ปตท. นำลดราคาเบนซินในประเทศลงอีก 40 สตางค์ เป็นครั้งที่ 6 รวมลดลง 2.50 บาท/ลิตร ในรอบเดือนเศษ

ข่าวทั่วไป Tuesday November 29, 2005 17:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--ปตท.
นายชัยวัฒน์ ชูฤทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท. จะลดราคาน้ำมันขายปลีกน้ำมันเบนซินทุกชนิด (รวมทั้งน้ำมันแก๊สโซฮอล์) ลงทันที 40 สตางค์/ลิตร ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.48) เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป (เนื่องจากกรมการค้าภายในได้มีหนังสือขอความร่วมมือบริษัทผู้ค้าน้ำมัน ให้แจ้งการปรับเปลี่ยนราคาน้ำมันล่วงหน้า 12 ชั่วโมง โดยกำหนดให้มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป เพื่อสะดวกต่อการตรวจสอบราคาจำหน่าย ณ สถานีบริการ) ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในเขต กทม.และปริมณฑลเป็นดังนี้
หน่วย : บาท/ลิตร
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 95 24.84
น้ำมันเบนซิน พีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 พลัส 23.34
น้ำมันเบนซิน พีทีที อัลฟา เอ็กซ์ 91 24.04
น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว พีทีที เดลต้า เอ็กซ์ ยูโร ทรี 22.69
น้ำมันดีเซล-ปาล์ม (บริสุทธิ์) 22.19
การปรับลดราคาครั้งนี้ มีปัจจัยมาจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกได้อ่อนตัวลงมา ทำให้ราคาน้ำมันเบนซินในตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 57.64 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เป็นผลมาจากประเทศอินโดนีเซียจะลดการนำเข้าน้ำมันเบนซิน เนื่องจากความต้องการใช้ในประเทศลดลงมาประมาณ 10% หลังรัฐบาลได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันภายในประเทศเมื่อเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา
นายชัยวัฒน์ เปิดเผยต่อไปว่า การลดราคาน้ำมันขายปลีกเบนซินในประเทศครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 6 รวมที่ ปตท. ปรับลดราคาน้ำมันลงไปแล้วถึง 2.50 บาท/ลิตร นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ต.ค.เป็นต้นมา ซึ่ง ปตท. พร้อมที่จะปรับลดราคาลงทันทีที่ต้นทุนราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง เพื่อสะท้อนตามต้นทุนดังกล่าว และแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคด้วย
อนึ่งในวันพรุ่งนี้ (30 พ.ย.48) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้มีการเรียกเก็บเงินจากน้ำมันเบนซินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เพิ่มขึ้นอีก 20 สตางค์/ลิตร จากเดิม 1.80 บาท/ลิตร เป็น 2.00 บาท/ลิตร
สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกในระยะสั้นมีแนวโน้มอ่อนตัวลง เนื่องจากในหลายประเทศยังคงมีปริมาณสำรองน้ำมันอยู่ในระดับสูง ทำให้ตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับปัญหาปริมาณน้ำมันที่ตึงตัวในช่วงฤดูหนาว ปริมาณสำรองน้ำมันดิบและสำเร็จรูปของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นประมาณ 1.6 ล้านบาร์เรล สูงกว่าระดับเฉลี่ย 5 ปี นอกจากนี้ ยังมีรายงานปริมาณสำรองน้ำมันของประเทศแถบยุโรปอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี อยู่ที่ 2.06 ล้านตัน ด้วย อย่างไรก็ตาม สภาพอากาศที่ยังคงหนาวเย็นในยุโรปยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ หากอุณหภูมิยังคงลดลงและหนาวเย็นยาวนานต่อเนื่อง อาจทำให้ Hedge Fund กลับเข้ามาซื้ออีกครั้ง จึงขอให้ประชาชนใช้พลังงานทุกประเภทอย่างประหยัดจะเป็นการดีที่สุด รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ ปตท. กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
โทรศัพท์ 0 2537 2537, 2538--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ