'13 มีนาคม วันช้างไทย' ทส. - อ.อ.ป. มุ่งสื่อสารให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญ 'การอนุรักษ์ช้างไทย' ... พร้อมดึงพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ 'สร้างคุณค่า - เชิดชูเกียรติช้างไทย'

ข่าวทั่วไป Wednesday February 28, 2024 13:54 —ThaiPR.net

'13 มีนาคม วันช้างไทย' ทส. - อ.อ.ป. มุ่งสื่อสารให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญ 'การอนุรักษ์ช้างไทย' ... พร้อมดึงพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ 'สร้างคุณค่า - เชิดชูเกียรติช้างไทย'

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) จัดแถลงข่าวในประเด็น "13 มีนาคม วันช้างไทย" โดยมี นางภาวินี ณ สายบุรี ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รองโฆษกประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในการแถลงข่าว ร่วมด้วยนายประสิทธิ์ เกิดโต รองผู้อำนวยการสายบริหาร โฆษกองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ณ ห้องแถลงข่าว 101 (ชั้น 1) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567

นายประสิทธิ์ เกิดโต รองผู้อำนวยการสายบริหาร โฆษกองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2541 เห็นชอบให้วันที่ 13 มีนาคมของทุกปี เป็น "วันช้างไทย" และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2541 เพื่อให้ประชาชนคนไทยหันมาสนใจช้าง รัก และหวงแหนช้าง ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์ช้างให้มากขึ้น เนื่องจากคนไทยมีวิถีชีวิตที่มีความผูกพันกับช้างมาตั้งแต่ในอดีต อีกทั้งยังมีความเคารพและศรัทธาช้าง ตามความเชื่อทางพุทธศาสนา และช้างยังมีความเกี่ยวพันกับสถาบันหลักของชาติไทย ทั้งกับสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยผลจากการที่ประเทศไทยมีวันช้างไทยเกิดขึ้น นับเป็นการยกย่องให้เกียรติว่าเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญอีกครั้ง นอกเหนือจากเกียรติที่ช้างเคยได้รับในอดีต ไม่ว่าจะเป็นช้างเผือกในธงชาติ หรือช้างเผือก ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ หรือสัตว์คู่พระบารมีของพระมหากษัตริย์

โฆษก อ.อ.ป. กล่าวต่อไปอีกว่า สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ (ส.คช.) หน่วยงานในสังกัด องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีภารกิจในการอนุรักษ์และบริบาลช้างไทย โดยมีช้างอยู่ในความดูแลจำนวน 111 เชือก และมีช้างสำคัญที่พำนักอยู่ ณ โรงช้างต้น สถาบันคชบาลแห่งชาติฯ จำนวน 6 ช้าง ช้างในพระองค์ จำนวน 4 ช้าง และช้างสำคัญที่พำนัก ณ พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จำนวน 3 ช้าง ได้มีกำหนดจัดงาน 'วันช้างไทย ประจำปี 2567' ในระหว่างวันที่ 11 - 13 มีนาคม 2567 ณ สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง, ศูนย์บริบาลช้าง บ้านปางหละ อำเภองาว จังหวัดลำปาง และโรงพยาบาลช้างกระบี่ อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เพื่อเป็นการเชิญชวนคนไทยได้ร่วมกันรำลึกถึงบุญคุณ รวมทั้งได้เชิดชูคุณค่าและเกียรติของช้างไทยควบคู่ไปกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาการเลี้ยงช้างของล้านนา

สำหรับการจัดงาน 'วันช้างไทย ประจำปี 2567' มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของช้างไทย ซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของชาติ และมีส่วนร่วมในการระลึกบุญคุณของช้างที่มีต่อประเทศชาติและคนไทย ตลอดจนเพื่อเป็นการส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ที่สนใจ รับรู้เรื่องราวของช้าง ทั้งในเรื่องประเพณี วัฒนธรรม การเลี้ยงช้างของไทยมากยิ่งขึ้น สามารถนำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดความรู้ที่ได้รับต่อสาธารณชนได้อย่างกว้างขวาง และเพื่อให้ชุมชนในท้องถิ่นที่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู วัฒนธรรม ประเพณี และร่วมสืบสานวัฒนธรรมและประเพณีที่ดีงามสืบไป โดยในปี 2567 อ.อ.ป. ได้กำหนดรูปแบบการสื่อสารในเรื่องการร่วมรำลึกถึงคุณค่าของช้างไทย ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์วัฒนธรรม และภูมิปัญญาการเลี้ยงช้างของล้านนา โดยมีรูปแบบการจัดกิจกรรม ได้แก่ พิธีบวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (พระนเรศวรมหาราช, เจ้าพ่อขุนตาน และองค์พระพิฆเนศวร), พิธีบำเพ็ญอุทิศส่วนกุศลให้กับช้าง, พิธีฮ้องขวัญช้าง, การจัดประกวดซุ้มอาหาร, พิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง และร่วมรับชมช้างกินอาหารบนสะโตก

นอกจากนี้ ในปี 2567 เป็นปีที่มีความพิเศษมากกว่าปีอื่นๆ เนื่องจาก อ.อ.ป. ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ควบคู่กันไปด้วย โดยสามารถเข้าร่วมรับชมการถ่ายทอดสดกิจกรรมวันช้างไทย และร่วมเป็นผู้ตัดสินการประกวดจัดแสดงซุ้มอาหารช้างบน Facebook Fanpage : ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จ.ลำปาง The Thai Elephant

โฆษก อ.อ.ป. กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า อ.อ.ป. มุ่งหวังผลลัพธ์จากการจัดงานในครั้งนี้ จะสามารถทำให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญและร่วมระลึกบุญคุณของช้างไทยซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของชาติ รวมถึงสามารถการสานต่อแนวทางการอนุรักษ์ช้างไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบไปเพิ่มมากยิ่งขึ้น และร่วมมือร่วมใจกันแสดงพลังความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ในการมองเห็นคุณค่าและความสำคัญของช้างไทย พร้อมปลุกจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์ช้างควบคู่ไปกับการสืบสานวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาการเลี้ยงช้างของล้านนาเพิ่มมากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ