กรุงเทพฯ--28 มี.ค.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมเชิงปฏิบัติการ และงานเปิดตัว FANZI Club เพื่อสร้างเครือข่ายผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียนใน mai และบริษัทที่จะเข้า จดทะเบียน ในวันนี้ (25 มีนาคม 2548 ) จำนวน 48 บริษัทว่า CEO ของ mai เปรียบเสมือนผู้ที่จะนำธุรกิจก้าวไปสู่อนาคต หรือ Business for the Future และเป็นนักธุรกิจพันธุ์ใหม่หรือพันธุ์ mai ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของประเทศ “ธุรกิจ mai เป็น smart enterprise ที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนมาก แต่ต้องลงทุนด้วยสมอง ลงทุนอย่างฉลาด รวมทั้งมองเห็นถึงประโยชน์ที่ได้จากคลัสเตอร์ และใช้ประโยชน์จากเครือข่าย รวมทั้งสามารถที่จะพัฒนาธุรกิจของตนให้มีความแตกต่าง การประชุมเชิงปฏิบัติการในวันนี้ ทำให้รัฐบาลได้รับทราบความต้องการจากภาคธุรกิจหรือด้าน demand จากเดิมที่ภาครัฐมองเพียงความต้องการจากภาครัฐเพียงด้านเดียว” นายสุวิทย์กล่าว นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย ประธานที่ปรึกษา ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ กล่าวว่า ในวันนี้ mai ได้ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างภาคธุรกิจและภาครัฐ ต่อเนื่องจากการเข้าไปช่วยเหลือธุรกิจในตลาดแรก “ในวันนี้ CEO ได้ร่วมนำเสนอแนวคิดในการจัดทำโครงการที่เกิดผลต่อธุรกิจในวงกว้าง หรือ High Impact Intitiative (HII) เป็นโครงการที่มีความเชื่อมโยงระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจ ในลักษณะ Co-creation และมีการทำแผนปฏิบัติการเชิงลึก โดยคำนึงถึงการเกิดผลประโยชน์ร่วมกัน และเน้นสร้าง Value creation ให้มีความแตกต่าง” นางสาวโสภาวดีกล่าวว่า โครงการที่สำคัญ 4 โครงการประกอบด้วย 1.Man made Industry ได้แก่ การทำธุรกิจที่เกิดขึ้นจากความคิดสร้างสรรค์ของคน เช่น การทำแหล่งท่องเที่ยวที่นอกเหนือจากแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติเพื่อให้แข่งขันกับต่างประเทศได้ 2. Media Hub เน้นการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสื่อ เช่น สถานีข่าวที่มีคุณภาพ 3. Smart card ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชน และสามารถเชื่อมโยงระหว่างธุรกิจต่าง ๆ ด้วยกันได้ 4. Health Aging เน้นธุรกิจที่ส่งเสริมสุขภาพ เช่น สปา ธุรกิจ long stay ทั้งนี้ จะเน้นให้มีการสร้างมาตรฐานของบริการของประเทศ ให้ชัดเจน ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ CEO ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้รับผิดชอบแต่ละโครงการและจัดทำรายละเอียดเพื่อนำเสนอลงสมุดปกขาว ก่อนเข้าพบรองนายกรัฐมนตรีและนำเสนอโครงการดังกล่าวต่อไป นายวิเชฐ ตันติวานิช ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ กล่าวว่า นอกจากนี้ CEO ยังได้เสนอให้ภาครัฐและภาคธุรกิจแยกบทบาทกันอย่างชัดเจน โดยให้ภาครัฐเน้นสร้าง Country Brand เพื่อสร้าง Brand ให้กับประเทศไทย ในขณะที่ภาคเอกชนจะเน้นสร้าง Product Brand ทั้งนี้ นายวิเชฐได้กล่าวถึงความสำเร็จของการจัดงาน mai FANZI Club ครั้งที่ 1 ในวันนี้ว่า เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ คือ CEO ของธุรกิจขนาดกลางได้มาพบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และประสบการณ์ในการบริหารงาน และร่วมนำเสนอแนวทางในการพัฒนาธุรกิจขนาดกลางต่อภาครัฐ โดยมี mai เป็นตัวเชื่อม FANZI Club เป็นตัวย่อของคำที่สะท้อนเอกลักษณ์ของสมาชิกและสิ่งแวดล้อมของคลับ กล่าวคือ F = Full Cooperation, A = Accountability, N = Networking, Z = Zero Defect และ I = Innovation ทั้งนี้ FANZI Club มุ่งเน้นสนับสนุนให้สมาชิกมีการบริหารอย่างมีบรรษัทภิบาล โปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่นักธุรกิจด้วยกัน ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037 ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049 วรรษมน เสาวคนธ์เสถียร โทร. 0-2229-2797--จบ--