กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--ออลไลน์ แอสเซ็ท
"สุรพล รุจิกาญจนา" มั่นใจแม้ปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้า และสถานการณ์ทางการเมืองยังปั่นป่วน แต่จะสามารถผลักดันให้ DIMET เติบโตต่อเนื่องได้ ในปีบัญชีหน้า (1 ก.ค. 51 — 30 มิ.ย. 52) หลังเริ่มรับรู้รายได้จากกลุ่มสีพ่นรถยนต์คุณภาพสูง และจะเติบโตชัดเจนในปีถัดไปจากการรับรู้รายได้จากธุรกิจสีพ่นรถยนต์เต็มปี
นายสุรพล รุจิกาญจนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดเมท (สยาม) จำกัด (มหาชน) หรือ DIMET ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สีคุณภาพสูงสำหรับพ่นรถยนต์ ใช้ทาในงานอุตสาหกรรม และงานโครงเหล็กที่ใช้ในงานก่อสร้างต่างๆ เปิดเผยแนวโน้มรายได้ในรอบปี 2550/2551 ( 1 ก.ค.50- 30 มิ.ย.51) ว่าจะยังมียอดขายที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เพราะถึงแม้ว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองจะไม่เอื้ออำนวย กับการเจริญเติบโตแต่บริษัท ก็ได้มุ่งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งสินค้าที่มีอยู่เดิมและนำสินค้ากลุ่มใหม่เข้ามาจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่า รายได้ของบริษัท จะเติบโตมากขึ้นมากกว่า 20 % ในรอบปีบัญชีหน้า (1 ก.ค. 51 — 30 มิ.ย. 52)
"ยอมรับว่าปีนี้ (1 ก.ค.50-30 มิ.ย.51) ปัจจัยลบที่มีผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะปัจจัยทางการเมืองที่กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง มีผลกระทบโดยตรงต่อภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการต่างเริ่มชะลอการลงทุน ขณะเดียวกันราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นก็ส่งผลให้การจับจ่ายใช้สอยลดลงด้วย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ มีผลกระทบต่อธุรกิจของ DIMET ทางด้านสีน้ำทาอาคารและสีทาไม้บ้างพอสมควร แม้กระนั้น บริษัทฯ เห็นแนวโน้มการเติบโตของสีอุตสาหกรรมและสีส่งออก ที่คาดว่าจะทำรายได้ให้บริษัทฯ อย่างดีในปีบัญชีหน้า
เขากล่าวต่อว่า เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา DIMET ได้เซ็นสัญญากับ PPG Coatings (Thailand) Co., Ltd. เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายสีพ่นรถยนต์คุณภาพสูง สำหรับพ่น ซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ยี่ห้อ BILUX เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 และเริ่มทำการตลาดสินค้าแล้วโดยได้จัดตั้งทีมงานฝ่ายขายเพื่อเน้นเจาะตลาดสีพ่นรถยนต์โดยเฉพาะ ขณะเดียวกัน DIMET ได้มุ่งพัฒนาระบบการให้บริการที่มีคุณภาพเพื่อรองรับธุรกิจดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้บางส่วนในปีนี้ และจะรับรู้รายได้เต็มปีตั้งแต่รอบบัญชีปีหน้า (1ก.ค.51-30 มิ.ย.52) โดยคาดว่าจะมีรายได้ไม่น้อยกว่า 10-15% ของรายได้รวม ในขณะที่สีป้องกันสนิมจะมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 40-42% สีทาเฟอร์นิเจอร์ 27% สีพ่นรถยนต์ 10-15% ส่วนที่เหลือเป็นสีอุตสาหกรรมและสีทาบ้าน ซึ่งการเพิ่มสินค้าใหม่เข้ามาจัดจำหน่ายดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้รายได้ในปี 2551/2552 มีอัตราการเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 2550/2551
สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือน (ม.ค 2551-มี.ค.2551) สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2551 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.7% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.744 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 27.03 เป็นร้อยละ 28.69 ขณะเดียวกัน ดอกเบี้ยจ่ายลดลง
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : นายสุราช บุญจง โทร. 081-987-0490