กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--วว.
เปิดมิติใหม่วงการก่อสร้างไทย ลดภาวะโลกร้อน ลดพึ่งพาพลังงานต่างประเทศ
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จับมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐมและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร วิจัยพัฒนากระบวนการผลิตและทดสอบบล็อกประสานจากวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรมสนองนโยบายรัฐด้านการประหยัดพลังงาน ลดภาวะโลกร้อน ลดการพึ่งพาพลังงานต่างประเทศ มุ่งสร้างมาตรฐานบล็อกประสาน หวังเปิดมิติใหม่วงการก่อสร้างของไทย
ดร.นงลักษณ์ ปานเกิดดี ผู้ว่าการ วว. กล่าวชี้แจงว่า วว. ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ดำเนินโครงการวิจัยพัฒนากระบวนการผลิต และการทดสอบบล็อกประสานจากวัสดุเหลือใช้อุตสาหกรรมโดยมีระยะเวลาการดำเนินงาน 5 ปี (ปี 2552- ปี 2556) ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการประหยัดพลังงานของรัฐบาล ที่ได้รณรงค์และให้การสนับสนุนการใช้พลังงานในอาคารและที่พักอาศัยอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง และลดสัดส่วนการพึ่งพาพลังงานจากต่างประเทศ ซึ่งการเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่มีความเหมาะสม นับเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถสนองนโยบายรัฐบาลและช่วยอนุรักษ์พลังงานได้อย่างเป็นรูปธรรม
การดำเนินงานภายใต้โครงการดังกล่าว จะแบ่งความร่วมมือตามศักยภาพและความพร้อมของทั้ง 3 มหาวิทยาลัย ดังนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จะร่วมมือวิจัยและพัฒนาด้านกระบวนการผลิตบล็อกประสาน มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม ร่วมมือวิจัยและพัฒนาด้านเครื่องมือ เครื่องจักรและรูปแบบเคมีภัณฑ์ ส่วนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร จะร่วมมือวิจัยและพัฒนาด้านกระบวนการก่อสร้าง
“วว. มีประสบการณ์และความชำนาญในการวิจัยและพัฒนาวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะบล็อกประสาน ซึ่งสามารถใช้วัสดุหลากหลายชนิดมาทำการผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัสดุเหลือใช้จากอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถนำของเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์ ได้ จากความร่วมมือของ วว. และ ทั้ง 3 มหาวิทยาลัยในครั้งนี้ จะมุ่งวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตบล็อกประสานประหยัดพลังงานจากวัสดุต่างๆ พัฒนาแบบบ้านบล็อกประสานประหยัดพลังงาน พัฒนาเทคโนโลยีการก่อสร้างอาคารด้วยบล็อกประสานประหยัดพลังงาน รวมทั้งวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์บล็อกประสานในรูปแบบต่างๆ ด้วย”ผู้ว่าการ วว. กล่าว
ดร.สุริยา สาสนรักกิจ ผู้อำนวยการ ฝ่ายถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชนบท วว. กล่าวเพิ่มเติมว่า ผลสำเร็จและความคุ้มค่าที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการความร่วมมือนี้ คือ เกิดเทคโนโลยีการผลิตบล็อกประสานประหยัดพลังงานจากวัสดุเหลือใช้ มีมาตรฐานบล็อกประสาน มีบล็อกประสานประหยัดพลังงานจากวัสดุเหลือใช้จำหน่าย มีอุตสาหกรรมการผลิตบล็อกประสานจากวัสดุเหลือใช้ต่างๆ อาทิ หน้าดินขาวจากเหมืองแร่ดินขาว หน้าดินจากเหมืองแร่ยิปซั่ม กากแร่ยิปซั่ม เถ้าหนักลิกไนต์จากโรงงานไฟฟ้า และกากตะกอนน้ำประปาจากระบบประปา เป็นต้น นอกจากนั้นยังจะเกิดเทคโนโลยีการก่อสร้างอาคารบล็อกประสานประหยัดพลังงานจากวัสดุต่างๆ มีสิ่งปลูกสร้างและอาคารที่สร้างจากบล็อกประสานประหยัดพลังงานจากวัสดุต่างๆจำหน่าย และมีแบบอาคารบล็อกประสานที่ถูกต้องได้มาตรฐาน
ทั้งนี้ วว. ประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาบล็อกประสานที่ใช้ดินลูกรังหรือมวลรวมอื่น เช่น ทราย กรวด หินฝุ่น เป็นวัตถุดิบ มาตั้งแต่ พ.ศ. 2508 สำหรับการก่อสร้างนั้นจะใช้บล็อกประสานก่อสร้างอาคารในระบบผนังรับน้ำหนัก จึงสามารถตัดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่อยู่เหนือระดับฐานรากออกไปได้อย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้นบล็อกประสานยังสามารถนำมาเสริมเหล็กเพื่อทำหน้าที่เป็นเสา คาน บันได ซึ่งเป็นองค์อาคารหลักๆได้ด้วย ปัจจุบัน วว. ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตบล็อกประสานแก่สาธารณชนอย่างต่อเนื่องส่งผลให้มีผู้ประกอบธุรกิจบล็อกประสานเพิ่มขึ้นและกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ นอกจากนี้ยังให้บริการฝึกอบรมแก่ผู้สนใจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ณ ห้องฝึกอบรมฝ่ายถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชนบท ที่ วว. บางเขน เป็นประจำทุกเดือนๆ ละ 1 ครั้ง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ ฝ่ายถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชนบท วว.
โทร. 02 579 1121-30 โทรสาร 02 561 4771 ในวันและเวลาราชการ
หรือที่E-mail : tistr@tistr.or.th
www.technologyblockprasan.com