กรุงเทพฯ--28 ก.ค.--อาร์เอส
เปิดเผยกลางรายการ “ฟ้าเมืองไทย” ว่าครั้งหนึ่งเคยถูกเคราะห์ซ้ำกรรมซัดขนาดหนัก ตั้งแต่ธุรกิจของคุณพ่อเจ๊ง ทำให้ครอบครัวที่อบอุ่นและสบายของ “มาริสา อานิต้า” มีอันต้องจบลง หนำซ้ำยังเลิกรากับคุณแม่และหนีกลับไปอยู่เนเธอร์แลนด์ เพราะอาการป่วย แต่มาริสาไม่ท้ออดทนรอคุณพ่อกลับบ้านนานถึง 7 ปีเต็ม และได้พิสูจน์ให้เห็นว่า “ความรัก” ช่วยให้ครอบครัวเธอผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนั้นมาได้
มาริสา เผยว่า “ช่วงนั้นเป็นช่วงเข้าวงการใหม่ๆ กำลังถ่ายหนังเรื่อง เสียดาย 2 อยู่ๆ ธุรกิจของคุณพ่อก็ฟุบจนต้องปิดตัวลง จากที่เคยใช้ชีวิตสบายก็ต้องออกจากโรงเรียนเอกชน และไปสอบเข้าโรงเรียนรัฐ จากที่เคยมีรถรับ-ส่ง ก็เปลี่ยนมาเป็นคุณพ่อต้องขี่จักรยานไปส่งแทน ซึ่งสาก็เอารายได้จากการเล่นหนัง, เดินแฟชั่น, ถ่ายแบบ และพิธีกรมาช่วยครอบครัว ตอนนั้นก็รู้สึกว่าอยากไปเดินห้าง ไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ทำไม่ได้ คุณแม่ก็ให้กำลังใจด้วยการบอกให้เรามีความสุขกับการทำงาน จนกระทั่งประมาณม.2-ม.3 คุณพ่อเริ่มมีอาการป่วย คือจากปกติเป็นคนใจดี กลับเป็นคนหงุดหงิดง่าย ซึ่งตอนนั้นไม่รู้ว่าเป็นสเต็ปแรกของอาการป่วย และความรุนแรงก็เพิ่มมากขึ้นถึงขั้นคุณพ่อขอเลิกกับคุณแม่แล้วกลับไปเนเธอร์แลนด์ หลังจากนั้นคุณพ่อไปตรวจสุขภาพและพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคไตกรรมพันธุ์ จึงโทรมาบอกคุณแม่ ตอนนั้นสารู้สึกว่าเหนื่อยที่มีเรื่องเยอะแยะไปหมด และร้องไห้กับตุ๊กตาหมีทุกวัน เพราะกลัวพ่อตาย ช่วงนั้นสาจะส่งเงินให้พ่อรักษาตัวเดือนละเกือบแสน ความจริงสาเคยบอกกับพ่อว่าให้เอาไตของสาไป แต่คุณพ่อไม่ยอมรับ ท่านให้เหตุผลว่าเขาอายุมากแล้วคงอยู่ไม่นาน แต่สายังเด็กยังต้องใช้ชีวิตไปอีกนาน จนกระทั่งพ่อโทรมาบอกแม่ว่าได้ไตแล้ว สากับแม่ดีใจมากบินไปหาพ่อกันเลย และในที่สุดเรา 3 คนก็กลับมาเป็นครอบครัวที่อบอุ่นอีกครั้ง มันเป็น 7 ปีแห่งการรอคอยที่มีความหมายสำหรับสามาก จากวิกฤติในครั้งนั้นทำให้สาได้รู้ว่า สาได้รับความรักจากคนในครอบครัวอย่างเต็มที่ ได้เรียนรู้และวิธีการแก้ปัญหา ให้ผ่านปัญหาและอุปสรรคไปได้ด้วยดีค่ะ”
ติดตามชมเรื่องราวการต่อสู้ชีวิตของ “มาริสา อานิต้า” ที่ต้องฝ่าฟันปัญหาและอุปสรรคมากมายได้ในรายการ “ฟ้าเมืองไทย” อาทิตย์นี้ (3 ส.ค. 51) เวลา 22.00-22.55 น. ทางช่อง 5