บีอีซี เวิลด์ แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสแรกปีนี้ มีกำไร 153 ล้านบาท

ข่าวทั่วไป Wednesday May 18, 2005 10:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--บีอีซี เวิลด์
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) โดยนายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการบริหาร ได้แถลงถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2548 ของกลุ่ม บีอีซี เวิลด์ แจ้งว่ากลุ่มบีอีซี เวิลด์ สามารถสร้างกำไรในไตรมาสแรกนี้ได้ 153ล้านบาท ลดลงต่ำกว่าไตรมาสก่อนกว่า 84 ล้านบาท และยังต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน278ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายโฆษณาที่ลดลงค่อนข้างมาก จากการถดถอยของเม็ดเงินโฆษณา ซึ่งเป็นผลมาจากวิบัติภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายของปีก่อนและการปรับถอยของภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งทำให้อัตราการใช้นาทีโฆษณาลดต่ำลงค่อนข้างมาก ในขณะที่การปรับตัวในธุรกิจสื่อโทรทัศน์โดยรวมที่ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีก่อน ก็มีส่วนทำให้อุปทานมีมากขึ้นกว่าเดิมทำให้อัตราค่าเวลาโฆษณาลดต่ำลงอีกด้วยในขณะเดียวกันต้นทุนและค่าใช้จ่ายกับยังโตขึ้นจึงทำให้อัตรากำไรต่ำลง
นายประวิทย์ได้แถลงต่อไปว่าในส่วนของฐานะการเงินของกลุ่ม บีอีซี เวิลด์ ยังแข็งแกร่งเช่นเดิม สินทรัพย์รวม ณ สิ้นไตรมาสเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปลายปีก่อน ตามกำไร ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเงินสดเงินฝากธนาคารหรือเงินลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้เช่นเคย สินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้นจากการย้ายส่วนปฎิบัติการมายังที่ใหม่และการเริ่มออกอากาศในระบบยูเฮชเอฟเพื่อเพิ่มคุณภาพสัญญาณในเขตกรุงเทพและปริมลฑล ในส่วนของหนี้สิน กลุ่มฯมีหนี้สินเพิ่มจากการรับรู้เงินปันผลค้างจ่ายส่วนของผู้ถือหุ้นก็เพิ่มขึ้นจากยอด ณ ปลายปีก่อน เป็นยอดเท่ากับ 5,475ล้านบาท
ในส่วนของแนวโน้มของธุรกิจของกลุ่ม บีอีซี เวิลด์ ดีขึ้นตามฤดูกาล กลุ่มบีอีซี เวิลด์สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่เพิ่งผ่านมา จึงน่าเชื่อได้ว่าจะสามารถเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะในครึ่งหลังของปีเมื่อมีแรงกระตุ้นจากการลงทุนโดยรวมจากทั้งทางภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคดีขึ้น กลุ่มบีอีซี เวิลด์ยังมีความเชื่อมั่นว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นกว่าปีก่อนได้อยู่
คำอธิบายงบการเงินรวม ปี 2548 บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน)
ผลการดำเนินงาน
กลุ่มบีอีซี เวิลด์ สามารถสร้างกำไรในไตรมาสแรกปี 2548 ได้153 ล้านบาท ลดลงต่ำกว่าไตรมาสก่อนกว่า 84 ล้านบาท และยังต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน278ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายโฆษณาที่
ลดลงค่อนข้างมากจากการถดถอยของเม็ดเงินโฆษณา ซึ่งเป็นผลมาจากวิบัติภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายของปีก่อนและการปรับถอยของภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งทำให้อัตราการใช้นาทีโฆษณาลดต่ำลงค่อนข้างมาก ในขณะที่การปรับตัวในธุรกิจสื่อโทรทัศน์โดยรวมที่ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีก่อน ก็มีส่วนทำให้อุปทานมีมากขึ้นกว่าเดิมทำให้อัตราค่าเวลาโฆษณาลดต่ำลงอีกด้วยในขณะเดียวกันต้นทุนและค่าใช้จ่ายกับยังโตขึ้นจึงทำให้อัตรากำไรต่ำลง ..
รายได้
รายได้จากการขายเวลาโฆษณาในไตรมาสแรกทำได้ 1,109 ล้านบาท ต่ำกว่าไตรมาสก่อนร้อยละ14 และต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ15 เช่นกัน เกิดจากการถดถอยของเม็ดเงินโฆษณาหลังวิบัติภัย
ธรรมชาติที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายของปีก่อน ซึ่งทำให้อัตราการใช้นาทีโฆษณาลดต่ำลงค่อนข้างมากในช่วงสองเดือนแรกของปี โดยเฉพาะในช่วงเวลาไพร์มไทม์ แม้ว่าจะมีการปรับฟื้นดีขึ้นอย่างมากในเดือนมีนาคม แต่ก็ไม่แรงเท่ากับปีก่อนเนื่องจากการปรับถอยของภาวะเศรษฐกิจโดยรวมหลังการปรับราคาน้ำมันดีเซล ในขณะที่การปรับตัวในธุรกิจสื่อโทรทัศน์โดยรวมที่ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีก่อนมีส่วนทำให้อุปทานมีมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้อัตราค่าเวลาโฆษณาลดต่ำลงอีกด้วย ในส่วนของรายได้จากบริการอื่นก็ยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในส่วนของการจัดการแสดงในต่างประเทศของธีมสตาร์ บริษัทย่อยใหม่ของบีอีซี-เทโร..
ต้นทุนขายและค่าใช้จ่าย
ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายลดลงจากไตรมาสก่อนตามปริมาณกิจกรรมที่ลดลงตามฤดูกาล แต่ก็เพิ่มขึ้นเมื่อ
เปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนส่วนใหญ่มาจากต้นทุนของบริการอื่นที่เพิ่มขึ้นตามรายได้ โดยเฉพาะในส่วนของการจัดการแสดงในต่างประเทศของธีมสตาร์บริษัทย่อยใหม่ของบีอีซี-เทโร ทั้งนี้ส่วนที่เพิ่มขึ้นก็ยังมีค่าใช้จ่ายสำนักงานที่ย้ายเข้ามาในช่วงกลางปีก่อน รวมทั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานที่เพิ่มจากการปรับอัตราเงินเดือนและการเพิ่มของบุคลากร..
ฐานะการเงิน
สินทรัพย์รวม ณ สิ้นไตรมาสเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปลายปีก่อน ตามกำไร ส่วนใหญ่อยู่ในรูปของเงินสดเงินฝากธนาคารหรือเงินลงทุนในกองทุนรวมตราสารหนี้เช่นเคย สินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้นจากการย้ายส่วนปฎิบัติการมายังที่ใหม่ และการเริ่มออกอากาศในระบบยูเฮชเอฟเพื่อเพิ่มคุณภาพสัญญาณในเขตกรุงเทพและปริมลฑล ในส่วนของหนี้สิน กลุ่มฯ มีหนี้สินเพิ่มจากการรับรู้เงินปันผลค้างจ่าย ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจากยอด ณ ปลายปีก่อน หลังจากรับรู้เงินปันผลนั้น เป็นยอดเท่ากับ 5,475 ล้านบาท..
หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน โทรศัพท์ 02-262-3635--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ