ซีพี ออลล์ ผนึก สจล. พัฒนา-เพิ่มขีดความสามารถเครื่องผลิตรีดิวซ์กราฟีนออกไซด์ ตอบรับยุทธศาสตร์ชาติ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม

ข่าวเศรษฐกิจ Monday November 29, 2021 14:45 —ThaiPR.net

ซีพี ออลล์ ผนึก สจล. พัฒนา-เพิ่มขีดความสามารถเครื่องผลิตรีดิวซ์กราฟีนออกไซด์   ตอบรับยุทธศาสตร์ชาติ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม

ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และ เซเว่นเดลิเวอรี่ ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ลงนามบันทึกความร่วมมือ "การถ่ายทอดระดับโรงงานอุตสาหกรรม" เพื่อเสริมสมรรถนะและพัฒนาขีดความสามารถด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และการเชื่อมโยงองค์ความรู้ ในการขับเคลื่อนองค์กรเชิงพาณิชย์สู่ธุรกิจใหม่ New S-Curve

นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ ร่วมกับ ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ลงนามบันทึกความร่วมมือ "การถ่ายทอดเทคโนโลยีเครื่องผลิตรีดิวซ์กราฟีนออกไซด์ระดับโรงงานอุตสาหกรรม" โดยมีคณาจารย์และคณะผู้บริหารร่วมเป็นสักขีพยาน ณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า ซีพี ออลล์ และ สจล. ได้ประสานความร่วมมือด้านการศึกษาในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ร่วมกับ คณะวิทยาศาสตร์ สจล. เพื่อผลิตและสร้างเครื่องผลิตรีดิวซ์กราฟีนออกไซด์ขึ้น โดยซีพี ออลล์ ให้ความสนใจนำกราฟีนมาประยุกต์ใช้ เนื่องจากเล็งเห็นว่า กราฟีน เป็นวัสดุมหัศจรรย์ที่มีประโยชน์อย่างมาก มีส่วนช่วยในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศ จึงได้นำนวัตกรรมมาสร้างแอพพลิเคชั่นใหม่ และเกิดเป็นความร่วมมือในการต่อยอดผลิตภัณฑ์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์และสาธารณะ นำไปสู่การเกิดธุรกิจรูปแบบใหม่ (New S-Curve) อีกทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ ในการสร้างบุคลากรให้มีองค์ความรู้และทักษะด้านกราฟีน นับเป็นความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับสถาบันการศึกษาที่ตอบรับยุทธศาสตร์ชาติในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Sustainable Development and Growth) : เติบโต สมดุล ยั่งยืน ทั้งเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต และดำเนินไปตามปณิธานองค์กร "ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสต่อกัน"

ด้าน ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า สำหรับการลงนามความร่วมมือในการพัฒนาขีดความสามารถและการถ่ายทอดเทคโนโลยี "เครื่องผลิตกราฟีนระดับโรงงานอุตสาหกรรม" เพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และการเชื่อมโยงองค์ความรู้ในการขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ในอนาคต หลังรศ. ดร.เชรษฐา รัตนพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ พร้อมคณะ ได้ทำการศึกษาวิจัยจนค้นพบศักยภาพในการผลิตกราฟีนในไทย อันไปนำสู่การจัดตั้ง "โรงงานต้นแบบผลิตกราฟีนระบบอัตโนมัติระดับอุตสาหกรรม" โรงงานขนาดเล็กนำร่องแห่งแรกในไทย ที่มีศักยภาพในการผลิตกราฟีนที่เพียงพอต่อภาคอุตสาหกรรมในไทย 15 กิโลกรัมต่อเดือน โดยคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 60-100 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งมีราคาต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศถึง 50% ทั้งนี้ โรงงานต้นแบบดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนทุนจัดสร้างจากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ในวงเงิน 6 ล้านบาท

ด้าน รศ.ดร.เชรษฐา รัตนพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ สจล. กล่าวเพิ่มเติมว่า กราฟีน คือวัสดุมหัศจรรย์ มีความหนา 1 ชั้นของโครงสร้างอะตอมคาร์บอนที่เชื่อมด้วยพันธะ 6 เหลี่ยมด้านเท่าคล้ายรวงผึ้ง แบบพันธะโควาเลนต์ มีความแข็งแรงสูงกว่าเหล็กกล้าและเพชร นำไฟฟ้าและความร้อนดีกว่าทองแดง มีพื้นที่ผิวจำเพาะสูง เป็นวัสดุอัจฉริยะที่มา disruption ในวงการอุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี นักศึกษาปริญญาเอก ทีมงานนักวิศวกรอุตสาหการ พัฒนาต้นแบบเครื่องผลิต กราฟีน ซึ่งเป็นนวัตกรรมแบบใหม่ ที่ได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้นจากรางวัลการวิจัยแห่งชาติ ปี 2562 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และจดสิทธิบัตรต้นแบบเครื่องผลิตกราฟีน ซึ่งโรงงานต้นแบบตั้งอยู่ที่ คณะวิทยาศาสตร์ สจล.

สำหรับคุณสมบัติพิเศษของ 'กราฟีน' เป็นวัสดุที่มีขนาดบาง เบา แข็งแรงทนทาน นำไฟฟ้า และความร้อนได้ดี ไม่เป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ อีกทั้งป้องกันการก่อตัวของแบคทีเรียได้อีกด้วย โดยสามารถนำมาผสมกับวัสดุต่างๆ ให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถรองรับงานผลิตในหลากกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ วัสดุดูดซับและกำจัดเชื้อโรค ในอุตสาหกรรมทางด้านการแพทย์ แผ่นเกราะป้องกันกระสุน ในอุตสาหกรรมด้านยุทโธปกรณ์ ซีเมนต์สมัยใหม่ รางรถไฟสมัยใหม่ ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญหนึ่งในการเข้าถึงวัสดุกราฟีนสำหรับอุตสาหกรรมไทย ที่จะมาต่อยอดเป็นนวัตกรรมสมัยใหม่ต่างๆ ในยุคอุตสาหกรรมไทยแลนด์ 4.0 ยุครถยนต์ไฟฟ้า คือ งบลงทุนที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศสูงถึง 2-10 ล้านบาทต่อ 1 กิโลกรัม นับเป็นความสำเร็จของการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่องค์กรธุรกิจในเชิงพาณิชย์ สามารถช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยนวัตกรรมได้อย่างยั่งยืน ตามที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ