ปภ.เตือนระวังอุบัติเหตุซ้ำซ้อน

ข่าวทั่วไป Thursday May 26, 2005 13:34 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--ปภ.
ปภ. เตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ขับรถโดยเว้นระยะห่างจากคันหน้าในระยะ 1 ต่อ 1 และควบคุมระดับความเร็วรถในการเข้าโค้งหรือลงจากสะพาน ให้สอดคล้องกับระยะการมองเห็น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
นายสุนทร ริ้วเหลือง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวเตือนให้ประชาชน
ระมัดระวังการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ซึ่งมีรถชนกันมากกว่า 2 คันขึ้นไป โดยมีสาเหตุจากการที่รถคันที่ขับตามหลังมาเบรกไม่ทัน และชนซ้ำรถที่ประสบอุบัติเหตุอยู่ จึงขอเสนอแนะแนวทางแก้ไขและป้องกันปัญหา เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ดังนี้ ขับรถโดยเว้นระยะห่างให้เพียงพอ สำหรับระยะที่ถูกต้องและเหมาะสมมากที่สุดในการขับรถของประเทศไทย คือ อัตราส่วน 1 ต่อ 1 หมายความว่า ถ้าใช้ความเร็ว 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ให้เว้นระยะห่าง 100 เมตร เหตุที่ต้องเว้นระยะห่างเช่นนี้ เพราะมีตัวแปรมากมายที่เกี่ยวข้อง เช่น การสลับช่องทางของรถบรรทุก การเปลี่ยนช่องทางโดยไม่สื่อสัญญาณ พร้อมทั้งให้หลีกเลี่ยงการเบรกรถอย่างกะทันหัน เพราะอาจเป็นสาเหตุให้รถคันอื่นเกิด อุบัติเหตุหรือถูกชนท้ายได้ ซึ่งการกำหนดอัตราส่วน 1 ต่อ 1 ทำให้มีเวลาเพียงพอสำหรับการตรวจสอบสภาวะแวดล้อมก่อนที่จะตัดสินใจกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้ขับขี่ปลอดภัยแล้ว ยังช่วยลดกระแสการจราจรกระจุกตัว ลดปัญหารถติดต่อเนื่องนานๆ และมีช่องทางสำหรับให้รถฉุกเฉิน รถพยาบาลวิ่งได้คล่องตัวมากขึ้น
นายสุนทร กล่าวต่อไปว่า องค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งในการขับรถ คือ ระยะมองเห็น ในขณะที่ขับรถถึงเชิงสะพานควรลดความเร็ว โดยปกติเมื่อขับที่ระดับความเร็วประมาณ 100 — 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะการมองเห็นที่ปลอดภัยจะอยู่ที่ประมาณ 600 — 800 เมตร ส่วนการขับรถในทางโค้ง ให้ใช้ระยะที่มองเห็นจริงมาควบคุมระดับความเร็ว เช่น ระยะมองเห็นที่ 100 เมตร ให้ขับด้วยความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ระยะมองเห็น 40 เมตร ก็ขับด้วยความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นต้น แต่ถ้ามองเห็นในระยะเพียงประมาณ 60 เมตร แล้วขับรถด้วยความเร็วประมาณ 100 — 120 กิโลเมตร จะมีความเสี่ยงมากและเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซ้ำซ้อน สุดท้ายนี้ หากผู้ใช้รถใช้ถนนขับรถโดยคำนึงถึงความปลอดภัย ด้วยการขับรถในอัตราความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด และเว้นระยะห่างจากคันหน้าอย่างเหมาะสม ให้สัญญาณไฟทุกครั้งที่เปลี่ยนช่องทางเดินรถ จะช่วยป้องกันอันตรายที่คาดไม่ถึงกรณีที่รถคันข้างหน้าเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งทำให้ไม่ขับรถพุ่งชนซ้ำรถที่ประสบอุบัติเหตุอยู่แล้ว หรือถูก รถคันที่ขับตามหลังมาชนท้าย รวมทั้งสามารถลดการเกิดอุบัติเหตุในลักษณะซ้ำซ้อนได้ในที่สุด--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ