กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
บริษัท แผ่นดินทองพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือโกลเด้นแลนด์ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เผยการปรับโครงสร้างองค์กร ภาพรวมทางธุรกิจ และฐานะทางการเงิน ยืนยันการปรับองค์กร และบุคลากรไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินการทางธุรกิจ มั่นใจทีมผู้บริหารชุดใหม่มีศักยภาพสูง สามารถนำพาบริษัทฯ สู่ความเป็นเลิศในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทุกด้าน
ด้านคุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ ประธานกรรมการ บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การปรับองค์กรไม่ได้สร้างผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด บริษัทฯ ได้ให้ทีมผู้บริหารชุดใหม่เข้ามารับช่วงงานต่อทันที เป็นบุคคลากรที่มีประสบการณ์และความสามารถสูง พร้อมที่จะเข้ามารับผิดชอบในส่วนงานต่างๆ ร่วมกับผู้บริหารเดิมที่มีความสามารถและชำนาญอยู่แล้ว จะเป็นการผสมผสานที่ดีสำหรับบริษัทอย่างแน่นอน ขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการอยู่ น่าจะเริ่มได้หลังปีใหม่ คือเดือนมกราคม 2549 จะมีการแบ่งสายงานอย่างชัดเจนเมื่อทุกท่านเข้าปฏิบัติงานในต้นปี”
สำหรับความคืบหน้าของโครงการบ้านเดี่ยวในปีนี้ มีทั้งหมด 4 โครงการ คือ เฟสใหม่ภายใต้ชื่อ เดอะ ปาล์ม ที่โครงการโกลเด้น เลเจ้นท์ สามารถสร้างยอดขายปีนี้ได้ประมาณ 650 ล้านบาท โครงการโกลเด้น นครา — บ้านศรีนครินทร์ สร้างยอดขายปีนี้ได้ประมาณ 500 ล้านบาท โครงการสุดหรูย่านบางนา แกรนด์ โมนาโค กำลังจะเปิดเฟสใหม่ภายใต้ชื่อสุดเก๋ Princely Lakeside Residences ซึ่งเป็นบ้านริมทะเลสาบ ที่มีเพียง 22 ยูนิตเท่านั้น คาดว่าสามารถสร้างยอดขายได้ปีนี้ราว 650 ล้านบาท ท้ายสุดกับโครงการ โกลเด้น เฮอริเทจ — บ้านปิ่นเกล้า สร้างยอดขายได้แล้วกว่า 800 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 4 บริษัทฯ ตั้งยอดขายไว้อีกประมาณ 800 ล้านบาท ทั้งนี้จะใกล้เคียงกับเป้าที่วางไว้คือราว 3,500 ล้านบาท
นอกจากนี้โครงการทั้ง 4 แห่งยังได้ประโยชน์จากการสร้างระบบขนส่งมวลชนของรัฐบาล ดังนี้โครงการโกลเด้น นครา จะมีรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สายสีแดง มักกะสัน - สุวรรณภูมิ โดยสถานีห่างจากโครงการเพียง 500 เมตร ขณะนี้ได้เริ่มการก่อสร้างแล้ว และกำหนดเสร็จอีก 30 เดือนหน้า โครงการโกลเด้น เลเจ้นท์ และโกลเด้น เฮอริเทจ จะมีรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย และส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ช่วงท่าพระ-บางแค สายสีชมพู ตลิ่งชัน-สุวรรณภูมิ และสายสีเขียวอ่อนจากสนามกีฬาแห่งชาติ ไปพรานนก ทั้งนี้บริษัทฯ ยังไม่มีแผนการซื้อที่ดินเพิ่มในปีหน้า เพราะที่ดินเดิมยังมีอยู่อีกนับพันไร่สามารถสร้างยอดขายได้อีกราว 20,000 ล้านบาท
สำหรับฝ่ายอาคารชุดพักอาศัย ทั้ง เดอะ เมย์แฟร์ มาริออท และ ดิ แอสคอท ยังคงมีผู้มาพักอาศัยทั้งแบบระยะสั้น และระยะยาวอยู่อย่างต่อเนื่อง ด้าน ดิ อินฟินิตี้ ที่ราคาเฉลี่ยสูงถึง 135,000 บาทต่อตารางเมตร ขณะนี้ปิดขายแล้ว และผู้รับเหมาพร้อมจะลงเสาเอกในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะสามารถโอนห้องให้กับลูกค้าได้ทั้งหมดภายในปี พ.ศ. 2550 ตามกำหนด
สำหรับโครงการ One Sathorn Square อยู่ในช่วงการออกแบบรายละเอียด และกำลังประสานงานกับทุกฝ่าย และท้ายสุด โครงการโปโล พาร์ค และรีสอร์ทที่กระบี่ ยังอยู่ในช่วงดำเนินการ และคาดว่าจะสามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ในช่วงต้นปีหน้า
ปัจจุบันสถานะการเงินของบริษัทแผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ถือได้ว่าแข็งแกร่ง และได้รับความเชื่อถือจากสถาบันการเงินชั้นนำ โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนวงเงินจากธนาคาร 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้รับวงเงิน 1,000 ล้านบาท เป็นวงเงินสำหรับการออกหุ้นกู้ และวงเงินอีก 660 ล้านบาท เป็นวงเงินสนับสนุนโครงการอินฟินีตี้ ซึ่งปัจจุบันขายหมดแล้ว และได้รับชำระเงินดาวน์เป็นจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ จากลูกค้า รวมทั้งสินกว่า 600 ล้านบาท
ด้านธนาคารนครหลวงไทย บริษัทฯ ได้รับวงเงิน 904 ล้านบาท เพื่อดำเนินการโครงการโกลเด้น นครา พระรามเก้า ซึ่งปัจจุบันมียอดขายกว่า 1,470 ล้านบาท โดย 350 ล้านบาทจะเป็นเงินทุนหมุนเวียน และอีก 554 ล้านบาทจะเป็นวงเงินสนับสนุนโครงการ สำหรับธนาคารธนชาต บริษัทฯ ได้รับวงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อดำเนินการโครงการโกลเด้น เลเจ้นท์ บ้านสาทร ทั้งนี้ จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนจำนวน 350 ล้านบาท และใช้เป็นวงเงินสนับสนุนโครงการอีก 150 ล้านบาท
ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ได้ชำระคืนหุ้นกู้ จำนวน 506 ล้านบาท เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และจะมีตั๋วแลกเงินที่จะครบกำหนดจ่ายจนถึงสิ้นปีอีก 430 ล้านบาท ซึ่งทางบริษัทฯ ได้เตรียมการที่จะชำระคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และภายในสิ้นปีบริษัทฯ จะเหลือเงินทุนหมุนเวียนอีกประมาณ 890 ล้านบาท
คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ กล่าวเสริมว่า “สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมามีผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจบ้าง อาทิ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคาร และ ราคาวัสดุที่สูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯ ก็ยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือสำหรับการลงทุน Tris Rating ที่ให้เรตติ้งของบริษัทฯ ที่ “BBB” ซึ่งถือได้ว่ายอดเยี่ยม และสร้างความพอใจให้กับผู้ถือหุ้นทุกท่าน”
สำหรับทิศทางธุรกิจในปีหน้า บริษัทฯ ยังคงที่จะพัฒนาโครงการที่พักอาศัยที่คงคุณค่าทั้งทางด้านประโยชน์ใช้สอย และเอกลักษณ์ในด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบ เพื่อสนองตอบความต้องการ ความพึงพอใจ และรสนิยมเฉพาะของลูกค้า นอกจากนี้โครงการบ้าน และอาคารที่พักอาศัยต่างๆ ของบริษัทฯ จะยังคงยึดหลักมาตรฐานแห่งความเป็นเลิศทั้งในด้านการเลือกทำเลที่ตั้งของโครงการที่มีศักยภาพและโดดเด่น การเดินทางสะดวกสบาย การคัดสรรวัสดุการก่อสร้างทั้งภายนอก และภายใน รวมทั้งวัสดุตกแต่งต่างๆ อย่างพิถีพิถัน เพื่อสร้างคุณค่าอันมั่นคงทั้งในด้านการลงทุน และคุณภาพชีวิตให้กับลูกค้าต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
อลิซาเบท วงศ์วาสิน และจตุพล นาคนิ่ม
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)
โทรศัพท์ 0-2662-2266
แฟกซ์ 0-2204-2662--จบ--