บทสัมภาษณ์ “LooKTooM” อัลบั้ม “Boutique Rock”

ข่าวบันเทิง Wednesday May 21, 2008 14:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 พ.ค.--เวสป้า มิวสิค
แนะนำตัว
ลูกตุ้ม ธรรศิราร์ ศรีชัยธวัฒน ค่ะ ศิลปินจากเวสป้า มิวสิค งานที่ผ่านมาก็เป็นดีเจ อยู่ที่คลื่น 98 Dance Fm สำหรับตอนนี้ ลูกตุ้มก็มีงานเพลงชุด Boutique Rock ออกมาให้ได้ฟังกันนะคะ เป็นดนตรีในแนวป๊อปร็อค
เข้ามาทำงานเพลงได้อย่างไร
ก็มีพี่ๆ ที่รู้จักกัน เค้าก็จะเปิดค่ายเพลง ก็เลยลองแนะนำให้เราเข้าไปออดิชั่นดู เพราะว่าก่อนหน้านี้ พี่ๆเค้าก็เห็นเราชอบร้องเพลง ไปร้องตามงานบ้าง ร้องคาราโอเกะบ้าง ก็เลยให้โอกาสลูกตุ้มได้เข้ามาทำงานตรงนี้ ก็เป็นจุดเริ่มต้นของลูกตุ้ม กับ เวสป้า มิวสิค
มีการเตรียมตัวยังไงบ้าง แล้วใช้เวลาในการทำงานมากน้อยแค่ไหน
ก็พอทราบว่าออดิชั่นผ่าน ลูกตุ้มก็เลยไปเรียนร้องเพลงเพิ่มก่อนเลยเป็นอันดับแรก เพราะว่าก่อนหน้านี้เราก็ร้องไปตามประสา ไม่ได้รู้ว่าร้องผิดหรือร้องถูกยังไง เรื่องโน้ตอะไรต่างก็ไม่รู้ ก็เลยได้ไปเรียนกับครูอิน หรือ พี่อิน บูโดกัน อ่นะคะ ที่ wanchy music academy center ก็เรียนอยู่ประมาณ 6-7 เดือนได้ ก็เริ่มเข้าห้องอัด
แล้วใช้เวลาในการทำงานมากน้อยแค่ไหน
จริงๆ ก็เริ่มคุยกันมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกา 49 แล้ว ก็มีการวางคอนเซ็ปต์ อะไรต่างๆนานา แล้วก็มาเริ่มทำงานกันก็เดือนกุมภา 50 ก็ใช้เวลาในการทำอัลบั้มชุดนี้ ก็น่าจะประมาณปีนึงพอดี
ความยากง่าย ในการทำงาน
ความยากมันอยู่ที่ว่า เราต้องหาตัวเองให้เจอ ว่าจริงๆ แล้วเราเป็นใคร เราชอบอะไร คือเมื่อก่อนเวลาร้องเพลง เราก็ร้องไปตามศิลปินต้นแบบที่เค้าร้องไว้ เค้าร้องยังไง เราก็ร้องอย่างนั้น คือพยายามจะร้องให้เหมือนต้นฉบับเลยก็ว่าได้ แต่พอเราต้องมาทำเพลงของตัวเอง มันไม่มีต้นฉบับ เราต้องร้องเป็นแบบของเรา ร้องให้เป็นตัวเรา ไม่ใช่เป็นคนอื่น ตอนนั้นมันเลยเป็นที่มาของคำว่า ร้องเพลงคนอื่นได้ทั้งโลก ยกเว้นเพลงของตัวเอง (ฮา...) ก็เป็นการแซวกันขำๆ แต่ก็ให้ได้คิดกันเลยทีเดียว ซึ่งตรงนี้เราต้องค้นหาตัวเองให้เจอ ว่าเราเหมาะกับเพลงแบบไหน เพราะบางทีเพลงที่เราชอบฟัง อาจจะไม่ใช่เพลงที่เหมาะกับตัวเราก็เป็นได้
ถ้าเทียบการร้องเพลงกับการจัดรายการวิทยุ อันไหนยาก ง่ายกว่ากัน
งานทั้ง 2 อย่างนี่ จริงๆแล้วมันก็มีส่วนคล้ายกันอยู่บ้าง ส่วนที่คล้ายก็คือ ต้องเป็นตัวของตัวเองไม่ว่าจะงานเพลง หรืองานดีเจ แต่ถ้าจะให้เทียบระหว่างอันไหนยากง่ายเนี่ย มันก็ยากทั้งสองอย่าง แต่มันยากกันคนละแบบ อย่างรายการที่ลูกตุ้มจัดมันจะเป็นเพลงแดนซ์ ความยากของการจัดรายการประเภทนี้ก็คือ เราต้อง mix เพลงให้ได้ ต้องรู้จักเพลงเยอะพอสมควร ต้องแยกให้ออกว่าเพลงแต่ละเพลงเป็นเพลงแดนซ์ประเภทไหน แล้วแต่ละประเภทมันก็ยังมีส่วนแยกย่อยออกไปอีก ซึ่งเวลาเราเปิดเพลงเนี่ย มันต้องให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ให้คนฟังไม่รู้สึกว่ามันโดด ก็ต้องอาศัยการฟังเยอะๆ ฝึกเยอะๆ
อุปสรรคในการทำงานเพลงคืออะไร
อุปสรรคเหรอคะ อุปสรรคก็คือตัวเองค่ะ (ฮา..) คือพอหมดจากช่วงเวลาค้นหาตัวเองแล้วเนี่ย มันก็ถึงเวลาเข้าห้องอัดใช่มั้ยคะ ทีเนี้ย อุปสรรคมันก็อยู่ตรงที่ความคิดนี่แหละค่ะ คือตอนซ้อมเนี่ย เราก็ตีความเพลงไว้อย่างนี้ ๆ นะ แต่พอเข้าห้องอัดจริงๆ มันอาจจะแรงกว่านั้น เศร้ากว่านั้น หรืออะไรก็ตามแต่ ซึ่งพอต้องร้องแล้ว มันไม่รู้สึก อุปสรรคอยู่ตรงนี้เอง ลูกตุ้มไม่มี feeling ขอรับท่านผู้ชม 555 หา feel ไม่เจอ ซึ่งทำความเข้าใจกับความคิดตัวเองยากมาก เป็นคนร้องเพลง feeling จัดๆ ยากมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเราเป็นคนสนุกสนาน เฮอา อะไรอย่างนี้ มันเลยไม่ค่อยมีความรู้สึกนั้น กว่าจะอินให้ได้นี่ ก็เล่นเอาเหนื่อยไปตามๆ กัน
ทำไมถึงใช้ชื่อชุด Boutique Rock [ บูทีค ร็อค
]
คำว่า Boutique จริงๆแล้วมันก็มีหลายความหมาย สำหรับอัลบั้มชุดนี้ บูทีคก็คือความใหม่ ความที่มีลักษณะเฉพาะตัวไปในด้านใดด้านหนึ่ง Boutique Rock ก็คือ ดนตรีที่สื่อถึงความเป็นยุคสมัยใหม่ ในด้านเนื้อหาการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างจะชัดเจน
ที่มาของแต่ละเพลง มีความเป็นมาเป็นไปยังไงบ้าง
ในอัลบั้มชุดนี้จะมีทั้งหมด 5 เพลงนะคะ ในแต่ละเพลงนี่ เราก็จะมีการนั่งพูดคุยกันว่าลูกตุ้มอยากจะให้เพลงออกมาเป็นแบบไหน เนื้อหายังไง ทางพี่อุ๋น โปรดิวเซอร์ ก็เลยให้ลูกตุ้มได้เขียนคอนเซ็ปต์ขึ้นมาว่าอยากให้แต่ละเพลงมีเรื่องราวเป็นแบบไหน อยากจะเล่าเรื่องอะไร ก็มีเขียนไปเยอะเหมือนกันนะคะ พี่อุ๋นก็เลือกมาแต่ละเพลงให้มันตรงตามความต้องการของเราให้ได้มากที่สุด อย่างเพลงจะทิ้งก็ทิ้งเลย มันก็มาจากที่เราดูเป็นคนแข็งๆ เหมือนไม่ค่อยแคร์อะไร คือไม่ชอบอะไรที่มันคลุมเครือ จะเอายังไงก็ว่ามา อะไรเงี้ย ออกแนวโหดๆ หน่อย (ฮา...) ก็เลยเป็นที่มาของเพลงจะทิ้งก็ทิ้งเลย แล้วอย่างเพลง ภาพที่ไม่เคยเลือนหาย คอนเซ็ปต์นี่ก็ประมาณว่าเราเคยมีความทรงจำมากมายกับคนคนนึง ซึ่งไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนแล้วก็ตาม เมื่อไหร่ที่คิดถึง หรือมองย้อนกลับไป ภาพต่างๆ ก็ยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ จริงๆ เพลงนี้มันก็ไม่ได้เศร้าเท่าไหร่นะคะ คือมันก็เออนะ มันไม่ลืมน่ะ แต่เสียใจมั้ย ก็เสียใจ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นมากมายฟูมฟาย หรือเรียกร้องอะไร มันก็แค่คิดถึงเรื่องที่มันผ่านไปแล้ว อะไรอย่างเนี้ย ทั้งหมดทั้งมวล ทั้ง 5 เพลงในอัลบั้มชุดนี้ คือ ไม่อกหักนะ ถ้าฟังดูดีดีจะรู้ว่ามันไม่ได้เศร้ามากมาย อย่างมากก็แค่เหงาๆ แค่นั้นเอง อย่างเพลงเมื่อไม่มีเธอ จริงๆ แล้ว ลูกตุ้มแค่จะบอกว่า “มันยังไม่ชิน กับการที่ต้องทำอะไรคนเดียว ไปไหนมาไหนคนเดียว โดยที่เมื่อก่อนเราเคยมีอีกคนอยู่ข้างๆ แค่อยากจะบอกว่า พอไม่มีคนนั้นแล้ว ชีวิตเราก็เปลี่ยนเหมือนกันนะ พอไม่มีเธออยู่ข้างๆแล้ว โลกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง” นี่แหละที่ต้องการจะบอก คือมันเหงาน่ะ เวลาขาดอะไรไป อะไรเงี้ย แต่ก็ต้องอยู่ให้ได้ไง แต่พอดีว่า MV มันออกมาเศร้าเหลือเกิน แต่จริงๆ แล้วก็มองได้หลายรูปแบบ เพราะการที่คนสองคนจะแยกกัน มันไม่จำเป็นต้องเลิกกันเสมอไป บางคนก็แยกกันเพราะต้องไปเรียนต่อ หรือบางครั้งก็ย้ายไปทำงานคนละที่ อะไรอย่างเงี้ย ที่ต้องการสื่อจริงๆ เลยก็คือ เออ มันเหงานะ เวลาไม่มีเธอ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ