โครงการเขื่อนแควน้อยอนาคตไกลถูกกำหนดไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามนำรายได้กลับสู่ท้องถิ่นและสู่ประเทศชาติ

ข่าวท่องเที่ยว Friday April 25, 2008 16:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 เม.ย.--โอเคแมส
ถ้าจะกล่าวถึงเมืองสองแคว จ.พิษณุโลก จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดของประเทศไทยที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อยู่หลายแห่ง อาทิ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง , อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว , อุทยานแห่งชาติน้ำตกชาติตระการ , อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และอุทยานแห่งชาติแก่งเจ็ดแคว เป็นต้น ซึ่งมนต์เสน่ห์ธรรมชาติของสถานที่ท่องเที่ยวแต่ละแห่งของ จ.พิษณุโลก สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ และต่างประเทศให้มาเที่ยวชมได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นการเสริมรายได้ให้กับคนในจังหวัดได้อย่างมาก นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) เปิดเผยว่า นอกจากโครงการ”เขื่อนแควน้อย” อันเนื่องมาจากแนวพระราชดำริ จะดำเนินการก่อสร้างขึ้นเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับราษฎรที่ต้องประสบกับปัญหาที่ทำกินเนื่องมาจากอุทกภัย และภัยแล้งที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีของจังหวัดพิษณุโลก และ จังหวัดใกล้เคียงแล้ว ทางสำนักงาน กปร. ได้มีการวางแผนโครงการพิเศษที่จัดเตรียมพัฒนาเขื่อนแควน้อยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก โดยเสริมสร้างศักยภาพด้านการท่องเที่ยว พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด ซึ่งเริ่มจากให้มีการจัดการก่อสร้างพระพุทธรูปประจำโครงการ คือ พระปรางนาคปรก 9 เศียร ขนาดหน้าตัก 99 นิ้ว จะมีความสูงตามสัดส่วนของแผ่นจารึก ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จและทางโครงการได้นำไปประดิษฐ์สถาน ณ บริเวณจุดชมวิวหัวเขื่อนปิดช่องเขาต่ำ , การก่อสร้างรูปปั้นพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณเพื่อการไหว้สักการะ , การก่อสร้างแก่งเทียม โดยมีการตั้งชื่อว่า “แก่งเก้าแคว” ซึ่งจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในรูปแบบการท่องเที่ยว ”เชิงนิเวศน์” ซึ่งจะเป็นสถานที่ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง โดยลักษณะการก่อสร้างจะแยกลำน้ำออกเป็น 9 สาย และลำน้ำทุกสายจะถูกผันลงสู่แม่น้ำแควน้อย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกทำ
กิจกรรมได้หลากหลาย อาทิ ล่องแก่งตามลำน้ำ , ปั่นจักรยานเสือภูเขา ฯลฯ , ผานาคราช เป็นจุดชมวิวที่สามารถเห็นภูมิทัศน์โดยรอบ คือสามารถเห็นตัวเขื่อน 3 เขื่อนยาวต่อเนื่องกัน ได้แก่เขื่อนแควน้อย , เขื่อนสันตะเคียน , เขื่อนปิดช่องเขาต่ำ และในบริเวณใกล้เคียงจะมีการดำเนินการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ เพื่อใช้เป็นศูนย์ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้กับนักท่องเที่ยว อีกทั้งทางโครงการฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตั้งคำขวัญของเขื่อนแควน้อยไว้สำหรับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว คือ “เนินศรีวรา ผานาคราช หาดเอราวัณ สันมายะ สระมรกต” และในอนาคตหลังการก่อสร้างเสร็จเขื่อนแควน้อยจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพิษณุโลกอีกแห่งหนึ่ง โดยมีการประมาณการภายหลังจากการก่อสร้างเสร็จสิ้น จะสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ และทำกำไรให้กับธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้กว่า 135 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว นอกจากนี้ นายชูชาติ ฉุยกลม ผู้อำนวยการโครงการเขื่อนแควน้อยฯ ได้กล่าวเสริมด้วยว่าผลงานในการก่อสร้างล่าสุดของเขื่อนแควน้อยได้แล้วเสร็จไปกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม 2551 นี้ โครงการเขื่อนแควน้อยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจใน 6 ด้านหลักๆ ดังนี้ 1.ด้านการเกษตรที่จะช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรเพิ่มขึ้นจากการได้รับน้ำชลประทาน 2.ด้านการประมงที่จะเป็นแหล่งเพาะพันธ์สัตว์น้ำจืดที่สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณปีละกว่า 12 ล้านบาท 3.ป้องกันน้ำท่วมในจังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดใกล้เคียง 4.น้ำอุปโภค บริโภคที่มีส่งให้กับประชาชนในเขตโครงการได้ถึงปีละ 47.3 ล้านลูกบาศก์เมตร 5.พลังงานไฟฟ้าที่สามารถสร้างรายได้เป็นมูลค่าถึงปีละกว่า 5.65 ล้านบาท และ 6. ด้านการท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่กว่า 135 ล้านบาท / ปี อีกทั้งทางสำนักงาน กปร.ได้จัดโครงการพิเศษส่งเสริมอาชีพให้เกษตรกร ที่ต้องประสบกับปัญหาที่ทำกิน ซึ่งมีการฝึกอบรมให้ความรู้ด้านการเสริมสร้างอาชีพควบคู่ไปกับการประกอบอาชีพเกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพหลักของคนในชุมชนรอบๆ เขื่อนแควน้อย โดยทางสำนักงาน กปร.ได้จัดยุทธศาสตร์การพัฒนาอาชีพเสริม อาทิ โครงการให้ความรู้ด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด , โครงการเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำในแหล่งน้ำ , โครงการฝึกอบรมการถนอมอาหารและการแปรรูปผลิตภัณฑ์ประมง , กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไม้ , การผลิตปุ๋ยอินทรีย์อัดเม็ด , โครงการส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สามารถพัฒนาสู่ตลาดภายในประเทศและสู่สากล เป็นต้น เพื่อเสริมรายได้ให้กับชุมชนใน จ.พิษณุโลก นอกเหนือจากรายได้เสริมจากธุรกิจท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท โอเคแมส จำกัด
คุณภัทรานิษฐ์ ตันศรีกุลรัตน์(เอ) โทร. 02-618-7782-4 ต่อ102/ 081-700-5224
คุณนภสร จู่พิชญ์ (น้ำ) โทร. 02-618-7782-4 ต่อ108 /084-525-4574
คุณธนพร สุขมี (แหม่ม) โทร. 02-618-7782-4 ต่อ103 / 086-707-4263

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ