เทคนิคทำกำไรในช่วงตลาดผันผวน ด้วย SET50 & Stock Futures

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 6, 2022 09:00 —ThaiPR.net

เทคนิคทำกำไรในช่วงตลาดผันผวน ด้วย SET50 & Stock Futures

ทุกวันนี้คุณเข้าใจการลงทุนใน TFEX ดีแล้วหรือยัง ?หากคุณเป็นผู้ที่อยู่ในแวดวงการลงทุนมาสักพัก คงได้ยินหรือรู้จักตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอย่าง TFEX แน่นอน ตลาดที่เป็นทางเลือกเก็งกำไร หรือป้องกันความเสี่ยงให้พอร์ตลงทุนของคุณในยามที่ตลาดหุ้นผันผวน สามารถเทรดทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาดทั้งขาขึ้นและขาลงโดยใช้เงินลงทุนไม่มาก เป็นตลาด Zero-Sum Game ที่ฝั่งผู้ชนะจะได้เงินจากฝั่งผู้แพ้ ทั้งหมดนี้อาจเป็นสิ่งที่คุณเข้าใจในตลาด TFEX ซึ่งจากข้อมูลสถิติของกลุ่มตัวอย่างบางส่วนพบว่า ผู้ลงทุนที่เข้ามาในตลาดนี้แล้วประสบความสำเร็จจากการเก็งกำไร มีเพียงแค่ 20% เท่านั้น ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจการลงทุนในตราสารอนุพันธ์มากขึ้น TFEX จึงได้จัด Workshop ขึ้นมาในหัวข้อ "เทคนิคทำกำไรในช่วงตลาดผันผวนด้วย SET50 & Stock Futures" บรรยายโดย คุณเอกพล เจริยประเสริฐกุล, CISA, CFP(R) ที่ปรึกษาเพจ TFEX For Future ?หลักการและเทคนิคทำกำไรในช่วงตลาดผันผวนจะมีอะไรบ้าง ไปดูสรุปเนื้อหาสำคัญของ Workshop ครั้งนี้กันได้เลย

  • การใช้ SET50 Futures & Stock Futures ทำกำไรในช่วงตลาดผันผวน
  • SET50 FuturesFutures นั้นเป็นแค่สัญญา ที่เกิดขึ้นจากผู้ซื้อฝั่งหนึ่งและผู้ขายอีกฝั่งหนึ่งตกลงซื้อขายกันวันนี้ แต่จะชำระกำไรขาดทุนกันในอนาคต ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องถือไว้จนถึงวันหมดอายุสัญญาก็ได้โดยซื้อขายเปลี่ยนมือกันในตลาดให้กับคนอื่นแทน ยกตัวอย่าง SET50 Futures เป็นสัญญาที่อ้างอิงราคาซื้อขายกับดัชนี SET50 ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบันราคาตลาดอยู่ที่ประมาณ 1,000 จุด และมีอัตราคูณที่ 200 บาทต่อจุดดัชนี ดังนั้น 1 สัญญาจะมีมูลค่าประมาณ 200,000 บาท สำหรับผู้ที่คิดว่าดัชนีจะขึ้นก็ทำการเปิดสัญญาฝั่งซื้อเรียกว่า Open Long ส่วนผู้ที่คิดว่าดัชนีจะลงก็ทำสัญญาฝั่งขายเรียกว่า Open Short ที่ราคาตลาด เท่านี้ก็จะเกิดคู่สัญญาแล้ว โดยก่อนส่งคำสั่งซื้อขายต้องมีการวางเงินหลักประกันขั้นต้น (Initial Margin: IM) ประมาณ 5-15% สมมติอยู่ที่ 10,000 บาทต่อสัญญา 

    หากดัชนีปรับตัวขึ้นไป 2% หรือ 20 จุด จาก 1,000 เป็น 1,020 จุด มูลค่าสัญญาก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 204,000 บาท พอย้อนมาดูเงินในพอร์ตฝั่งผู้ซื้อจะเพิ่มขึ้นเป็น 14,000 บาท (เงินหลักประกัน + กำไร) ซึ่งกำไร 4,000 บาท ที่เพิ่มขึ้นมานี้เกิดจากดัชนีที่ปรับเพิ่ม 20 จุด คูณด้วย 200 (อัตราคูณ) หรือเพิ่มขึ้นถึง 40% จากเงินหลักประกัน ส่วนเงินในพอร์ตของผู้ขายจะลดลงเหลือแค่ 6,000 บาท หรือลดลง 40% เช่นกัน แต่หากดัชนีขยับไปถึง 50 จุด ฝั่งผู้ที่ขายไว้จะไม่เหลือเงินในบัญชีเลยโดยไม่สามารถแก้ตัว ซึ่งการวางเงินหลักประกันเพียงขั้นต้นนั้นไม่ค่อยถูกหลักการเทรดนัก เพราะเราแทบจะไม่สามารถวางแผนการเทรดได้ หากลองเปลี่ยนเป็นวางหลักประกันมากขึ้นเราก็จะวางแผนการเทรดได้มากขึ้นตาม และสามารถกำหนดจุดหรือมูลค่าในการ Cut Loss แต่ละครั้งได้ เพื่อให้เรายังอยู่ในแผนการเทรดที่ได้วางไว้ ไม่ใช่ว่าผิดทางแล้วทำได้เพียงขอให้ดัชนีวกกลับมา และหลีกเลี่ยงการโดนเรียกหลักประกันเพิ่มหากผิดทาง ซึ่งกำหนดไว้ที่ 70% ของหลักประกันขั้นต้นหรือในกรณีนี้คือ 7,000 บาท ซึ่งจากตัวอย่างแรกหากเราเหลือเงินในพอร์ต 6,000 บาท เราจะถูกเรียกให้เติมเงินเพิ่มอีก 4,000 บาท เพื่อให้เงินในพอร์ตเรากลับมาที่ 10,000 บาท เท่ากับหลักประกันขั้นต้น

    Stock Futuresเป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับหุ้นรายตัว หลักการคล้ายๆ กับ SET50 Futures ต่างกันเล็กน้อยบางอย่าง เช่น อัตราคูณของ SET50 Futures อยู่ที่ 200 บาทต่อจุด แต่ Stock Futures จะมีอัตราคูณที่ 1,000 (เพราะ Stock Futures 1 สัญญากำหนดให้เท่ากับการซื้อขายหุ้น 1,000 หุ้น) ยกตัวอย่างการเทรด PTT Futures สมมติราคาปัจจุบันอยู่ที่ 40 บาท มูลค่าสัญญาจะอยู่ที่ 40,000 บาท หากกำหนดให้วางเงินหลักประกันขั้นต้นประมาณ 6,000 บาทต่อสัญญา แล้วราคาขยับขึ้น 10% เป็น 44 บาท จะมีกำไรขาดทุนถึง 4,000 บาท เมื่อเทียบกับหลักประกันขั้นต้นที่วาง ฝั่งซื้อจะมีเงินในพอร์ตรวมเป็น 10,000 บาท ส่วนฝั่งขายจะมีเงินเหลือเพียง 2,000 บาท ซึ่งเป็นข้อควรระวังในการวางเงินเวลาซื้อขายเช่นเดียวกัน

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Stock Futures บางท่านอาจบอกว่าไม่สามารถเทรดได้ เนื่องจากไม่มีสภาพคล่อง หรืออาจจะมีหุ้นอ้างอิงบางตัวที่สภาพคล่องน้อยจริง แต่หากลองดู Volume การซื้อขายของ Stock Futures ในกระดานปกติเฉลี่ยย้อนหลังต่อวันแล้ว เราจะเห็นว่าหุ้นใหญ่ๆ หรือหุ้นยอดนิยมหลายตัวมีปริมาณการซื้อขายในตลาดพอสมควรอยู่แล้ว หากเราเทรดระดับ 10-20 สัญญา ตลาดค่อนข้างมีสภาพคล่องรองรับเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้วิธี Block Trade เพียงอย่างเดียว 

    ย้อนดูสถิติ SET50 Futures ช่วงปี 2007-2022ช่วง 2007-2016 ระยะเวลา 10 ปีนี้มีกรอบการเคลื่อนไหวค่อนข้างกว้างเมื่อวัดจาก High-Low โดยอยู่ในช่วง 250-300 จุด แต่หลังจากปี 2016 การเคลื่อนไหวค่อนข้างแคบลง จะมีเพียงปี 2020 ช่วงที่ Covid-19 ระบาด ที่ดัชนีวิ่งค่อนข้างกว้างพอมาปี 2021-2022 กรอบการเคลื่อนไหว High-Low ยังค่อนข้างแคบมากประมาณ 100 จุด เท่านั้น ดังนั้นช่วงนี้การทำกำไรในตลาดหุ้นระดับ 10-20% ต่อรอบอาจจะยากมากขึ้น หากพิจารณาให้ลึกเข้าไป จะเห็นได้ว่ากรอบการวิ่งของราคา เคลื่อนไหวขึ้นลงประมาณ 80 จุด ถึง 12 ครั้ง ซึ่งหากเรานำ Futures มาใช้ Hedging เพื่อป้องกันความเสี่ยงพอร์ตหุ้นโดยการ Short Futures เอาไว้ด้วย เมื่อเจอสภาวะที่ไม่คาดคิด ก็อาจสร้าง Cash Flow นำกำไรมาชดเชยการขาดทุนจากความผันผวนของตลาดหุ้นได้

  • กลยุทธ์การเทรด TFEX ให้ได้กำไร
  • ในตลาด TFEX ผู้ลงทุนส่วนใหญ่มักจะใช้ปัจจัยทางเทคนิคหรือกราฟในการเทรด โดยใช้ Indicator หรือรูปแบบกราฟต่างๆ มาประกอบการตัดสินใจ เนื่องจากสามารถนำมาวิเคราะห์ คาดการณ์ และกำหนดความเสี่ยงในการเทรดแต่ละครั้งได้ชัดเจน เพราะฉะนั้นทุกคนจึงควรมี Trade Setup เริ่มต้นก่อนที่จะเริ่มทำ Order ต่างๆ ที่เป็น Logic ที่เชื่อถือได้และต้องมีวินัยทำตามทุกครั้ง โดยคำนึงถึง 3 องค์ประกอบนี้

    1) กำหนด Main Logic เพื่อพิจารณาการเปิดหรือปิด Position เช่น ซื้อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ย EMA ระยะสั้นตัดเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว2) กำหนด Filter ใช้เป็นการกรองสัญญาณ เพื่อให้สัญญาณมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น หาก MACD > 0 จะเทรดเฉพาะฝั่งซื้อ และจะเทรดเฉพาะฝั่งขายเมื่อ MACD < 0 เท่านั้น 3) กำหนดจุด Cut Loss และ Take Profit เพื่อคุมความเสี่ยงและรักษาเงินต้นไม่ให้ถูก Run Loss จนเงินหมดพอร์ต รวมถึงเพิ่มอัตรา Win Rate ตามสัญญาณการขายระหว่างทาง เพื่อไม่ให้พอร์ตที่ถือเปลี่ยนสถานะจากกำไรกลับมาเป็นขาดทุน

    เมื่อเริ่มสร้าง Trade Setup ของตัวเองแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่ามีประสิทธิภาพจริง ?ต้องผ่านการลองผิดลองถูก ใช้หลักการสถิติ นำไปผ่านกระบวนการ Backtest และปรับปรุงออกมา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ซึ่ง Trade Setup ที่ดีนั้นก็ควรจะมองถึงการคุมความเสี่ยงควบคู่กับเรื่องการทำกำไร

    เราจะสามารถทำตามวินัยได้ทุกครั้งอย่างไร ?เบื้องต้นต้องใช้คำสั่ง Stop Order ประกอบทุกครั้ง ซึ่งเป็นการกำหนดจุด Cut Loss และควบคุมความเสี่ยง หรือหากช่ำชองมากขึ้นเราสามารถใช้ Robot ส่งคำสั่งตาม Trade Setup ที่เราคิดขึ้นมาได้ ซึ่งหลายๆ โบรกเกอร์ก็มีให้บริการแล้ว แต่หลายคนมักละเลยเรื่องการคุมความเสี่ยงหรือไม่ทำตามวินัยเมื่อถึงจุด Cut Loss และหากเผอิญราคาวกกลับมาถูกเพียง 1 ครั้ง ก็อาจจะเกิดชุดความคิดที่ว่าเราไม่ต้องทำตามกฏก็ได้ ทั้งที่กฏนั้นเราเป็นผู้กำหนดขึ้นมาตามหลักการที่ผ่านการคิดมาแล้ว แต่ความเป็นจริงในทุกตลาดการลงทุนเราต้องพบเจอช่วงที่ราคาวิ่งอย่างมีทิศทางรุนแรง หากไม่ได้ทำตามวินัย อาจสร้างความเสียหายให้พอร์ตในการเทรดครั้งอื่นๆ ได้

  • แนวทางการบริหารความเสี่ยงในการเทรด TFEX จากประสบการณ์จริง
  • กฏหลัก 2 ข้อที่ต้องคำนึงถึงในการบริหารความเสี่ยง

    • Money Management วางเงินหลักประกันเผื่อ ไม่ควรวางแค่ขั้นต่ำ เพื่อให้อยู่รอดและสามารถสร้างกำไรได้ในระยะยาว
    • Cut Loss ทุกครั้งเมื่อผิดทาง เพื่อคุมความเสียหายไม่ให้หนักไปกว่านี้

    ควรวางเงินต่อ 1 สัญญาเท่าไร ?แนะนำว่าควรวางเงินเผื่อสำหรับการเทรด ประมาณ 3 เท่าของเงินหลักประกันขั้นต้น (IM) กรณี SET50 Futures ก็ควรวางเงินประมาณ 30,000 บาท (สมมติ IM 10,000 บาท) เพราะเราต้องเผื่อการขาดทุนที่เลวร้ายที่สุดหรือ Maximum Drawdown เมื่อเจอเหตุการณ์เหล่านี้เราต้องอยู่รอดให้ได้ในตลาดและสามารถทำกำไรกลับคืนได้ในภายหลัง จริงอยู่ที่ไม่มีใครรู้อนาคตว่าเราจะผิดต่อเนื่องได้มากขนาดไหน แต่เราก็สามารถประเมินความเสียหายดังกล่าวคร่าวๆ ได้ 2 วิธี

    • ทดสอบค่าในอดีตด้วย Indicator หรือ Trade Setup ที่เราใช้ โดยนำมา Backtest ย้อนหลัง 10 ปี ดูผลลัพธ์ว่าขาดทุนติดกันได้สูงสุดกี่จุด
    • จากบันทึกที่เราเทรดเองว่าขาดทุนติดกันกี่จุดและกี่ครั้ง

    เมื่อทราบผลลัพธ์ว่าเราเคยขาดทุนติดๆ กันสูงสุดได้กี่จุด ยกตัวอย่างที่ 60 จุด คิดเป็นจำนวนเงินคือ 12,000 บาท ให้นำหลักประกันขั้นต้นของสินค้านั้นมารวมเข้าไปอีก สมมติ SET50 Futures มี IM ที่ 11,400 บาท ดังนั้น เราต้องมีเงินวางหลักประกันเผื่อไว้สำหรับการเทรด SET50 Futures จำนวน 1 สัญญา ที่ 23,400 บาท เป็นอย่างน้อย ซึ่งปัญหาที่ผู้ลงทุนส่วนใหญ่ต้องพบเจอคือเรื่อง Money Management จากการวางเงินน้อยเกินไป

    Cut Loss คืออะไร ? Stop Loss สำคัญอย่างไร ?เป็นการตัดขาดทุนเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดทางครั้งใหญ่จนอาจทำให้เราเสียหายทั้งหมด ซึ่งการตัดขาดทุนคือส่วนหนึ่งของแผนที่เราวางไว้ตาม Trade Setup เมื่อใดที่ตลาดกลับมาเคลื่อนไหวตามที่คาดการณ์ พอร์ตเราก็จะค่อยๆ Cover กลับมาและสร้างกำไรในอนาคตได้

    เคล็ดลับในการ Cut Loss

    • วาง Stop Loss ไว้ทุกครั้งเมื่อเปิดสถานะ
    • ไม่ควรขยับเลื่อนจุด Stop Loss ไปมา หากไม่ใช่การ Trailing Stop เพื่อทำกำไร
    • อย่าเสียดายเมื่อ Cut Loss แล้วราคาดีดกลับ

    การที่ราคาเคลื่อนไหวรุนแรง บางครั้งอาจทำให้เราคิดว่าเดี๋ยวมันต้องกลับมาบ้างทั้งที่เลยจุด Cut Loss ไปแล้ว แต่หากตลาดมีทิศทางจริง การที่ราคาจะร่วงลงไปเรื่อยๆ ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งจุดที่แบ่งกลุ่มผู้ลงทุนที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว คือ "วินัย" ในการปฏิบัติตาม Trade Setup ของตัวเอง

    การแบ่งไม้กระจายความเสี่ยงควรใช้ Trade Setup ที่ต่างเงื่อนไขหรือต่างสภาวะกันมาช่วยกันเทรด เช่น Trade Setup ที่ใช้ได้ดีเมื่อเป็นเทรนด์ระยะสั้น กับเทรนด์ระยะยาว โดยให้มองแยกจากกันมาช่วยกันเทรด จะทำให้ผลรวมของพอร์ตการลงทุนดีขึ้นในระยะยาว หรือหากสามารถกระจายการเข้าได้ถึง 3 ไม้ โดยที่วางเงินอย่างเหมาะสม จะช่วยลดการขาดทุนสูงสุดหรือ Maximum Drawdown ได้สูงถึง 70%

    ข้อคิดที่ได้จากประสบการณ์จริง?ฝากถึงผู้ลงทุน

  • Trade Setup ต้องมีความชัดเจนและทำกำไรได้ในระยะยาว 
  • อย่าหลงเชื่อ Trade Setup คนอื่นและใช้ตามโดยอ้างกำไรเป็นแค่ครั้งๆ
  • รอสัญญาณเกิดขึ้นชัดเจนก่อนถึงค่อย Action อย่าเดาไปเอง
  • เมื่อมีสัญญาณต้องกล้าตัดสินใจ ไม่งั้นอาจจะเสียโอกาสสำคัญไป
  • วางเงินเผื่อต่อ 1 สัญญาไว้เสมอ ห้ามเปลี่ยนตามอารมณ์ แนะนำที่ 3 เท่าของหลักประกันขั้นต้น
  • มีจุดตัดขาดทุนในทุกครั้ง และวาง Stop Order ไว้เสมอ
  • เมื่อผิดทางห้ามใช้กลยุทธ์ถัวหรือเปิดสัญญาเพิ่มเด็ดขาด
  • ไม่ควรเล่นสั้นเกินไป ถือไม้ที่กำไร ควรมากกว่าไม้ที่ขาดทุน กำหนดอัตรา Risk/Reward ตอนทำ Trade Setup ให้เหมาะสม
  • คาดหวังผลตอบแทนในระยะยาว ไม่ควรเปลี่ยน Trade Setup กลางทางบ่อยๆ
  • มองตามความจริง รู้ว่าทุกการเทรดย่อมมีถูกและมีผิด ไม่มีสูตรสำเร็จหรือทางลัด
  • สุดท้ายแล้วในทุกช่วงสภาวะตลาด ยิ่งในช่วงที่ตลาดผันผวน การทำตามแผนและมีวินัยในการเทรดจะทำให้เราอยู่รอดในตลาดและสามารถทำกำไรได้ในอนาคต การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมตามสภาะวะตลาดจะช่วยกระจายและป้องกันความเสี่ยงให้พอร์ตของเรา

    รับชม Workshop ย้อนหลัง "เทคนิคทำกำไรในช่วงตลาดผันผวนด้วย SET50 & Stock Futures" ได้ที่https://setga.page.link/pM2SvKiXEERLu6Bg6


    เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ