RICHY เฮ! ธุรกิจรีเทลฉายแววสดใส รับผลดีฟรีวีซ่า มั่นใจท่องเที่ยวบูมหนุน "RICH WALK" ปล่อยเช่าพื้นที่เต็ม 80% รุกหนัก IP Program การันตีผลตอบแทน 3 ปีแรก 21%
บมจ.ริชี่ เพลซ 2002 (RICHY) มั่นใจปี 67 ธุรกิจรีเทลโตแกร่ง! รับมาตรการฟรีวีซ่าทำท่องเที่ยวคึกคัก ดันยอดปล่อยเช่าพื้นที่ RICH WALK เต็ม 80% ขณะที่ธุรกิจอสังหาฯ รับผลดีต่ออายุลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง หนุนยอดขายเพิ่ม ด้านบิ๊กบอส "พิชญา ตันโสด" รุกหนักโปรแกรมลงทุน IP Program ต่อเนื่อง รับกระแสท่องเที่ยวบูม มั่นใจยอดปล่อยเช่าสม่ำเสมอ พร้อมการันตีผลตอบแทน 21% ( 3 ปีแรก) ปีที่ 4-9 ผลตอบแทนประมาณ 4-9%*
นางสาวพิชญา ตันโสด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) (RICHY) เปิดเผยว่า ในปี 2567 ธุรกิจรีเทลของบริษัทฯ มีแนวโน้มสดใสตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น หลังจากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างฟรีวีซ่าให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน คาซัคสถาน และอินเดีย เนื่องจากปัจจุบันโครงการ RICH WALK ที่เปิดให้บริการแล้วทั้ง 3 โครงการ ประกอบด้วย สาขาเพลินจิต - นานา สาขาพระราม 9 - ศรีนครินทร์ และสาขาพหลโยธิน 59 ซึ่งแต่ละโครงการเป็น Lifestyle Mall ตั้งอยู่ในทำเลติดและใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสายสำคัญ ทำให้เดินทางได้สะดวกสบาย และอยู่ย่านใจกลางเมืองใกล้กับแหล่งช้อปปิ้ง เป็นจุดเด่นที่ช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการ และส่งผลให้มีผู้ประกอบการร้านค้าเข้ามาเช่าพื้นที่ในโครงการเพิ่มขึ้นด้วย โดยปัจจุบันทั้ง 3 โครงการมีอัตราการเช่าพื้นที่แล้วเกือบเต็ม 80%
"โครงการ RICH WALK เป็น LIFESTYLE MALL ตอบโจทย์ลูกค้าครบทุกวัย โดยแต่ละโครงการมีร้านค้าบริการที่ครบครันไม่ว่าจะเป็นการกิน ดื่ม เที่ยว แหล่งช้อปปิ้ง และยังสามารถเดินทางง่ายสะดวกสบาย เนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า จึงมองว่าโครงการ RICH WALK จะเป็นอีกจุดแลนมาร์คที่น่าสนใจ ประกอบกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่คึกคัก ช่วยสนับสนุนให้อัตราการปล่อยเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางเข้ามาใช้บริการร้านค้าภายในโครงการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงมั่นใจว่า ธุรกิจรีเทลจะเป็นอีกธุรกิจที่ช่วยผลักดันให้ผลงานในปีนี้สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้" นางสาวพิชญา กล่าว
ส่วนภาพรวมธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ในปีนี้มองว่ามีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ปัจจัยหลักมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางรัฐบาลอย่างการต่ออายุมาตรการลดค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จาก 2% เหลือ 1% และลดค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จาก 1% เหลือ 0.01% ซึ่งจะช่วยลดภาระลูกค้าและทำให้ตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ง่ายขึ้น ประกอบกับปัจจุบันบริษัทฯ ได้นำโครงการ IP Program ซึ่งเป็นโปรแกรมการลงทุนรูปแบบใหม่เข้ามาบริหารจัดการให้กับลูกบ้านที่ต้องการจะสร้าง Passive Income ด้วยการลงทุนซื้อคอนโดแล้วปล่อยเช่า โดยโปรแกรมนี้การันตีผลตอบแทน 21% (3 ปีแรก) ปีที่ 4-9 ผลตอบแทน ประมาณ 4-9%* ซึ่งได้รับกระแสตอบรับจากนักลงทุนด้านอสังหาทรัพย์เป็นอย่างดีมาโดยตลอดจนต้องขยายการให้บริการโครงการ IP Program ออกไปอีกเป็น 5 โครงการ และบริษัทฯ วางแผนที่จะขยายโครงการเพิ่มอีกในอนาคต เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
"ในแต่ละโครงการที่เข้าร่วมโปรแกรม IP Program เป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ใจกลางเมืองย่าน CBD ตามแนวรถไฟฟ้าใกล้แหล่งช้อปปิ้ง กิน เที่ยว รวมถึงใกล้สถานพยาบาล ผู้ช่วยชาวไทยและผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เข้ามารักษาในประเทศไทยเลือกเข้าพัก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่สามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยว จึงคาดว่าจะเป็นตัวช่วยให้แต่ละโครงการมีอัตราการปล่อยเช่าได้อย่างสม่ำเสมอ และผลักดันผลงานในปีนี้สามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้" นางสาวพิชญา กล่าวในที่สุด