ASW ผนึก UOB ขับเคลื่อนนวัตกรรมโซลาร์รูฟท็อป ลุยธุรกิจผ่านสินเชื่อ GREEN LOAN

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday September 7, 2022 09:19 —ThaiPR.net

ASW ผนึก UOB ขับเคลื่อนนวัตกรรมโซลาร์รูฟท็อป ลุยธุรกิจผ่านสินเชื่อ GREEN LOAN

บมจ.แอสเซทไวส์ หรือ ASW ผนึกกำลังจับมือ ธนาคารยูโอบี (ไทย) ร่วมยกระดับอสังหาริมทรัพย์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนผ่านสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) สำหรับพัฒนาและสนับสนุนผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ด้านการใช้พลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ ตอกย้ำความมุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของ ASW ภายใต้แนวคิด "GrowGreen" เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เดินหน้าติดตั้งแผงโซลาร์ Rooftop ผ่าน 4 โครงการ บนพื้นที่กว่า 2,711 ตารางเมตร ผลิตกระแสไฟฟ้าได้กว่า 511 กิโลวัตต์ ยกระดับคุณภาพชีวิตลูกบ้านและสร้างคุณค่าให้กับทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ภายใต้แนวคิด "ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ" หรือ "We Build Happiness" เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจแบบยั่งยืนภายใต้แนวคิด "GrowGreen" เพื่อสร้างที่อยู่อาศัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน โดยบริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) จากธนาคารยูโอบี (ไทย) แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ทั้งสององค์กรที่มุ่งสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่ง ASW มีความมุ่งมั่นสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องการพัฒนาเศรษฐกิจแบบยั่งยืนของประเทศไทยและทั่วโลก

บริษัทฯ มีแผนนำเงินจากสินเชื่อสีเขียวไปพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ ในด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างความยั่งยืน โดยได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการติดตั้งแผงโซลาร์ รูฟท็อป (Solar Rooftop) บนหลังคา ซึ่งได้ดำเนินการติดตั้งมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการติดตั้งไปแล้วจำนวน 4 โครงการ โดยมีพื้นที่ติดตั้งแผงโซลาร์ Rooftop รวมกว่า 2,711 ตารางเมตร และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ได้กว่า 511 กิโลวัตต์ ประกอบด้วย

  • สำนักงานใหญ่ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) (ASW) ติดตั้งแผงโซลาร์ (Solar Rooftop) พื้นที่ 154 ตารางเมตร แล้วเสร็จเมื่อเดือน ส.ค. 2564 ผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ได้ 32 กิโลวัตต์ โดยประมาณ
  • โครงการมิงเกิ้ล มอลล์ เคฟ ทียู (Mingle Mall ) ติดตั้งแผงโซลาร์(Solar Rooftop) พื้นที่ 724 ตารางเมตร แล้วเสร็จเมื่อเดือน ธ.ค. 2564 ผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ได้ 150 กิโลวัตต์ โดยประมาณ
  • โครงการเคฟ ทียู (Kave TU) ติดตั้งแผงโซลาร์ (Solar Rooftop) พื้นที่ 864 ตารางเมตร แล้วเสร็จเมื่อเดือน เม.ย. 2565 ผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ได้ 178 กิโลวัตต์ โดยประมาณ
  • โครงการเคฟ ทาวน์ ชิฟท์ (Kave Town Shift) ติดตั้งแผงโซลาร์ (Solar Rooftop) ขนาดพื้นที่ 969 ตารางเมตร แล้วเสร็จเมื่อเดือน มิถุนายน 2565 ผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ได้ 150 กิโลวัตต์ โดยประมาณ
  • "ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการตอกย้ำจุดยืนของ ASW และ UOB ถึงการเป็นองค์กรที่มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนทั้งสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance) หรือ ESG ซึ่งบริษัทฯ วางแผนติดตั้งแผงโซลาร์รูฟท็อปในโครงการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการมุ่งออกแบบพื้นที่สีเขียวและยกระดับการดีไซน์ที่อยู่อาศัยเพื่อใช้พลังงานสะอาด รวมทั้งการสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นอีกมากมาย ภายใต้แนวคิด "GrowGreen" เพื่อนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของลูกค้า ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงหลัก ESG มุ่งเน้นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี" นายกรมเชษฐ์ กล่าว

    คุณธาราวดี มนัสชินอภิสิทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี (ไทย) กล่าวว่า ASW เป็นผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในประเทศไทย ที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดีพร้อมกับการมุ่งมั่นพัฒนาสิ่งแวดล้อม โดยการติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อป เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ธนาคารยูโอบีมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการของ ASW และการดำเนินธุรกิจ GrowGreen ของ ASW ยังสอดคล้องกับนโยบายของธนาคารยูโอบีที่มุ่งสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงเงินทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Finance) ภายใต้กรอบแนวคิดการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ยั่งยืนเพื่อเมืองอัจฉริยะ (Smart City Sustainable Finance Framework) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย

    ทั้งนี้ ASW ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวสูงและแนวราบบนทำเลศักยภาพ ภายใต้แนวคิด "ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ" หรือ "We Build Happiness" ปัจจุบันได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการบ้านจัดสรรมาแล้วกว่า 44 โครงการ ภายใต้แบรนด์ในเครือที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความสุขให้เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์ ได้แก่ แบรนด์ เคฟ (KAVE), แบรนด์ แอทโมซ (ATMOZ), แบรนด์ โมดิซ (MODIZ), แบรนด์ เอสต้า (ESTA) และ แบรนด์ ดิ ออเนอร์ (THE HONOR) รวมมูลค่าโครงการกว่า 46,700 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและโครงการพร้อมอยู่ 32 โครงการ และโครงการที่กำลังเปิดขายและอยู่ระหว่างการพัฒนา 12 โครงการ โดยปัจจุบันมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 9,218 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง


    เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ