- รายได้เติบโต 9% ตามอัตราแลกเปลี่ยนท้องถิ่น และ 5.6% เมื่อคำนวณตามสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
- มีการสร้างงานใหม่สุทธิมากกว่า 36,000 ตำแหน่งทำให้มีพนักงานทั้งหมดกว่า 364,000 คน
- มีการลงทุนใหม่มูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลก รวมถึงการซื้อกิจการ 17 แห่งตั้งแต่ระบบคลาวด์ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
กรุงเทพฯ, 27 ตุลาคม 2566 - ในช่วง 12 เดือนสิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 เครือข่าย PwC ทั่วโลก รายงานรายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.31 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.9% ตามสกุลเงินท้องถิ่น และ 5.6% ตามสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ จากรายได้รวมในปีงบประมาณ 2565 ที่ 5.03 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
การเติบโตจากการดำเนินงานต่อเนื่อง ซึ่งไม่รวมประเทศรัสเซียที่ออกจากเครือข่าย PwC เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2565 และธุรกิจการเคลื่อนย้ายและการย้ายถิ่นฐานระดับโลก (Global Mobility and Immigration) ซึ่งขายไปเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 เพิ่มขึ้น 11.8% สะท้อนถึงคุณภาพของงานที่ส่งมอบโดยผู้เชี่ยวชาญกว่า 364,000 คนทั่วโลกและพลังของแบรนด์ PwC
นาย บ็อบ มอริตซ์ ประธาน PwC โกลบอล กล่าวว่า:
"การมุ่งเน้นในการส่งมอบบริการที่มีคุณภาพของเราซึ่งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต้องการเพื่อความสำเร็จในวันนี้ และการเตรียมองค์กรของพวกเขาสำหรับอนาคตได้ขับเคลื่อนให้เราเติบโตอีกปีหนึ่ง ในขณะที่เราก้าวเข้าสู่วันครบรอบ 175 ปี เรายังคงลงทุนต่อไปในอนาคตของเครือข่ายของเราด้วยการซื้อกิจการเชิงกลยุทธ์ในพื้นที่ที่มีการเติบโตที่สำคัญและแรงผลักดันในการขยายจำนวนพนักงานของเรา และยังคงเปิดรับผู้มีความสามารถที่หลากหลายและกว้างขวางต่อไป การให้บริการที่มีคุณภาพดีที่สุดที่เราสามารถทำได้ คือ จุดโฟกัสของเพื่อนร่วมงานทุกคนทั่วโลกและเป็นรากฐานของความสำเร็จของเรา ผมภูมิใจกับการทำงานหนักและความทุ่มเทของพนักงาน PwC ของเราในปีที่ผ่านมา"
รายได้เติบโตทั่วโลก
ในขณะที่บางประเทศยังคงต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูง และการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงซบเซาในหลายประเทศที่สำคัญ ๆ แต่รายได้ของเครือข่าย PwC ยังคงเติบโตอย่างมั่นคงตลอดทั้งปี
- รายได้ในทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (Europe, Middle East and Africa: EMEA) เพิ่มขึ้น 2% โดยรายได้รวมจากประเทศสหราชอาณาจักรและตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 16% (18% สำหรับการดำเนินงานต่อเนื่อง) ขณะที่รายได้จากประเทศเยอรมนีเพิ่มขึ้น 13.1% แต่สำหรับทั่วทั้งทวีปแอฟริกา รายได้เติบโตช้าลง โดยเพิ่มขึ้น 4.1% ด้วยผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากประเทศแอฟริกาใต้ ควบคู่ไปกับสภาวะตลาดที่ท้าทายมากขึ้นในที่อื่น ๆ ทั่วทั้งทวีป
- หากไม่รวมรายได้จากประเทศรัสเซียในปีก่อน ทวีปยุโรปกลางและตะวันออก (Central and Eastern Europe: CEE) เติบโต 2% เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงครามในยูเครนลดลงทั่วทั้งภูมิภาคส่วนใหญ่
- รายได้ในทวีปเอเชียแปซิฟิก เพิ่มขึ้น 2% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งมากของประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นบริษัทสมาชิกเครือข่ายขนาดใหญ่ที่เติบโตเร็วที่สุดในเครือข่าย PwC โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 24% และประเทศออสเตรเลีย รายได้เติบโต 10.7%
- รายได้ทั่วทั้งทวีปอเมริกา เพิ่มขึ้น 7% โดยประเทศสหรัฐอเมริกา เติบโต 11.2% ประเทศแคนาดา เพิ่มขึ้น 4.5% (10.9% สำหรับการดำเนินงานต่อเนื่อง) สำหรับประเทศบราซิล ถือเป็นปีที่สองที่รายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งที่สุดในอเมริกาใต้และอเมริกากลาง โดยเพิ่มขึ้น 14.3%
ผลลัพธ์เติบโตแข็งแกร่งในทุกสายธุรกิจ
สายธุรกิจแต่ละสายของ PwC ซึ่งประกอบไปด้วย ธุรกิจตรวจสอบบัญชี ธุรกิจที่ปรึกษา และบริการด้านภาษีและกฎหมาย มีรายได้เพิ่มขึ้นในปีงบประมาณ 2566
ธุรกิจตรวจสอบบัญชี
รายได้จากการดำเนินงานของธุรกิจตรวจสอบบัญชีของเรา เพิ่มขึ้น 8.9% เป็น 1.87 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปีงบฯ 2565 อยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) การตรวจสอบบัญชี ยังคงเป็นรากฐานสำคัญของแบรนด์ของเราและเป็นแรงผลักดันสำคัญสำหรับการเติบโตในธุรกิจตรวจสอบบัญชีของเรา ในโลกที่มีความผันผวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ตลาดยังคงให้ความสำคัญกับมุมมองที่เป็นอิสระและเป็นกลางต่อข้อมูลทางการเงินที่รายงาน และความไว้วางใจที่สร้างขึ้นในตลาดทุน ธุรกิจตรวจสอบบัญชีของเราเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ในขณะที่เราได้มีการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดที่ซับซ้อน เช่น การหมุนเวียนผู้ตรวจสอบบัญชี กฎระเบียบ และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เรายังเห็นความต้องการการตรวจสอบที่เพิ่มขึ้นสำหรับข้อมูลที่มิใช่ข้อมูลทางการเงิน เช่น การเปิดเผยข้อมูลทางไซเบอร์ และข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ในขณะที่บริษัทต่าง ๆ พยายามสร้างความไว้วางใจกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในด้านใหม่ ๆ เราคาดว่า แนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไปในปีต่อ ๆ ไป
ในปีที่ผ่านมา เรายังเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในบริการด้านความเสี่ยงของเรา ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และสภาวะเงินเฟ้อทำให้เกิดความไม่แน่นอนอย่างมาก เราได้แนะนำองค์กรต่าง ๆ ให้จัดการกับความไม่แน่นอนเหล่านี้ ช่วยให้พวกเขาสร้างความมั่นใจและส่งมอบผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้นในด้านต่าง ๆ เช่น การตอบสนองด้านกฎระเบียบและการแก้ไข
นอกจากนี้ เรายังพบว่ามีความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับการสร้างแบบจำลองความเสี่ยงและบริการด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ แสวงหาการรับรองในวงกว้างมากขึ้น
ธุรกิจที่ปรึกษา
รายได้จากการดำเนินงานของธุรกิจที่ปรึกษาของเรา เพิ่มขึ้น 13% เป็น 2.26 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปีงบฯ 2565 อยู่ที่ 2.07 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
การเติบโตส่วนใหญ่ในธุรกิจที่ปรึกษาของเราได้รับแรงผลักดันจากการที่ลูกค้าของเรามุ่งเน้นไปที่ความจำเป็นในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบธุรกิจของตนในรูปแบบดิจิทัล โดยเราได้กระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรทางเทคโนโลยีที่สำคัญเพื่อออกสู่ตลาดและส่งมอบผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ซึ่งส่งผลให้รายได้จากพันธมิตรเพิ่มขึ้น 40% นอกจากนี้ เรายังตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการส่งมอบห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดตั้งแต่กลยุทธ์และการดำเนินการที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตที่มีนัยสำคัญในธุรกิจบริการการจัดการ (Managed Services business) ของเรา
แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทายยังคงส่งผลให้กิจกรรมดีลโดยทั่วไปในตลาดหลัก ๆ หลายแห่งทั่วโลกชะลอตัวลง แต่งานของเราในการให้คำแนะนำและสนับสนุนการควบรวมกิจการ การซื้อกิจการ และการขายกิจการของลูกค้ายังคงเติบโตแข็งแกร่งตลอดทั้งปี นอกจากนี้ งานของเราในการสนับสนุนการปรับโครงสร้างองค์กรหรือวิสาหกิจที่ประสบปัญหาก็ขยายตัวเช่นกัน
ธุรกิจบริการด้านภาษีและกฎหมาย
รายได้จากธุรกิจภาษี กฎหมาย และกำลังแรงงานของเรา เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีงบฯ 2565 เพิ่มขึ้น 12.5% เป็น 1.18 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับการเติบโตที่ 8.7% ในปีก่อนหน้า ตัวเลขการเติบโตเหล่านี้ ไม่รวมรายได้จากธุรกิจการเคลื่อนย้ายและการย้ายถิ่นฐานทั่วโลกของเราซึ่งขายไปเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2565 การขายธุรกิจนี้ทำให้เราสามารถเพิ่มการลงทุนทั้งในด้านภาษี กฎหมาย และการดำเนินงานด้านกำลังแรงงานหลักของเราตลอดจนในด้านธุรกิจและความสามารถใหม่ ๆ (เช่น พันธมิตรและเอไอ (Artificial intelligence: AI)) ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดของเราในรอบสิบปี
ธุรกิจต่าง ๆ กำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญซึ่งนำไปสู่ความต้องการบริการด้านกำลังแรงงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้าแสวงหาการสนับสนุนในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและประสบการณ์ของพนักงานเมื่อเผชิญกับเทคโนโลยีใหม่และการหยุดชะงัก (Disruption) นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงยังได้รับแรงผลักดันจากการเติบโตในการดำเนินธุรกิจโซลูชันธุรกิจกฎหมาย (Legal Business Solutions) ของเราเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของบริการด้านกฎหมายที่มีการจัดการ และการให้คำปรึกษาและการใช้งานเทคโนโลยีทางกฎหมาย (Legal Tech Advisory & Implementation)
ความต้องการการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีที่เชื่อมโยง ซึ่งเป็นบริการแบบบูรณาการของ PwC ก็ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากลูกค้าทั่วโลกต้องเผชิญกับความซับซ้อนด้านกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้น และความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่มากขึ้น นอกจากนี้ เรายังช่วยเหลือลูกค้าในการจัดการกับข้อกำหนดด้านภาษีและความยั่งยืนทางกฎหมายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการชำระภาษีที่เรียกว่า ภาษี "สีเขียว" และการปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม
การลงทุนเพื่อวันพรุ่งนี้ของ PwC
ทั่วทั้งเครือข่าย PwC เราลงทุน 3.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงปีงบประมาณ 2566 หลังลงทุนมากกว่า 3.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีงบประมาณ 2565
นอกเหนือจากการลงทุนเพื่อดึงดูดทีมงานและบุคลากรที่มีประสบการณ์มายังเครือข่ายของ PwC ทั่วโลกแล้ว บริษัทเครือข่าย PwC ยังได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการ 17 รายการและการลงทุนเชิงกลยุทธ์ห้าแห่งทั่วโลกในปีงบประมาณ 2566 เพื่อขยายขีดความสามารถระดับมืออาชีพของเราในหลาย ๆ ด้านหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและคลาวด์
ทั่วทั้งเครือข่ายของเรา เรากำลังลงทุนเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อเติบโตและขยายความสามารถด้านเอไอของเรา โดยเปิดตัวความร่วมมือกับผู้นำเอไอหลายราย รวมถึงเปิดตัวเครื่องมือเอไอในทุกสายงานบริการของเรา
การยกระดับคุณภาพของเรา
"การส่งมอบงานคุณภาพสูง ถือเป็นหัวใจสำคัญของสิ่งที่เราทำที่ PwC และมันเป็นสิ่งที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคาดหวังจากเราอย่างถูกต้อง ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพจำเป็นต้องมีวัฒนธรรมองค์กรที่เหมาะสม ซึ่งต้องการผู้นำที่สามารถกำหนดแนวทางจากระดับสูง และระบบการจัดการคุณภาพที่ครอบคลุมและเชิงรุก และเมื่อเราไม่เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพของเรา เราก็เรียนรู้จากประสบการณ์ รับผิดชอบ และทำงานให้ดีขึ้น" นาย ดาน่า แมคอิลเวน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารและหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการระดับโลก PwC ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าว
ทุกปีเราเผยแพร่ผลการตรวจสอบภายในของเรา สำหรับรอบการตรวจสอบปี 2566 จากการตรวจสอบ 1,756 ครั้งที่เสร็จสิ้นจนถึงปัจจุบัน พบว่า 95.8% ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ต้องปรับปรุง และ 4.2% ได้รับการจัดอันดับว่า ไม่ปฏิบัติตาม เรายังคงลงทุนอย่างมากในการปรับปรุงคุณภาพการตรวจสอบบัญชี (Audit quality) และเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของเรา รวมถึงลงทุนในโปรแกรมระยะเวลาหลายปีเพื่อช่วยให้ผู้ตรวจสอบบัญชีส่งมอบการตรวจสอบยังรุ่นต่อไป และการใช้เทคโนโลยีผู้ช่วยตรวจสอบบัญชีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การสร้างกำลังแรงงานแห่งอนาคต
เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 เราได้ตั้งเป้าหมายที่จะสร้างงานใหม่สุทธิจำนวน 100,000 ตำแหน่งภายในปี 2569 ซึ่งในปีงบประมาณ 2565 เราได้สร้างงานใหม่มากกว่า 32,000 ตำแหน่ง และในปีงบประมาณ 2566 เราได้เพิ่มตำแหน่งงานมากกว่า 36,000 ตำแหน่ง ทำให้ชุมชนนักแก้ปัญหาของเรามีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 364,000 คนใน 151 ประเทศทั่วโลก โดยในอัตราปัจจุบันเรากำลังจะบรรลุเป้าหมายการสร้างงานใหม่จำนวน 100,000 ตำแหน่งภายในปี 2567 ซึ่งเร็วกว่ากำหนดสองปี
การฝึกอบรมและยกระดับทักษะบุคลากรของเรา และการมอบทักษะให้พวกเขาสร้างอาชีพที่ประสบความสำเร็จในฐานะส่วนหนึ่งของชุมชนนักแก้ปัญหา ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จทั้งในปัจจุบันและอนาคตของ PwC สำหรับปีงบประมาณ 2566 เรายังคงลงทุนในการฝึกอบรมบุคลากรทั่วโลก และระยะเวลาเฉลี่ยที่ใช้ในการฝึกอบรมบุคลากรของ PwC ในปีงบประมาณ 2566 คือ 65.7 ชั่วโมง
แม้ว่ามีสิ่งที่ต้องทำอีกมากมายเพื่อทำให้ PwC เป็นสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดสำหรับเพื่อนร่วมงานของเรา แต่ในปีที่แล้วแปดในสิบของคนของเรากล่าวว่า: PwC เป็นสถานที่ทำงานที่ยอดเยี่ยม (80%) สถานที่ที่พวกเขา 'เป็นส่วนหนึ่ง' (79%) สถานที่สำหรับใช้ทักษะที่พัฒนาขึ้นใหม่ (82%) และสถานที่ที่พวกเขาคาดว่าจะยังคงทำงานอยู่ในปีหนึ่ง (78%)
การมีส่วนร่วมในสังคมและชุมชนที่เราอาศัยและทำงานอยู่
ในปีนี้เป็นครั้งแรกที่เราเผยแพร่ รายงานความโปร่งใสทั่วโลก (Global Transparency Report) แยกกัน ซึ่งรวมถึงวิธีการที่เราดำเนินการเทียบกับ 55 ตัวชี้วัดทุนนิยมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum's (WEF) Stakeholder Capitalism Metrics) พร้อมด้วย รายงานสภาพแวดล้อมเครือข่าย (Network Environment Report) ของเรา การรายงานผล
กระทบในวงกว้างที่เรามีในฐานะองค์กรที่ไม่ใช่แค่ผลการดำเนินงานทางการเงินของเราเท่านั้น ช่วยให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถประเมินเราได้ไม่เพียงแค่รายได้ที่เราได้รับเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผลกระทบที่เรามีต่อผู้คน สังคม และโลกด้วย
จากตัวชี้วัดของสภาเศรษฐกิจโลก 39 ตัวที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา เราปฏิบัติตามทั้งหมดหรือบางส่วน 35 ตัวชี้วัด เรามีความคืบหน้าในการรายงานเทียบกับตัวชี้วัดเหล่านี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และจะมองหาวิธีที่เราสามารถเพิ่มความโปร่งใสในปีต่อ ๆ ไป นอกจากนี้ เรายังรายงานผลการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศทั่วโลกของเราโดยใช้กรอบการเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยงทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศ (Task Force on Climate- related Financial Disclosures: TCFD) โดยเรายังคงดำเนินไปตามแนวทางเพื่อให้บรรลุความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) และเป้าหมายที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ (Science-Based Targets) ซึ่งเราประสบความสำเร็จในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางตรง (Scope 1) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมจากการใช้พลังงาน (Scope 2) ได้ถึง 61% เทียบกับเกณฑ์พื้นฐานปีงบประมาณ 2562 ของเรา และยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมอื่น ๆ (Scope 3) จากการเดินทางเพื่อธุรกิจลง 49% เทียบกับปีงบประมาณ 2562 บริษัทสมาชิกเครือข่ายของเรากำลังหาวิธีต่าง ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเดินทางเพื่อธุรกิจในอนาคต รวมถึงการกำหนดเพดานการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับการเดินทาง และการใช้การประชุมเสมือนจริงให้มากขึ้น ขณะที่ 18% ของซัพพลายเออร์สินค้าและบริการที่จัดซื้อของเรา (ตามการปล่อยก๊าซเรือนกระจก) ได้กำหนดเป้าหมายที่อิงหลักวิทยาศาสตร์ของตนเองเพื่อลดผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศ และอีก 10% มุ่งมั่นที่จะทำเช่นนั้นในอนาคต นอกจากนี้ เรายังได้ปรับสมดุลพลังงานที่เหลืออยู่และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านการซื้อคาร์บอนเครดิตที่มีคุณภาพ
การสนับสนุนและช่วยเหลือชุมชนที่เราอาศัยและทำงานเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับบุคลากรของเราทั่วโลก โดยเราช่วยเหลือชุมชนท้องถิ่นผ่านการเป็นอาสาสมัคร และเสนอบริการของเราแบบบริการสังคมหรือแบบมีส่วนลด ในปีที่ผ่านมา พนักงาน PwC มากกว่า 42,000 คนอุทิศเวลามากกว่า 870,000 ชั่วโมงให้กับกิจกรรมที่สนับสนุนองค์กรการกุศล องค์กรนอกภาครัฐ (Non-governmental organisations: NGOs) และองค์กรท้องถิ่น
นอกจากนี้ สำนักงานสากลด้านมนุษยธรรม (Global Office for Humanitarian Affairs: GOHA) ของ PwC ยังใช้ประโยชน์จากทักษะและทรัพยากรของเครือข่าย PwC เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านมนุษยธรรมที่เกิดขึ้นใหม่และวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ยืดเยื้อ ซึ่งในปีนี้ครบรอบห้าปีในการสนับสนุนความช่วยเหลือทางการแพทย์ให้แก่ผู้ลี้ภัยในประเทศบังคลาเทศ และยังมีโครงการสนับสนุนใหม่สำหรับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุดในประเทศซีเรียและประเทศตุรกี นอกจากนี้ PwC ยังระดมทุนมากกว่า 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือชาวยูเครนและเพื่อช่วยเหลือการฟื้นฟูประเทศในระยะยาว
นาย บ็อบ มอริตซ์ ประธาน PwC โกลบอล กล่าวสรุปว่า:
"ส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราในการรายงานผลกระทบในวงกว้างในฐานะองค์กร เรากำลังเผยแพร่ รายงานความโปร่งใสทั่วโลกของเรา มีหลายอย่างที่เราภาคภูมิใจในขณะที่เราไตร่ตรองถึงงานที่เราได้ทำ การเป็นอาสาสมัครในชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลก และการที่เรามุ่งสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ แต่ยังมีอะไรอีกมากมายที่เราสามารถทำได้ การมีความโปร่งใสเกี่ยวกับจุดที่เราอยู่และเราต้องไปไกลแค่ไหน คือส่วนสำคัญในการคำนึงถึงตนเอง"