บทสัมภาษณ์ “น้องแคท ศษิสา จินดามณี” โชว์ลีลาแม่ไม้มวยไทยสุดเผ็ดร้อนในภาพยนตร์เรื่อง “ส้มตำ”

ข่าวบันเทิง Wednesday April 30, 2008 09:25 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--สหมงคลฟิล์ม
หลังจากเคยโชว์ลีลาแม่ไม้มวยไทยให้ประจักษ์ต่อสายตาผู้ชมมาแล้วจาก “เกิดมาลุย” วันนี้ “น้องแคท ศษิสา จินดามณี” จะกลับมาโชว์แม่ไม้มวยไทยอีกครั้งในขั้นกว่า...จริงจังกว่า ดุดันกว่า และเผ็ดร้อนกว่า...แบบเห็นได้ชัด ใน “ส้มตำภาพยนตร์แอ็คชั่นที่จะมาสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วประเทศในวันที่ 29 พ.ค. นี้...แน่นอน
บทบาท-คาแร็คเตอร์
ในเรื่องนี้ก็รับบทเป็น “ดอกหญ้า” ค่ะ คาแร็คเตอร์ก็จะประมาณว่าเป็นคนที่รักแม่ รักน้องคือกะเต็นที่รับบทโดยน้องเกรซ ตัวดอกหญ้าก็พยายามจะหาเงินมาช่วยแม่เท่าที่ตัวเองจะทำได้ โดยพื้นฐานของตัวดอกหญ้าเองก็เก่งแม่ไม้มวยไทยพอสมควร ก็เลยหาเงินพิเศษจากการแข่งชกมวยค่ะ
ผลงานที่ผ่าน ๆ มา มีเรื่องอะไรบ้าง
ก็มีเรื่อง “เกิดมาลุย” ค่ะ ตอนนั้นยังตัวเล็ก ๆ อยู่เลย แล้วก็จะมี “POWER KIDS ตัวเล็กใจใหญ่” ที่เล่นกับเกรซกับพวกเพื่อน ๆ อีกเรื่องหนึ่งค่ะ
บทเรื่องนี้ต่างจากบทในเรื่องก่อน ๆ อย่างไร
สำหรับบทบาทในเรื่องนี้ก็โตขึ้น แล้วก็มีน้องอะไรอย่างงี้ แล้วก็ต้องมีภาระดูแลมากขึ้น ก็น่าจะเป็นบทที่สนุกและเข้มข้นขึ้นจากเรื่องก่อน ๆ มีอะไรให้แสดงมากขึ้น รวมถึงแอ็คชั่นก็มีให้แสดงฝีมือมากขึ้น มีอุปกรณ์ให้เล่นหลายอย่าง อย่างมีฉากหนึ่งเป็นร้านขายมะละกอ ก็ได้เอามะละกอตีกัน มาสู้กับคนร้ายอะไรอย่างนี้ ฉากแอ็คชั่นก็จะมีการดีไซน์ให้ดุดันมากขึ้นด้วยค่ะ แน่นอนว่า เหนื่อยมากขึ้นด้วยค่ะ (หัวเราะ)
ในเรื่องนี้ ต้องเข้าไปเจอกับเหตุการณ์อะไรบ้าง
ตอนแรกก็คือเป็นเด็กขายของในพัทยา มีวันหนึ่งก็ไปเจอฝรั่งคนหนึ่งเหมือนเป็นคนอ่อนแอ แต่ว่าเขาตัวใหญ่มาก ก็ได้รู้จักและช่วยเหลือกันโดยบังเอิญ ทีนี้ทำไปทำมาเขามาทำร้านส้มตำแม่หนูพัง เพราะดันกินส้มตำเข้าไปแล้วเกิดอาการแพ้ขึ้นมา ก็เลยต้องช่วยกันหาเงินมาซ่อมร้านส้มตำ ทีนี้ก็ไปเจอกับเหตุการณ์มากมาย ที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ กะเต็นน้องสาวหนูไปขโมยกระเป๋าตังค์ของพวกโจร ซึ่งในกระเป๋านั้นมีของสำคัญบางอย่างของพวกโจรอยู่ ทีนี้ก็เป็นเรื่องเลย โดนพวกโจรตามล่าเอาเป็นเอาตายเลยค่ะ แต่ระหว่างนั้นทั้ง 3 คนคือ ดอกหญ้า กะเต็น และบาร์นนี่ (นาธาน โจนส์) ก็ได้เรียนรู้มิตรภาพต่างวัยต่างไซส์ด้วยค่ะ แล้วก็จะมีบทซึ้ง ๆ ระหว่างกันด้วย
ศึกษาบทเพิ่มเติมยังไงบ้าง
จริง ๆ ก็ไม่มีอะไรมากนะคะ หนูก็พยายามทำความเข้าใจในตัวบทที่ถ่ายจริง อ่านบทเยอะ ๆ แล้วก็ฟังผู้กำกับว่าเขาต้องการให้เราแสดงยังไง ซึ่งส่วนมากผู้กำกับเขาก็จะสอนเรื่องแอ็คติ้งซะมากกว่า เพราะอากุ้งเขาก็เก่งด้านนี้ ส่วนแอ็คชั่นก็จะเป็นหน้าที่อาพันนาเข้ามาช่วยสอนค่ะ ก็จะศึกษาเยอะ ๆ ก็ถามอาพันนาเกี่ยวกับเทคนิค ถามพี่สตั๊นท์ว่าเราควรทำยังไง ก็ต้องมีการซ้อม ซ้อมหลาย ๆ ครั้งเวลาถ่ายจะได้แบบเทคเดียวผ่านค่ะ ก็มีฝึกซ้อมท่า ทุ่ม ทับ จับ หัก แล้วก็สเต็ปมวยไทยบนเวทีมวยด้วยค่ะ
บทนี้ยาก-ง่ายยังไงบ้าง
ก็ถือว่ายากเหมือนกันเลยนะคะ เพราะว่าความจริงตัวเองไม่มีน้อง แล้วต้องเล่นเป็นคนมีน้อง ก็ค่อนข้างจะตรงข้ามอยู่ แล้วอย่างฉากดราม่าร้องไห้ก็ยากค่ะ เพราะว่าลมทะเลพัดน้ำตาไปหมดเลยค่ะ (หัวเราะ) การทำอารมณ์ในฉากร้องไห้ก็คือจะอยู่กับเกรซเยอะ ๆ ทำสมาธิเยอะ ๆ ห้ามหัวเราะ ห้ามอะไรกันเลย นิ่ง ๆ แล้วก็ร้องไห้เลย ก็ถือว่ายากค่ะ เพราะไม่เคยเล่นบทอย่างนี้มาก่อน และปกติก็เป็นคนที่ไม่ร้องไห้ง่าย ๆ ค่ะ อีกอย่างหนึ่งคือลมทะเลตอนถ่ายจริงนี่แรงมาก น้ำตาก็เลยแห้งไปหมดเลย เพราะหันหน้าใส่ทะเลนานเลยค่ะ
ส่วนที่เล่นง่าย ๆ ก็คือ ตอนอยู่เฉยๆ ค่ะ (หัวเราะ) ก็แบบว่า นั่งร้อยมาลัย ร้อยของที่จะเอาไปขายอะไรประมาณนี้แหละค่ะ
บทนี้มีนิสัยหรือคาแร็คเตอร์ตรงไหนบ้างที่เหมือนหรือแตกต่างจากตัวเอง
ที่เหมือนก็คงจะเป็นเรื่องเก่งด้านมวยไทย ชอบมวยไทย และก็เป็นคนรักแม่ เป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อแม่น่ะค่ะ แต่ว่าตัวจริงจะไม่มีน้องค่ะ ที่ตรงข้ามอ่ะค่ะ ในเรื่องอะไรก็ต้องให้น้องก่อน แต่ตัวจริงก็ได้เองเลยค่ะ ไม่ต้องแบ่งน้อง (หัวเราะ)
เล่าถึงฉากแอ็คชั่นในเรื่องนี้ให้ฟังหน่อย แตกต่างไปจากเรื่องก่อน ๆ ยังไง
ในเรื่องนี้ก็จะมีฉากแอ็คชั่นหลายฉาก มากกว่าเรื่องที่ผ่านมา อย่างที่เด่น ๆ ก็คือมีฉากชกมวยบนเวที ซึ่งเรื่องก่อนๆ ไม่มีชกมวยบนเวทีเลยค่ะ สำหรับท่าพิเศษก็มีบ้าง บนเวทีก็มีท่าหนุมานถวายแหวน ที่ไม่เคยเล่นเลย ก็เหมือนลิงถวายแหวน (ทำท่าประกอบ) กระโดดชกที่ปลายคาง ตรงปลายคางอะไรอย่างงี้ค่ะ ฉากนั้นกว่าจะถ่ายเสร็จก็เหนื่อยเหมือนกัน เพราะว่าแคทไม่เคยชกมวยเวทีแบบนั้นมาก่อนเลย เราต้องฝึกสเต็ปให้เหมือนนักมวยจริง ๆ เลย ก็เหนื่อยหนักเลยค่ะ แต่ก็สนุกนะคะ ชอบค่ะ มีแอ็คชั่นที่เราถนัดอยู่แล้วให้เล่น
ที่ถ่ายทำมา เจอซีนยาก ๆ อะไรบ้าง
ก็แอ็คชั่นทุกฉากเลยค่ะ ก็อย่างฉากคิวบู๊ที่บู๊ในตลาดร้านขายมะละกอ คือแคทเนี่ยไปซื้อของที่จะมาเปิดร้านส้มตำใหม่ แต่ว่าไปเจอคนที่เคยชกกับแคท แล้วแพ้แคท เขาก็บอกว่า ไม่เชื่อหรอกว่าจะแพ้แคทได้ ก็เลยมาหาเรื่องก็เลยมีการชกต่อยกัน เป็นการถ่ายทำคิวบู๊ที่ชอบมาก ๆ คือเป็นท่าแบบ ทุ่ม ทับ จับ หัก อ่ะค่ะ แคทก็มีการฝึกซ้อมตรงนี้ด้วย ประมาณว่าปามะละกอใส่เขา ทำท่าสะพานโค้งอะไรอย่างนี้ค่ะ ของแคทไม่มีอุปกรณ์ช่วยเลยค่ะ มือล้วน ๆ เลย (หัวเราะ) ก็ถือว่ายากนะคะ เพราะว่าเป็นคิวบู๊ที่เป็นสไตล์ที่แคทไม่เคยเล่น คือมีท่า ทุ่ม ทับ จับ หัก ก็เลยฝึกกันนานอยู่เหมือนกัน อย่างเช่นแบบเวลาเขาเตะมา เราก็จับขาเขาแล้วก็จับหัก ล้มลงอย่างงี้ค่ะ (ทำท่าประกอบ) คือเป็นการหักกระดูกว่างั้นเถอะ ถ่ายทำทั้งหมดเฉพาะฉากนี้ มันก็รวม ๆ ประมาณ 5 วันได้ค่ะ
มีเจ็บตัวจริง ๆ บ้างมั้ยตอนถ่ายทำฉากแอ็คชั่น
เรื่องนี้ก็มีเล็กน้อย โดนไม้บาดอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็จะเป็นฉากที่ช่วยกระเต็นกับบาร์นนี่ที่กำลังโดนรุมอยู่อ่ะค่ะ คือตัวเองซุ่มซ่ามเองไปชนไม้เอง มันก็เลยเป็นแผลนิดหน่อย แต่ก็ไม่มีอะไรค่ะ สบาย ๆ ค่ะ
ประทับใจอะไรกับกองถ่ายนี้บ้าง
ก็ประทับใจทุกคน ทีมงานพี่ ๆ เขาอารมณ์ดีกัน เลยทำงานกันสนุกมากค่ะ แล้วก็ดำขึ้นด้วยค่ะ (หัวเราะ) โลเกชั่นบรรยากาศก็ดีค่ะ ลมเย็นสบาย พี่ ๆ ทุกคนก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ แต่ว่าก็ไม่ได้ถึงกับเครียดอะไร ไม่ทำให้หนูกดดัน ก็ดีค่ะ
ชอบกิน ”ส้มตำ” มั้ย
ชอบมากค่ะ กินแทบทุกวันเลย กินได้ทุกส้มตำเลย ปูปลาร้า ตำไทยอย่างนี้ค่ะ ถ้าเป็นตำไทยก็จะชอบรส เผ็ดนิดๆเปรี้ยวๆ หน่อยค่ะ ก็ไม่ได้กินเผ็ดมาก
อุปสรรคในการแสดงหรือการถ่ายทำมีบ้างมั้ย
อุปสรรคมันก็ต้องมีอยู่แล้วค่ะ แต่ว่าไปเรื่องนี้ก็ไม่ค่อยมาก เพราะว่าอาจจะเป็นเพราะว่าคนในกองถ่ายสนุกสนาน ก็เลยไม่ซีเรียสเท่าไหร่ แต่เวลาทำงานก็จริงจังนะคะ เวลาเล่นก็เล่น พักก็พักค่ะ
การร่วมงานกับผู้กำกับและทีมงานเป็นยังไงบ้าง
อากุ้งใจดีมากค่ะ แล้วก็เวลาแคทไม่เข้าใจบทตรงไหน อากุ้งก็จะเข้ามาอธิบายเองเลยค่ะ คือไม่ค่อยฝากใครมาบอก แต่จะเดินเข้ามาอธิบายเองอะไรอย่างงี้ค่ะ ส่วนอาพันนาก็จะมาบอกเทคนิคการทำท่าแอ็คชั่นอะไรอย่างงี้ค่ะ อีกอย่างหนึ่งก็อาพันนาก็ให้กำลังใจตลอด เทคนี้ไม่ได้ไม่เป็นไร เอาครั้งหน้าก็ได้ อาพันนาก็ไม่ดุเหมือนกันค่ะ
การร่วมงานกับน้องเกรซเป็นยังไงบ้าง
ทำงานกับเกรซก็ดีค่ะ เพราะเกรซเป็นคนตลก (หัวเราะ) แต่ว่าก็น้องเขาก็น่ารักดี ตั้งใจทำงานดี ก่อนการเล่นทุกครั้งก็จะมีการต่อบทกันก่อนทุกครั้ง ก็สนิทกันดีมากค่ะ ก็มันมีกันแค่ 2 คนไงคะ
แล้วนาธาน โจนส์ล่ะ ร่วมงานกันแล้วเป็นยังไงบ้าง
นาธานเขาก็เป็นคนน่ารักดี เวลาเขาเล่นหนังเขาก็แบบดูน่ารักดี เขาเล่นเป็นอ่อนแอ แต่เขาตัวใหญ่มันก็เลยดูน่ารักอ่ะค่ะ ตัวจริงเขาคล้าย ๆ ในเรื่องอยู่บ้างนะคะ ถึงจะตัวใหญ่มากแต่ก็เป็นคนใจดีเลยค่ะ
มาเล่นเป็นแม่-ลูกกันกับพี่กิ่งเป็นครั้งแรกด้วย เป็นยังไงบ้าง
พี่เขาก็น่ารักดีนะคะ ก็เป็นการร่วมงานกันครั้งแรก แรก ๆ ก่อนที่จะได้เห็นพี่เขา ก็แอบปลื้มพี่เขาอยู่แล้ว เห็นพี่กิ่งเขาเล่น ก็รู้ได้เลยว่าพี่กิ่งเขาเก่งอ่ะค่ะ
พี่กิ่งเขาก็จะช่วยส่งอารมณ์ให้ เราจะได้เหมือนอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ เราก็เล่นได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ ตอนแรก ๆ ก็ตื่นเต้น เราแอบปลื้มพี่เขา เห็นเขาเล่นแล้วก็โอ้โห แล้วจะเล่นกับพี่เขาไหวมั้ยเนี่ย เราก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดีเลยค่ะ
ความน่าสนใจของเรื่องนี้
ความน่าสนใจของหนังเรื่องนี้ก็คือ “ส้มตำ” แน่นอนอยู่แล้ว คือการใช้ส้มตำเป็นอาวุธ แล้วก็ส่วนผสมของส้มตำเราก็ใช้เป็นอาวุธได้หมดเลยค่ะ รสชาติก็เหมือนกับหนังเรื่องนี้ รสชาติของส้มตำมี ทุกรส ก็มีเปรี้ยว ก็มีบีบมะนาวใส่ตากัน (หัวเราะ) เรื่องนี้ก็สนุกค่ะ มีหลายรสชาติ มันเหมือนไม่เคยเห็นมาก่อน คือการใช้ส้มตำเป็นอาวุธ ก็ไม่มีที่ไหนมาก่อน แล้วมีหลายอารมณ์ค่ะ ก็แอ็คชั่น ตลกก็มีเยอะ มุขตลกเยอะ ดราม่าก็มีเหมือนกัน ก็คิดว่าทุกคนที่ได้ชมคงจะประทับใจกันทุกคนค่ะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ