ASAVA (อาซาว่า) นำโดย หมู - พลพัฒน์ อัศวะประภา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้ง Asava Group เจ้าของแบรนด์แฟชั่นไทยชื่อดัง ผู้อยู่เบื้องหลังชุดผ้าไหมไทยสุดพิเศษที่ออกแบบมาให้ ลิซ่า BLACKPINK หรือ ลลิษา มโนบาล โดยเฉพาะ เพื่อสวมใส่ในซิงเกิลแรกของลิซ่า สร้างความโดดเด่นสะดุดตาให้กับเหล่าแฟนคลับและผู้รับชมมิวสิกวิดีโอจากทั่วโลก
โดยผลงานเดบิวต์โซโล่อัลบั้มชุดแรกกับซิงเกิ้ลเดี่ยวของ ลิซ่า BLACKPINK ถูกปล่อยในวันนี้ หลังการรอคอยอันแสนยาวนานร่วมอาทิตย์ที่เหล่า บลิ๊งค์ (Blink) และ ลิลลี่ (Lilies) เฝ้าติดตามกันอย่างใจจดใจจ่อ โดยในมิวสิกวิดีโอลิซ่าได้ปรากฏตัวในชุดเสื้อไหล่เดี่ยวแต่งเคปยาว และกระโปรงสั้นจับเดรปผ้าไหมสีเหลืองทอง ที่ออกแบบให้เป็นพิเศษโดยแบรนด์ ASAVA ตัดเย็บจากผ้าไหมยกลำพูนลายพานจักรพรรดิยกทองประดับด้วยคริสตัลจาก Swarovski ที่ปักด้วยมืออย่างประณีต โดยผลงานการออกแบบชุดสำหรับโปรเจกต์พิเศษในครั้งนี้อาซาว่าได้มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับทางค่าย YG Entertainment อย่างละเอียดในทุก ๆ ขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการออกแบบ การเลือกผ้าที่ได้รับโจทย์เป็นผ้าไทย การเลือกวัสดุ ไปจนถึงขั้นตอนการตัดเย็บชิ้นงานจริง เพื่อให้ได้ชุดที่ผสมผสานระหว่างคอนเซปต์ที่แบรนด์ได้รับ และเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว โดยอาซาว่าเลือกที่จะถ่ายทอดกลิ่นอายของความเป็นไทยผ่านการหยิบเอาโครงชุดที่ดัดแปลงมาจาก การห่มผ้าสไบ การนุ่งผ้าซิ่น และการจับจีบ มาดัดแปลงให้มีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น ผนวกกับซิกเนเจอร์ในแบบฉบับอาซาว่า เพื่อเน้นสรีระ และคาแรคเตอร์ที่โดดเด่นของลิซ่าจนเกิดเป็นชุดที่มีความเรียบหรู และสะท้อนถึงความเป็นไทยได้อย่างลงตัว
โดยดีไซเนอร์คนเก่งอย่าง หมู - พลพัฒน์ อัศวะประภา ได้กล่าวว่า "ผมได้รับการติดต่อจาก YG Entertainment ว่าอยากที่จะ collaborate ร่วมกับอาซาว่าในการทำชุดจากผ้าไทยให้กับศิลปินในสังกัด การทำงานทุกอย่างเป็น confidential ทั้งหมด และเป็นการทำงาน long distance working ด้วยระยะเวลาที่จำกัด ทำให้เราต้องมีความชัดเจน และความละเอียดในเรื่องของโจทย์การทำงาน โดยเฉพาะในเรื่องของสัดส่วน ซึ่งเป็นการทำงานจากตัวเลขในกระดาษ ต้องบอกว่าทาง YG เองก็มีความเป็น professional สูงมาก ถึงจะให้โจทย์เราแต่ก็ให้อิสระในการตีโจทย์นั้นอย่างที่ควรจะเป็น เราได้มีการส่งสเก็ตช์ไปหลายเวอร์ชั่น ตั้งแต่สเก็ตช์ที่เรียบที่สุดเป็นผ้าไหมไทยแบบเรียบ ๆ จนถึงเวอร์ชั่นที่เพิ่มดีกรีและรายละเอียดของความเป็นไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ เวิร์คกันมาหลายสเกตช์ จนสุดท้ายเมื่อเราถามทางทีมงานและผู้กำกับว่ามีภาพในหัวที่ชัดเจนไว้เป็นอย่างไร ทางนั้นก็ได้มีการส่งภาพงานเก่า ๆ ของเรามา ก็เข้าใจว่าเค้าน่าจะทำการรีเสิร์ชเกี่ยวกับแบรนด์มาพอสมควรก่อนที่จะมาติดต่อเรา เราถึงได้เข้าใจว่าเค้าต้องการความเป็นไทยที่ชัดเจนและมีความเป็น traditional ค่อนข้างสูง จึงออกมาเป็นผลงานอย่างที่เราได้มีโอกาสเห็นกันครับ"
นับว่าเป็นหนึ่งในความภูมิใจของแบรนด์ ASAVA ที่ได้ก้าวสู่การทำงานกับศิลปินระดับโลกอีกครั้ง และถือว่าเป็นความสำเร็จของแบรนด์ที่เป็นพลังช่วยขับเคลื่อนผ้าไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากลอีกด้วย