กรุงเทพฯ--31 ก.ค.--ปภ.
ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ส่งผลให้ทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ในการมองเห็นเส้นทางลดลง ประกอบกับทัศนคติความเชื่อและพฤติกรรมในการใช้รถใช้ถนนที่ไม่ถูกต้อง นำไปสู่ความเคยชิน อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุและอันตรายร้ายแรงขึ้นได้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะวิธีการขับรถอย่างปลอดภัย เพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติความเชื่อในการใช้รถที่ไม่ถูกวิธี ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนช่วงฤดูฝน ดังนี้
การเร่งความเร็วเมื่อเห็นสัญญาณไฟเหลือง เพื่อหลีกเลี่ยงการติดสัญญาณไฟแดง ซึ่งเป็นการขับขี่ ที่ไม่ถูกวิธีและไม่ปลอดภัย เพราะหากมีรถจากช่องทางอื่นวิ่งสวนมาอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น จึงควรชะลอความเร็วลงเพื่อหยุดรถ เนื่องจากไฟเหลืองเป็นสัญญาณเตือนให้หยุดรถก่อนไฟแดง ค้างเกียร์ไว้ที่ตำแหน่ง D เมื่อรถติดสัญญาณไฟแดง ปัจจุบันผู้ขับขี่มักนิยมใช้รถระบบเกียร์อัตโนมัติ และมักค้างเกียร์ไว้ตำแหน่ง D ซึ่งผู้ขับขี่ต้องเพิ่มความระวังเป็นพิเศษ เพราะหากขยับตัวแล้วเท้าหลุดจากแป้นเบรก รถอาจพุ่งไปชนท้ายรถคันหน้าได้
วิธีการที่ปลอดภัย คือ เมื่อรถติดสัญญาณไฟแดง ให้เลื่อนเกียร์ไปอยู่ในตำแหน่ง N (เกียร์ว่าง) แล้วดึงเบรกมือขึ้น เพื่อป้องกันความผิดพลาด ลมยางอ่อนไม่ได้ช่วยให้รถเกาะถนน ผู้ขับขี่มักเชื่อว่าการเติมลมยางให้อ่อนกว่ามาตรฐาน จะทำให้ รถเกาะถนนและขับนิ่มขึ้น ทั้งที่ความจริงนั้น หากลมยางอ่อนกว่ามาตรฐาน นอกจากจะทำให้หน้ายางด้านนอก สึกมากกว่าด้านในแล้ว และยังเพิ่มโอกาสทำให้ยางระเบิดมากกว่าปกติด้วย ที่สำคัญ ในช่วงฤดูฝนสภาพถนน จะเปียกลื่น ผู้ขับขี่ควรใช้ยางรถยนต์ที่มีดอกยางละเอียด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน และเพิ่มแรงดันลมยางให้มากกว่าปกติ ๒ — ๓ ปอนด์ / ตารางนิ้ว
การเปิดไฟฉุกเฉินขณะข้ามทางแยก กรณีนี้รถทางด้านซ้ายและขวาจะเห็นเพียงสัญญาณไฟเลี้ยวด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น และอาจเข้าใจผิดคิดว่ารถจะเลี้ยว จึงไม่ทันระมัดระวัง จนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ วิธีที่จะช่วย เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ คือ ควรชะลอความเร็วและหยุดรถมองจนแน่ใจว่าทางด้านซ้ายและด้านขวาไม่มีรถ จึงขับรถผ่านไปได้
การสอดมือหมุนพวงมาลัย การหงายมือแล้วสอดไปจับพวงมาลัย เพื่อหมุนเข้าหาตัว ในกรณีที่เลี้ยวรถหรือกลับรถ อาจทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกว่าเบากว่าการจับแบบคว่ำมือ ซึ่งเป็นวิธีการที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายมากขึ้น เพราะหากล้อหน้าสะดุดหรือตกหลุม อาจทำให้มือหลุดจากพวงมาลัย ทำให้พวงมาลัยตีกลับมาอย่างแรง วิธีจับพวงมาลัยที่ถูกต้อง จับพวงมาลัยที่ตำแหน่ง 3 และ 9 นาฬิกาจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้น
สุดท้ายนี้ ผู้ใช้รถใช้ถนนควรเปลี่ยนแปลงทัศนคติความเชื่อและพฤติกรรมในการใช้รถใช้ถนน ที่ไม่ถูกต้องปลอดภัย เพราะพฤติกรรมที่ประพฤติปฎิบัติจนเป็นความเคยชิน อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยผู้ขับขี่ควรหยุดรถเมื่อสัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเหลือง หากจอดรถรอสัญญาณไฟควรเลื่อนเกียร์ไปอยู่ตำแหน่ง N หรือ P หลีกเลี่ยงการเปิดไฟฉุกเฉินขณะข้ามทางแยก และไม่สอดมือหมุนพวงมาลัย ซึ่งการเปลี่ยนทัศนคติในการขับขี่เหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน