ฤทธิ์วีเซนเต้ ถล่มไทยเสียหาย 7 จังหวัด

ข่าวทั่วไป Wednesday September 21, 2005 13:16 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 ก.ย.--ปภ.
นายสุนทร ริ้วเหลือง อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นวีเซนเต้ ส่งผลให้ 7 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน เลย ลำปาง ศรีสะเกษ และระนอง ได้รับความเสียหาย โดยที่ เชียงใหม่ น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนนและสถานที่ราชการหลายแห่ง ในอำเภอเมืองเชียงใหม่, หางดง, พร้าว, สันทราย, เชียงดาวและแม่แจ่ม แม่ฮ่องสอน มีพื้นที่ได้รับความเสียหาย 2 อำเภอ ต้องปิดการจราจรทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 เส้นทางบ้านห้วยหยวก อ.แม่ลาน้อย-อ.ขุนยวม และทางหลวงหมายเลข 1263 เส้นทาง อ.แม่แจ่ม-อ.ขุนยวม พื้นที่การเกษตร 1,200 ไร่ ปศุสัตว์ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ส่วนที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน มีน้ำป่าหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและเส้นทางคมนาคม แต่เหตุการณ์ได้กลับคืนสู่ภาวะปกติแล้ว เลย ได้รับความเสียหาย 1 อำเภอ คือ อ.เชียงคาน มีถนน และคอสะพานได้รับความเสียหาย 1 แห่ง ลำปาง 2 อำเภอที่ได้รับความเสียหาย คือ อ.เถินและอ.วังเหนือ โดยน้ำได้กัดเซาะตลิ่งเสียหาย เส้นทางคมนาคมถูกทำลายหลายเส้นทาง ศรีสะเกษ บ้านเรือนประชาชนที่ อ.ห้วยทับทัน ได้รับความเสียหาย จำนวน 57 หลัง แต่สถานการณ์ในปัจจุบันได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ระนอง อ.เมือง อ.ละอุ่น และ อ.กะเปอร์ มีน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมขัง ทำให้เส้นทางคมนาคมหลายสายใช้การไม่ได้ ความเสียหายอื่นอยู่ระหว่างการสำรวจ และที่ เชียงราย ได้รับความเสียหาย 2 อำเภอ คือ อ.แม่ฟ้าหลวงและอ.เวียงป่าเป้า น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร ซึ่งขณะนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว โดยสนับสนุนเครื่องสูบน้ำให้แก่พื้นที่ที่ถูกน้ำท่วม และนำถุงยังชีพออกแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัย
อย่างไรก็ตาม อิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น ซึ่งส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่ของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้และภาคตะวันออก ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ สูงขึ้น โดยเฉพาะลำน้ำปิง ระดับน้ำได้สูงขึ้นกว่าระดับวิกฤต 0.63 เมตร ทำให้ต้องมีการเสริมกระสอบทรายสูง 4.30 เมตร ตลอดแนว เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ในการนี้ กระทรวงมหาดไทยได้กำหนดแนวทางการบูรณาการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและน้ำท่วมขัง โดยใน ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และสั่งให้มีการชะลอและควบคุมการระบายน้ำที่คลอง 13 และผันออกที่คลอง 14 และเร่งให้สูบน้ำที่คลองด่านและคลองชายทะเล เพื่อลดระดับน้ำที่ท่วมขังในเขตกรุงเทพ สำหรับในส่วนของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รับมอบหมายร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง ให้บูรณาการการบริหารจัดการน้ำ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง โดยให้คำนวณปริมาณน้ำในแต่ละลุ่มน้ำให้ชัดเจนเพื่อการผันน้ำและการระบายน้ำ รวมทั้งกำหนดพื้นที่รองรับน้ำในกรณีปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีมากเกินกว่าที่กำหนด
นายสุนทร ฯ ได้กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้รับรายงานการตรวจสอบสภาวะฝนว่า ยังมีฝนกำลังอ่อนถึงปานกลางปกคลุมจังหวัดเชียงใหม่ สุโขทัย แม่ฮ่องสอน (เกือบทั้งจังหวัด) ลำพูนและ แพร่ (ทั้งจังหวัด)เชียงราย (อ.แม่สรวย อ.เวียงป่าเป้า) และอุตรดิตถ์ (อ.เมือง อ.ท่าปลา) ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัยหากมีแนวโน้มว่าจะเกิดอันตรายจากภาวะฝนตกหนัก ทั้งนี้ให้กรมป้องกัน ฯ สั่งการไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ภัยและเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดสถานการณ์ภัย--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ