KTAMไม่หวั่นแบงก์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพิ่มทางเลือกลูกค้าเปิดอีก3กองทุนตราสารหนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 23, 2008 16:35 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 มิ.ย.--บลจ.กรุงไทย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งเกิดจากราคาน้ำมันและราคาอาหารในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้ออย่างหนัก เนื่องจาก มีการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันในระดับที่สูง ซึ่งเห็นได้จากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของแต่ละประเทศในเอเชียที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ เงินเฟ้อของบางประเทศขยายตัวมากกว่า 10% เช่น เวียดนาม อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 5 เดือนแรก เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบ 20% อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 8.5% ส่งผลให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆเหล่านี้ต้องออกมาตรการต่างๆเพื่อยับยั้งไม่ให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับประเทศไทย อัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค. อยู่ที่ 7.6% ถือว่าเป็นระดับที่สูงสุดรอบ 10 ปี โดยเฉลี่ย 5 เดือนแรกอยู่ที่ 5.8% แต่ก็ยังต่ำกว่าของประเทศในอาเซียนอื่นๆ เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และจีน ทั้งนี้ เงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นได้ทำให้อำนาจซื้อของประชาชนลดลง ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น และในที่สุดจะฉุดให้เศรษฐกิจเติบโตลดลง ภาครัฐฯจึงได้เข้ามาช่วยเหลือด้วยการออกมาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการแจกคูปอง ลดภาษี เพิ่มค่าครองชีพข้าราชการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้มีการส่งสัญญาณการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ ซึ่งหากเทียบกับประเทศในเอเชียด้วยกันแล้วไทยยังมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำที่สุดในเอเชีย รองจากญี่ปุ่น อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้มาจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันในตลาดโลก ทำให้ต้นทุนการผลิตและราคาสินค้าเพิ่มขึ้น (Cost Push) แต่ไม่ได้เกิดจากความต้องการซื้อสินค้าที่มีมากเกินไป (Demand Pull) ดังนั้น การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจึงอาจจะไม่มีผลในการลดเงินเฟ้อ แต่จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชน และทำให้การคาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อในอนาคตลดลง ดังนั้น จึงคาดว่าในการประชุมวันที่ 16 ก.ค. นี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน ธปท. อาจจะมีการพิจารณาปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น 0.25% จาก3.25%ต่อปี มาอยู่ที่ 3.50% ต่อปี
นายสมชัย กล่าวต่อไปว่า ในสัปดาห์นี้บริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุน อีกจำนวน 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนรวมกรุงไทยตราสารการเงินคุ้มครองเงินต้น 41 ( KT3M41) กองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือน 36 ( KTST6M36) และกองทุนรวมกรุงไทยตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี 9 ( KTFIF1Y9) ในระหว่างวันที่ 24-30 มิถุนายน 251
กองทุน KT3M41 มีอายุโครงการ 3 เดือน มูลค่า 2,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในตราสารที่มุ่งจะก่อให้เกิดความคุ้มครองเงินต้น โดยลงทุนในตราสารภาครัฐในประเทศ จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำ สำหรับผลตอบแทนของตราสารที่ลงทุนอยู่ที่ประมาณ 3.20%ต่อปี ซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน กองทุนนี้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งปัจจุบันดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารประจำ3 เดือนอยู่ที่ 2.375 % ต่อปี ก่อนหักภาษี ณ ที่จ่ายอีก 15%
กองทุน KTST6M36 อายุโครงการ 6 เดือน มูลต่า 2,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารหนี้ทั่วไป เงินฝากในสถาบันการเงิน แต่ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุน ในพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ภาคสถาบันการเงิน ผลตอบแทนของตราสารที่กองทุนจะลงทุนอยู่ที่ 3.40% ต่อปี ซึ่งยังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน
ส่วนกองทุน KTFIF1Y 9 อายุโครงการ 1 ปี มูลค่า 1,600 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารภาครัฐต่างประเทศ หรือตราสารหนี้ที่เสนอขายในต่างประเทศเป็นหลัก เช่น พันธบัตรภาครัฐประเทศเกาหลีใต้ เป็นต้น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือจะลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ทั้งของภาครัฐและเอกชน ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) อยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) และกองทุนจะทำการป้องกัน ความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยการลงทุนในพันธบัตรภาครัฐของประเทศเกาหลีใต้ อายุ 1 ปี อยู่ที่ประมาณ 4.70-4.90% ต่อปี เป็นอัตราที่ยังไม่หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุน ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือ KTAM SMART PLAN โทร 02 670 -4999
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
คุณแสงสิริ เนตรอัมพร /สำนักประช่าสัมพันธ์
โทร0-2670-4900 ต่อ 1235 หรือ 085-1800-441

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ