั่วประเทศ และ บมจ. หาดทิพย์ รับผิดชอบใน 14 จังหวัดภาคใต้

กลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทยเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ทั่วประเทศ นอกเหนือจากแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอย่าง โคคา-โคล่า แล้วผลิตภัณฑ์ในพอร์ตโฟลิโอของกลุ่มธุรกิจโคคา-โคล่า ในประเทศไทย ยังประกอบไปด้วย โค้ก, แฟนต้า, สไปร์ท, ชเวปส์, เอแอนด์ดับบลิว รูทเบียร์ รวมถึงน้ำส้มมินิทเมด สแปลช, มินิทเมด พัลพิ, น้ำดื่มน้ำทิพย์และ น้ำแร่บอน อควา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ