SYNEX มั่นใจเทรดวันแรกยืนเหนือจอง เหตุธุรกิจไอทีกำลังรุ่ง/ให้ส่วนลด 20-30%

ข่าวเทคโนโลยี Thursday June 12, 2008 15:52 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--ออนไลน์ แอสเซ็ท
บิ๊ก SYNEX ไม่ห่วงตลาดหุ้นผันผวน-การเมืองป่วน ตอกย้ำความมั่นใจนักลงทุน ยันเข้าเทรดวันแรกหุ้นยืนเหนือจองหายห่วง เหตุราคา IPO ที่กำหนดไว้ที่ 2.90 บาท ให้ส่วนลดถึง 20- 30% เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสม 3.38-4.27 บาท ประกอบกับแนวโน้มธุรกิจไอทียังเปิดกว้างและเติบโตได้อีกมาก ประเมินสิ้นปีรายได้ยังขยายตัว 15-20% จากปีก่อน และเชื่อมีหลังนักลงทุนจองหุ้นล้น 3 เท่า มีลุ้นตามมาเก็บในกระดานต่อแน่
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงหุ้น SYNEX ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นครั้งแรกในวันจันทร์ที่ 16 มิ.ย.51 โดยมั่นในว่าราคาหุ้นจะสามารถยืนเหนือราคาจองที่ 2.90 บาทได้อย่างแน่นอน แม้ว่าในสภาพการลงทุนในตลาดหุ้นปัจจุบันจะค่อนข้างผันผวนอีกทั้งปัญหาการเมืองยังคงมีอยู่ แต่เนื่องจากระดับราคา IPO ที่กำหนดไว้ได้ให้ส่วนลด(Discount) กับนักลงทุน 20-30% เมื่อเปรียบเทียบกับราคาเหมาะสมที่นักวิเคราะห์หลายแห่งได้ประเมินไว้ในกรอบ 3.38 - 4.27 บาท/หุ้น
"ไม่ห่วงเรื่องราคาหุ้น มั่นใจว่าคงต้องยืนเหนือจองได้แน่ๆ เพราะราคาหุ้นที่กำหนดไว้ถือว่าให้ discount กับลูกค้ามากถึง 20 - 30% ถ้าเทียบกับราคาเหมาะสมที่นักวิเคราะห์ให้ไว้ในปีนี้ยังอยู่ในระดับสูงกว่ามาก ประการสำคัญค่าพีอี เรโชว์ ก็ต่ำกว่าทั้งกลุ่ม ICT และตลาดฯ อีกทั้งในช่วงที่เปิดให้จองซื้อหุ้น IPO มีนักลงทุนจองล้นถึง 3 เท่า จึงน่าจะมีนักลงทุนที่พลาดหวังในครั้งนั้น เข้ามาเก็บหุ้นต่อเนื่องในกระดานได้"
นายสุพันธุ์ กล่าวอีกว่า SYNEX ถือเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง มีผลประกอบการเป็นกำไรต่อเนื่องมายาวนาน โดยล่าสุดผลประกอบการประจำงวด 3 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2551 บริษัทมีรายได้รวม2,395.73ลบ. เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปี 2549 ที่มีรายได้ 2,464 ลบ. มีกำไรสุทธิ 40.07 ลบ. เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปี 2549 ที่มีกำไรสุทธิ 30.08 ลบ. โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดขายสินค้าของบริษัทที่เติบโตขึ้น และภายหลังจากบริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ลงสู่ตลาด การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การเพิ่มการให้บริการหลังการขาย การเพิ่มตัวแทนและช่องทางการจำหน่าย ตลอดจนการเข้าสู่มาตรฐานอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้สินค้าของบริษัท ได้รับการตอบรับมาตรฐานเช่นเดียวกับสินค้าอินเตอร์แบรนด์อื่น ๆ ทั่วโลก ซึ่งเชื่อว่าจะสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทในปี 2551 เติบโตได้ในอัตรา 15-20% จากปี 2550 ที่มีรายได้ 10,800 ลบได้สำเร็จ
ส่วนในอนาคต บริษัทฯ มีเป้าหมายสูงสุดในการก้าวสู่การเป็น One Stop Shopping ที่รวบรวมสินค้าไอทีคุณภาพระดับโลกไว้แบบครบวงจร โดยมีพันธะสัญญาที่ชัดเจนในการเป็นพันธมิตรธุรกิจที่ดีและยั่งยืนกับผู้ผลิตต่างๆ รวมถึงการบริการที่มีประสิทธิภาพแก่ผู้บริโภค อีกทั้งมุ่งมั่นในการพัฒนาและบริหารช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพ พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แบบมืออาชีพ และลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำระดับโลก โดยจะทำการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในรูปแบบของซีเน็ค ชอป (CNEX Shop) ซึ่งเป็นร้านค้าในรูปแบบการทำสัญญาร่วมลงทุนระหว่างบริษัทฯ กับผู้ที่ต้องการลงทุน (Franchise) โดยคาดว่าจะดำเนินการขยายสาขาให้ได้ทั้งหมด 250 สาขา ภายในระยะเวลา 5 ปี นอกจากนั้นสำหรับในปี 2551 นี้ บริษัทฯคาดว่าจะเปิดสำนักงานสาขาเพิ่มอีก 2 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และอีก 2 สาขาในต่างจังหวัด
นอกจากนั้น ยังมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียว โดยการขยายตราสินค้าและฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น พร้อมทั้งมุ่งเน้นการผลิตสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์แบบสั่งประกอบ (CTO: Configuration-to-Order) ภายใต้เครื่องหมายการค้า Lemel มากขึ้น โดยปัจจุบัน มีกำลังการผลิตประมาณ 4,000 เครื่อง/เดือน และกำลังศึกษาแผนการขยายกำลังผลิตเพิ่มเติมในปี 2551 นี้ นอกจากนั้น จะมุ่งเน้นงานด้านบริการที่สามารถเพิ่มรายได้ในอนาคต โดยจะรับบริการเป็นศูนย์บริการซ่อมสินค้าให้แก่สินค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย เพื่อเป็นการลดภาระการซ่อมสินค้าของผู้ผลิตที่ไม่มีศูนย์ซ่อมสินค้าของตัวเอง
ปัจจุบัน บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ต่อพ่วงคอมพิวเตอร์ ซอฟท์แวร์ ระบบสารสนเทศ และวัสดุสิ้นเปลืองที่ใช้กับคอมพิวเตอร์ โดยเป็นผู้แทนจำหน่ายสินค้ามากกว่า 50 ตราสินค้า จากผู้ผลิตชั้นนำระดับโลก และมีฐานลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการคอมพิวเตอร์ทั้งที่เป็นร้านค้าปลีกและค้าส่งทั่วประเทศ มากกว่า 5,000 ราย และการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต
ก่อนหน้านี้ 3 บริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำของไทย ได้ออกบทวิเคราะห์ให้ราคาเหมาะสมของหุ้น SYNEX ไว้ในกรอบ 3.38-4.27 บาท โดย บล. บีฟิท หรือ BSEC มองผลกำไรปี 2551-2552 เติบโต 21.3% และ 30.0% ให้ราคาเหมาะสมที่ 4.00 - 4.27 บาท ขณะที่ บล.สินเอเซีย ให้ราคาเหมาะสมไว้ที่ 3.38 บาท และ บล.แอ๊ดคินซัน (ASL) ให้ราคาเหมาะสมไว้ที่ 3.60 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : คุณสิริน วิวัฒน์เจริญพงศ์ (เก้) โทร.02-5549353 / 089-728-63

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ