วอเนอร์ เสนอภาพยนตร์เรื่อง Mr. & Mrs. Smith

ข่าวทั่วไป Wednesday May 25, 2005 11:30 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--วอเนอร์ บราเธอร์ส
จอห์นกับเจน สมิธ เป็นคู่สามีภรรยาธรรมดาๆ ที่มีชีวิตแต่งงานจืดชืดเรียบง่าย ทว่า ต่างฝ่ายต่างก็ซ่อนบางอย่างที่อีกฝ่ายถึงกับยอมฆ่าให้ตายเพื่อให้ได้คำตอบ : แท้ที่จริงนายและนางสมิธคือนักสังหารมืออาชีพค่าตัวแพง และทั้งคู่ต่างทำงานให้กับองค์กรที่เป็นคู่แข่งขัน
นายและนางสมิธค้นพบแหล่งความตื่นเต้นแห่งใหม่ในชีวิตแต่งงาน เมื่อพวกเขาถูกว่าจ้างให้สังหารอีกฝ่ายหนึ่ง...และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสนุก ที่ทำให้เกิดแอ็คชั่นแห่งสุดยอดความตื่นเต้น เมื่อนายและนางสมิธได้ใช้ฝีมือที่เชี่ยวชาญอย่างหาตัวจับยากของพวกเขาในชีวิตแต่งงานและการทดสอบขั้นสุดยอด
แบรด พิตต์ และแอนเจลิน่า โจลี่ แสดงนำในเรื่อง MR. AND MRS. SMITH ผลงานภาพยนตร์แอ็คชั่นผจญภัยสุดเซ็กซี่ ที่เต็มไปด้วยการเดินทางรอบโลก สเปเชียลเอ็ฟเฟ็คชั้นเยี่ยม และการแสดงสตันท์เหลือเชื่อ อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์คอมเมดี้ที่มีตัวละครที่ไม่ธรรมดาซึ่งต้องเผชิญหน้ากับปัญหาธรรมดาๆ
สิ่งที่กลายมาเป็นภาพยนตร์ยิ่งใหญ่เริ่มต้นจากจุดกำเนิดที่เรียบง่าย
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ ไซมอน คินเบิร์ก เขียนร่างต้นฉบับครั้งแรกเพื่อใช้เป็นวิทยานิพนธ์สำหรับปริญญาโทของเขาที่ Columbia University Film School “ความคิดมาจากความหลงใหลหนังแอ็คชั่นฮ่องกงของผม” คินเบิร์กเล่า เขายังได้เขียนบทหรือร่วมเขียนบทให้เรื่อง XXX: State of the Union และ X-Men 3 “พวกหนังแอ็คชั่นฮ่องกงเต็มไปด้วยความมัน ลื่นไหล เซ็กซี่ และการเคลื่อนไหว และทุกอย่างกลายเป็นแรงกระตุ้นและกรอบในการร่างต้นฉบับของผม”
ในตอนที่คินเบิร์กระดมสมองเพื่อหาแนวคิดสำหรับเรื่อง เขาไปทานอาหารเย็นกับพวกเพื่อนสนิทซึ่งอยู่ระหว่างทดสอบการบำบัดชีวิตสมรสเป็นครั้งแรก “ผมก็กำลังพยายามแต่งเรื่องอยู่” คินเบิร์กกล่าว “ตอนที่เพื่อนๆ เล่าให้ฟังถึงประสบการณ์เรื่องคำปรึกษาปัญหาครอบครัว มันฟังดูเหมือนประสบการณ์ทหารรับจ้าง ซึ่งผมรู้สึกว่าสามารถเอาไปทาบลงกับเนื้อหาของหนังแอ็คชั่น”
เมื่อร่างต้นฉบับพร้อม คินเบิร์กไปพบกับอากิว่า โกลด์สแมน นักเขียนบทภาพยนตร์ชื่อดัง (เขาได้รับรางวัลออสการ์จากบทภาพยนตร์ดัดแปลงในเรื่อง A Beautiful Mind) และการอำนวยการสร้าง โกลด์สแมนประทับใจกับบทภาพยนตร์ที่ผสมกลมกลืนไปด้วยแอ็คชั่น ผจญภัย ความรัก คอมเมดี้ และความระทึก และเขาได้กลายมาเป็นผู้สนับสนุนภาพยนตร์
“MR. AND MRS. SMITH เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเซ็กส์และความเข้าใจผิด” โกลด์สแมนกล่าว “แทนที่จะเป็นหนังโรเมนติคคอมเมดี้ตามสูตร เรามีฉากแอ็คชั่นและระเบิดจำนวนมาก แต่แอ็คชั่นก็ยังเป็นรองตัวละคร มันมีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับคู่แต่งงานที่ถูกบีบบังคับให้ตามล่าและสังหารอีกฝ่ายหนึ่ง — และสิ่งนั้นทำให้พวกเขาสนใจซึ่งกันและกันเป็นครั้งแรกในเวลาหลายปี เรียนรู้ความจริงของอีกฝ่าย จอห์นและเจน สมิธตกหลุมรักและกันอีกครั้ง”
โกลด์สแมนและคินเบิร์กเร่เสนอขายสคริปท์ไปทั่ว แต่ไม่ประสบความสำเร็จในตอนแรก หลังจากที่ Summit Entertainment และในที่สุด Regency Enterprises ก็เป็นผู้ซื้อสคริปท์ไป แบรด พิตต์ เข้าร่วมทีมเพื่อรับบทเป็น จอห์น สมิธ ก่อนหน้าที่ ‘นางสมิธ’ จะถูกเลือก บรรดาผู้อำนวยการสร้างและพิตต์ก็ได้คัดสรรให้ดัค ไลแมนมากำกับฯ ไลแมนเคยได้พิสูจน์ฝีมือตัวเองในการทำงานกับเรื่องที่ต้องลุ้นมาแล้วอย่างเรื่อง Go และหนังแอ็คชั่นผจญภัยฟอร์มยักษ์ The Bourne Identity
ไลแมนถูกดึงดูดโดยโอกาสในการทำหนังที่แสดงให้เห็นว่า การเป็นนักฆ่ายอดฝีมือนั้นง่ายเมื่อเทียบกับความน่าขนลุกในการรักษาชีวิตแต่งงานเอาไว้ “หนังเรื่องก่อนของผม The Bourne Identity เป็นการถ่ายทอดความสามารถทางกายภาพของเจสัน บอร์น” ไลแมน “ผมเลยตื่นเต้นเมื่อเรื่อง MR. AND MRS. SMITH ทำให้ผมมีโอกาสททำหนังที่พูดว่า ‘ยอดมาก คุณเป็นนักฆ่าที่ถูกฝึกให้เป็นมือสังหารชั้นยอด ลองแต่งงานมาหกปี นั่นช่างน่าประทับใจจริงๆ!
“หนังตั้งคำถามที่สนุกเมื่อเอาไปใคร่ครวญ : คู่แต่งงานมือสังหารจะรับมือกับปัญหาครอบครัวอย่างไร? แน่นอน คำตอบก็คือ พวกเขาจะพยายามฆ่าอีกฝ่ายหนึ่ง”
ไลแมน พิตต์ และพวกผู้อำนวยการสร้างเตรียมงานภาพยนตร์ไปได้เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เมื่อถึงเวลาเลือกดาราที่จะเข้าคู่กับพิตต์ บทบาทของ เจน สมิธต้องการนักแสดงฝีมือแกร่งที่มีความสามารถทัดเทียมกัน หนึ่งในบรรดานักแสดงหญิงซึ่งเป็นที่เรียกหามากที่สุดของวงการ แอนเจลิน่า โจลี่ ต้องลงรับนัดล่วงหน้าเป็นเดือนๆ บางทีก็เป็นปี ควบคู่ไปกับงานแสดงของเธอ ยังมีตารางการทำงานเต็มเวลาในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนขององค์การสหประชาชาติในตำแหน่ง High Commissioner for Refugees ทันทีที่เสร็จจากการถ่ายทำเรื่อง MR. AND MRS. SMITH, นักแสดงสาวก็เริ่มการถ่ายทำสารคดีซึ่งใช้ทุนของเธอเอง เพื่อถ่ายทอดชะตาชีวิตของบรรดาผู้ลี้ภัยทั่วโลก
นับเป็นโชคดีของเหล่าผู้อำนวยการสร้าง ที่ภาพยนตร์เรื่องหนึ่งถูกล้มเลิกการสร้างในนาทีสุดท้าย และโจลี่สามารถรับแสดงให้กับเรื่อง MR. AND MRS. SMITH ได้ โกลด์สแมน กับดัค ไลแมน และผู้อำนวยการสร้างลูคัส ฟอสเตอร์ สามารโน้มน้าวให้จูลี่เชื่อได้ว่านี่ไม่ได้เป็นหนังแอ็คชั่นทั่วๆ ไป
“เราต้องใช้เวลาจีบแอนจี้อยู่นาน” ฟอสเตอร์กล่าว “เราพูดให้เธอฟังถึงภาพรวมของหนัง เพราะว่ามันเป็นหนังที่ดีในแง่มุมที่ต้องการบอกเล่าเรื่องราว ในที่สุดแล้วมันก็คือหนังสัมพันธภาพ มันเป็นความขัดแย้งของคนที่จะอยู่ด้วยกัน แต่ชีวิตและสถานการณ์บังคับ แต่ยังไงก็ต้องหาทางจัดการเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้”
โจลี่ชื่นชอบสีสันหลากหลายของหนัง “มีฉากดราม่าที่เกี่ยวกับประเด็นเรื่องสัมพันธภาพ” เธอกล่าว “และฉากแอ็คชั่นและการต่อสู้แบบสุดขีดอีกมากมาย มันเป็นความสมดุลย์อย่างมากและยอดเยี่ยมเพราะมันเป็นเหมือนชีวิตจรองและการแต่งงาน”
โจลี่ยังได้พบกับความคล้ายคลึงของตัวเองหลายอย่างกับบทในหนัง “ฉันค่อนข้างเหมือนเจน” โจลี่กล่าว “ฉันเรียนรู้บางอย่างกี่ยวกับตัวเองในการรับบทเป็นเธอ มันเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้หญิงควรรู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็งด้วยตนเองได้ แต่มันดีมากที่ได้ทำงานในหนังที่ผู้ชายและผู้หญิงต้องการกันและกัน และดีกว่าเมื่ออยู่ร่วมกัน เป็นเรื่องดีที่เป็นเรื่องของการเป็นทีมอย่างที่ไม่ได้มีมานานแล้ว”
ชีวิตลับๆ ของจอห์นกับเจนไม่เหลือช่องว่างไว้สำหรับคำว่ามิตรภาพ ที่ใกล้เคียงที่สุดสำหรับจอห์นก็คือเพื่อนร่วมงานที่ชื่อ ‘เอ็ดดี้’ เอ็ดดี้กับจอห์นทำงานอย่างเดียวกันแต่ในรูปแบบที่ต่างกันอย่างมาก “แบรดกับแอนจี้ทำงานจากที่ซึ่งสงบและสงัด เพราะพวกเขาเล่นเป็นนักฆ่า” อากิว่า โกลด์สแมนเล่า “‘เอ็ดดี้’ เป็นนักฆ่าที่แตกต่าง เขาบ้าระห่ำและเต็มไปด้วยพลัง เมื่อโยนเข้าใส่ระเบิดจอห์น-เจนก็ยิ่งสนุกมากขึ้น” เช่นเดียวกับจอห์น แวดวงเพื่อนของเขนมีจำกัด ที่จริงแล้ว ที่ใกล้เคียงกับคำว่าคู่คิดของเธอก็คือ ‘จัสมิน’ รับบทโดย เคอรี่ วอชิงตัน (Ray, Fantastic Four) เพื่อนร่วมงานที่ไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับจอห์น “เจนไม่มีเพื่อนแท้” โจลี่บอก “เธอไม่ยอมให้ตัวเองใกล้ชิดกับใครเพราะว่ามันจะเป็นจุดอ่อนของเธอ สำหรับเจน การใกล้ชิดกับใครสักคนเป็นเรื่องที่อันตรายที่สุดในโลก — และมันเป็นการบอกถึงพวกนักฆ่าได้อย่างมาก”
ตัวละครเอกอีกตัวหนึ่ง ได้แก่ เบนจามิน แดนซ์ เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นคนชี้ให้เห็นถึงชีวิตที่จะเปลี่ยนไปตลอดกาลในความเป็นมือสังหารและคู่สามีภรรยา อีกครั้งที่ไลแมนกลายเป็นอดีตเพื่อนร่วมงาน โดยมีอดัม โบรดี้ เข้ามาร่วมงานด้วย โบรดี้แสดงในเรื่อง “The O.C.” ซึ่งไลแมนเคยอำนวยการบริหารเมื่อซีซันแรก--จบ--

แท็ก ภาพยนตร์  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ