กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--โปรคอมมูนิเคชั่นส์ แอนด์ คอนซัลแตนท์
หนังสือพิมพ์ หน้า 1 พาดหัวตัวเบอเริ่มเทิ่ม ... สังคมไทยนับวันยิ่งเสื่อม...เด็ก 10 ขวบเริ่มมีเซ็กซ์ ขายบริการทางเพศเกลื่อนเมือง , แม่นำสูกสาววัย 14 เร่ขายตัวหาเงินรักษาพ่อ, เซ็กซ์ออนไลน์ ค่านิยมใหม่ของเด็กวัยรุ่น รายการโทรทัศน์หลายรายการที่ต่างมุ่งนำเสนอภาพพฤติกรรม ค่านิยม ในเรื่องเซ็กส์ของเด็กวัยรุ่น หวังเพื่อจะช่วยกระตุ้นเตือนองคาพยพของสังคมให้เร่งรีบแก้ไข ตระหนักว่าอาจกลายเป็นดาบสองคม ที่ก่อให้เกิดการท้าทายเลียนแบบพฤติกรรม แต่จะทำฉันท์ใด ในเมื่อสังคมเจ็บป่วยหนัก ก็ต้องใช้ยาแรง อาจมีผลข้างเคียงบ้างก็ต้องเตรียมรักษาอาการเหล่านั้น
....ในยุคข่าวสารมีอิทธิพลล้นฟ้าทุกๆ เรื่อง ตั้งแต่การทำให้เป็นลบก็ได้ เป็นบวกก็ได้ ดีก็ได้ เลวก็ได้ ผู้ที่ไม่มีพื้นที่ข่าวให้แก้ต่าง ย่อมเสียเปรียบและมักตกเป็นผู้ถูกกระทำอย่างแนบเนียน วันนี้ วัยรุ่น วัยโจ๋ วัยที่ทุกคนมองว่าเป็นตัวปัญหา ขอใช้สิทธิใช้เสียงในฐานะผู้ถูกกระทำมาเปิดใจ “ยอมรับได้ไหม...กับการมีเซ็กซ์ในวัยเรียน ?”
ทุกวันนี้ในสังคมไทยดูเหมือนว่าเรื่องเซ็กซ์กลายเป็นเรื่องที่มีการเปิดใจยอมรับกันมากขึ้น และนับวันเด็กที่เริ่มมีเซ็กซ์ครั้งแรกก็มีอายุน้อยลงทุกวัน โดยผลจากการสำรวจหลายๆ โพลล์ พบว่าเด็กไทยเริ่มมีเซ็กซ์ครั้งแรก ตั้งแต่อายุเพียง 11 ปีเท่านั้น ไม่ว่าจะมีเซ็กซ์กับคนรักด้วยความเต็มใจหรือไม่เต็มใจ และรวมถึงการขายบริการทางเพศที่ทุกวันนี้หาได้ง่ายตามท้องถนนทั่วไป แล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ คุณ...จะยอมรับพวกเค้ากันได้ไหม แบงค์ งามอรุณโชติ (เด็กอัจฉริยะ) นักศึกษาปีสองจากคณะเศรษฐศาสตร์ เปิดใจเปิดมุมมองว่า “ก่อนจะพูดว่ายอมรับหรือไม่ยอมรับสิ่งเหล่านี้ ผมขอฝากให้ฉุกคิดถึงที่มาของผลวิจัยเกี่ยวกับการมีเซ็กซ์ของวัยรุ่น เท่าที่ผมเห็นผลวิจัยทุกวันนี้ชี้ว่าวัยรุ่นเป็นอย่างนู้น เป็นอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้วคำว่าวัยรุ่นที่คุณสำรวจนั้นเป็นเพียงแค่คนหนึ่งพันคนในกรุงเทพและปริมณฑลหรือเปล่า ถ้าใช่ คุณก็ไม่ควรอนุมานว่ากลุ่มวัยรุ่นที่คุณสำรวจนี้เป็นความคิดเห็นของวัยรุ่นส่วนใหญ่ ส่วนการมีเซ็กซ์ในวัยเรียนนั้น หากจะมองว่ามันเป็นสิ่งผิด คนที่จะทำผิดได้นั้นจะต้องมีครบ ทั้ง 3 องค์ประกอบ ได้แก่ มีแรงจูงใจ, มีโอกาส และขาดความยับยั้งชั่งใจ ยกตัวอย่างในสมัยนี้วัยรุ่นผู้หญิงใส่เสื้อสายเดี่ยว เกาะอก นุ่งสั้น สิ่งเหล่านี้ย่อมทำให้เกิดแรงจูงใจต่อเพศตรงข้าม ถ้าไปอยู่ในสถานที่เปลี่ยวๆ และหากคนที่พบเห็นขาดความยับยั้งชั่งใจ แน่นอนว่ามีโอกาสที่จะทำผิดพลาดได้มากขึ้น ฉะนั้นหากจะแก้ไขต้องแก้ให้ถูกจุด แก้ที่ต้นเหตุเพื่อไม่ให้เกิดองค์ประกอบ 3 อย่างนี้ โดยในระยะสั้น เราต้องช่วยกันลดแรงจูงใจ ผู้หญิงก็ควรแต่งกายให้พองาม สื่อต่างๆ ทั้งเว็บไซต์ ภาพยนตร์ ละคร ก็ต้องไม่นำเสนอภาพล่อแหลมที่จะเป็นสิ่งเร้าให้เกิดแรงจูงใจ และคนในสังคมต้องช่วยกันสอดส่องดูแล เป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยเตือนกัน ส่วนผู้ประกอบการโรงแรมก็ต้องมีจิตสำนึก ไม่ใช่ว่าเห็นใส่ชุดนักเรียน หน้าตายังเด็กๆ วัยรุ่น ก็ยังเปิดให้ใช้บริการ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ผมว่ามันอยู่ที่จิตสำนึกของคนในสังคมทั้งนั้น ซึ่งมันเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมที่ต้องแก้
ส่วนการแก้ปัญหาในเรื่องของจิตใจวัยรุ่นนั้น เป็นปัญหาที่ต้องแก้ในระยะยาว เริ่มตั้งแต่สื่อต่างๆ ที่จะต้อง Edutainment มากขึ้นในด้านครอบครัว ซึ่งในปัจจุบันนี้ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวอาจห่างเหินกัน แต่พ่อแม่ผู้ปกครองก็ควรมีเวลาให้กับลูกๆ ในการปลูกฝังสั่งสอนสิ่งดีๆ ด้วยเหตุและผล ให้ความอบอุ่น และเข้ามาดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูกอย่างใกล้ชิด ในด้านการศึกษาและศาสนา ต้องมีวิธีการสื่อสารและสอนให้เข้าใจง่ายมากขึ้น ถ้าทำศาสนาเคลือบน้ำตาลได้ ประยุกต์คำสอนต่างๆ เป็นสื่อที่เด็กรับรู้ได้ง่ายขึ้น สิ่งดีงามจากพระธรรมคำสอนก็จะเข้าถึงจิตใจเด็กวัยรุ่นมากขึ้น”
“ต้อง” นักศึกษาชายจากคณะมนุษย์ศาสตร์ ได้พูดถึงมุมมองและทัศนคติเกี่ยวกับเซ็กซ์ในวัยเรียนว่า “ผมยอมรับได้กับการมีเซ็กซ์ในวัยเรียน คู่รักในสมัยนี้มีการตัดสินใจที่จะอยู่ก่อนแต่งกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นวัยทำงานหรือแม้แต่นักศึกษาที่ใช้ชีวิตร่วมกันตามบ้านเช่าหรือหอพัก การอยู่ก่อนแต่งก็มีข้อดีอย่างหนึ่งคือ เราสามารถศึกษานิสัยของกันและกันได้ลึกซึ้งกว่า เหมือนเป็นเพื่อนแก้เหงา เพราะบางคู่ไม่ได้อยู่กับพ่อ แม่ หรือพ่อ แม่แยกทางกัน ทำให้รู้สึกเหมือนขาดความอบอุ่นจากครอบครัว จึงอยากมีใครสักคนที่เข้าใจ และอยู่กับเราได้ตลอดเวลา แต่การอยู่ก่อนแต่งสำหรับวัยรุ่น ผมคิดว่าไม่เหมาะสม เพราะวุฒิภาวะยังต่ำ ความรับผิดชอบยังไม่เพียงพอ การมีเซ็กซ์ของเด็กวัยรุ่น ยังไม่มีการคำนึงถึงความปลอดภัย ไม่มีการป้องกันที่ถูกต้อง เพราะต่างคนต่างคิดว่าตัวเองนั้นปลอดภัย สะอาด และบริสุทธิ์ แต่ผลที่เกิดขึ้นอาจส่งผลร้ายแรงต่อตัวเค้าเองและอาจลามไปเป็นปัญหาของสังคมได้ เช่น เกิดการตั้งครรภ์แต่ด้วยวุฒิภาวะยังไม่พร้อมก็ตัดสินใจทำแท้ง” “ท็อป” นักศึกษาชายจากคณะนิเทศศาสตร์ ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “การมีเซ็กซ์ในวัยรุ่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะว่าสังคมวัยรุ่นปัจจุบันเปลี่ยนไปตามค่านิยม มีตัวผลักดันที่ทำให้มุมมองเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์เปลี่ยนไป โดยมีสื่อเป็นตัวนำ บวกกับสังคมไทยยังปิดกั้นเรื่องเซ็กส์ ทำให้เด็กวัยรุ่น ที่เป็นวัยอยากรู้อยากเห็น อยากทดลอง ต้องเรียนรู้ค้นหาด้วยตัวเอง” กิ๊ฟและโอ๋ นักศึกษาหญิงปี 1 เปิดใจว่า “หนูว่าคงไม่มีใครช่วยได้ในเรื่องเหล่านี้ ไม่ต้องเรียกร้องให้ทุกฝ่ายมาร่วมแรงร่วมใจช่วยกัน เพราะจริงๆ แล้วเริ่มต้นที่บ้าน หนูว่า พ่อ แม่ และผู้ปกครอง ที่บ้าน หากช่วยกันสอนสั่ง ให้คำแนะนำ ให้เวลา ให้ความเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ผู้ใหญ่ที่แข็งแรงสามารถสร้างพื้นฐานทางด้านความคิดที่แข็งแรงให้กับพวกเขา พวกหนูเชื่อว่า จะช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างยอดเยี่ยมค่ะ ปัจจัยภายนอก เช่น วีซีดีโป๊ สื่อต่างๆ อินเตอร์เน็ต เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้แรงขึ้น สำหรับเด็กที่ขาดทั้งความรักและความอบอุ่น” อัญชลี สาวสวยวัย เบญจเพศ ฝากความในใจถึงผู้เกี่ยวข้องและมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคมว่า “การที่วัยรุ่นวัยเรียนเริ่มมีเซ็กซ์ครั้งแรกตั้งแต่อายุยังน้อย ตามสถิติล่าสุดอยู่ที่อายุ 10 ปี ถือได้ว่าเป็นวัยที่ยังไม่มีความรู้เรื่องเพศศึกษามากนัก อาจเป็นเพราะการที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่มีการพูดคุย ให้คำปรึกษา ด้วยความอาย ความไม่กล้าของเด็กเอง ช่องว่างระหว่างวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ รวมไปถึงการที่เด็กเห็นว่าพ่อแม่ของตนยังไม่เปิดใจยอมรับเรื่องเซ็กซ์ และถ้ามีการพูดถึงเรื่องนี้ก็กลัวว่า จะถูกว่า หรือตำหนิได้ ทำให้เด็กวัยรุ่นต้องไปแสวงหาความรู้เรื่องเพศด้วยตัวเอง ซึ่งอาจเป็นการเรียนรู้ ผิดๆ ถูกๆ ดังนั้นพ่อแม่หรือ ผู้ปกครองควรให้ความรู้ คำแนะนำปรึกษาเรื่องนี้กับเด็กอย่างถูกต้องเหมาะสม อีกทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องหรือองค์กรต่างๆ ควรหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น เพราะถ้าสังคมไทยมีการยอมรับเรื่องการมี
เซ็กซ์ในวัยเรียน ก็เหมือนกับเป็นการสนับสนุนให้เด็กวัยรุ่นกล้าที่จะมีเซ็กซ์ทั้งๆ ที่อายุยังน้อย โดยผลกระทบย่อมมีตามมาแน่นอน และยิ่งจะบานปลายมากยิ่งขึ้น หากเราไม่รีบกันหาวิธีแก้ไขให้ถูกจุด”
จากเสียงสะท้อนเหล่านี้ ปัญหาที่ทับถมเหล่านี้ ที่เคยดังแล้วเงียบหาย เงียบหาย ไปกับสายลม ณ วันนี้ แพทยสมาคมฯ จะรวบรวมปัญหา บุหรี่ เซ็กซ์ มือถือ พฤติกรรมเลียนแบบของกลุ่มวายเจนเนอเรชั่น เข้าสู่เวทีระดับอาเซียน ในการประชุมวิชาการครบรอบ ๘๔ ปี แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2548 โดยผู้ที่สนใจหัวข้อ วัยรุ่น วัยรัก วัยเรียน วัยเสี่ยงจริงหรือ? สามารถเข้าร่วมฟังได้ในวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2548 เวลา 13.30 — 15.00 น. ณ ห้องประชุมพัชรกิติยาภาฯ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทยฯ โดยสำรองที่นั่งได้ที่ โทรศัพท์ 0 2314 4333 และ 0 2318 8170 หรือ ติดตามข่าวสารได้ทาง www.medassocthai.org
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
อุมา พลอยบุตร์, วีรยา หมื่นเหล็ก, วรรณวิสาข์ พรหมมา
โทร. 0-2691-6302-4 , 0-274 4961-2 , 0-2274-4782
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--