มจพ. จับมือ พพ. บูรณาการเชื่อมโยงมาตรฐาน Building Energy Code (BEC)

ข่าวทั่วไป Thursday December 16, 2021 14:20 —ThaiPR.net

มจพ. จับมือ พพ. บูรณาการเชื่อมโยงมาตรฐาน Building Energy Code (BEC)

ผศ.ดร.ณัฐพงศ์ มกระธัช ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพัฒนาสิ่งแวดล้อมและกายภาพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการส่งเสริมการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงานตามกฎหมายกับนายเรืองเดช ปั่นด้วง รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) พร้อมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำ 7 แห่ง เพื่อบูรณาการเชื่อมโยงมาตรฐาน Building Energy Code (BEC) สู่การพัฒนาเป็นองค์ความรู้สู่สถาบันการศึกษา เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2564 ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ การลงนามบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ เดินหน้านำพลังงานทดแทนมาใช้และลดใช้พลังงาน 30% ในปี 2580 จะมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 20-25% ภายในปี 2573 ตามเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (carbon neutrality) ภายในปี 2050 สู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (net zero) ภายในหรือก่อนหน้า ปี 2065 รวมถึงการปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานการออกแบบในระบบต่างๆ ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่ใช้ในปัจจุบัน

สำหรับแนวทางปฏิบัติในการขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารตามกฎกระทรวงฯ BEC ปี 2563 นั้นทางกระทรวงพลังงาน โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ออกกฎกระทรวงฯฉบับใหม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2563 ประเภทอาคารที่เข้าข่ายต้องปฏิบัติตาม

กฏกระทรวงฯ คือ อาคารก่อสร้างใหม่หรือดัดแปลง ที่มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 2,000 ตาราเมตรขึ้นไป ใน 9 ประเภทอาคาร  ตามกฎกระทรวงฯ ข้อที่ 14 ได้ระบุว่าการตรวจประเมินในการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน มีคุณสมบัติ ดังนี้  (1) วิศวกรที่มีใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมหรือ สถาปนิกที่มีใบประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมควบคุม (2) ผู้ที่ได้รับการรับรองจาก พพ. ว่าเป็นผู้สำเร็จการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่กำหนด และกฎกระทรวงฯ ข้อ 15 ระบุให้เจ้าของอาคาร มีหน้าที่จัดทำรายงานฯ เพื่อประกอบการยื่นขอรับใบอนุญาตหรือแจ้งก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร คือ (1) ตรวจประเมินแบบอาคาร BEC ก่อนยื่นขออนุญาตก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร (2) ตรวจประเมินแบบอาคาร BEC ก่อนยื่นขอใบรับรองการก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร

แนวทางการบังคับใช้จะเริ่มจากอาคารขนาดใหญ่ พื้นที่ตั้งแต่ 10,000 ตารางเมตรขึ้นไปในปีแรก และตั้งแต่  5,000 ตารางเมตรขึ้นไปในปีที่สอง และตั้งแต่ 2,000 ตารางเมตร ใช้โปรแกรมตรวจประเมินค่าอนุรักษ์พลังงาน เป็นโปรแกรมช่วยในการประเมินอาคารที่ออกแบบ  ว่าเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎกระทรวงฯ หรือไม่ โดยปัจจุบันอยู่ในรูปแบบออนไลน์ (BEC Web-based) โปรแกรม BEC Web-based ใช้งานผ่าน http://bec.energy.in.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรศัพท์/โทรสาร : 0-2225-2412 www.2e-building.com E-mail : 2e.center@gm  Facebook BEC Center ศูนย์ประสานงานการออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน

อย่างไรก็ตาม พพ. ได้เตรียมให้สถาบันการศึกษาชั้นนำ 7 แห่ง อันได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ  มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม  สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ร่วมวางเป้าหมายสร้างความร่วมมือให้ครอบคลุมมหาวิทยาลัยทั้งหมดที่มีความพร้อม เพื่อให้บุคคลากรของสถาบันการศึกษา และนิสิตนักศึกษาที่มีคุณสมบัติได้มีความพร้อมรองรับการปฏิบัติงานตามข้อกำหนดในการบังคับใช้มาตรฐาน BEC ตลอดจนการบูรณาการเชื่อมโยงมาตรฐาน Building Energy Code (BEC) สู่การพัฒนาเป็นองค์ความรู้สู่สถาบันการศึกษาอย่างแท้จริง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ