กรุงเทพฯ--13 ส.ค.--สสวท.          โค้งสุดท้ายโอลิมปิกวิชาการปีนี้ : เปิดใจก่อนไปแข่งคอมพ์โอลิมปิก ส่งแรงใจเชียร์ผู้แทนประเทศไทยแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิก ส่วนประชาสัมพันธ์ สสวท.          การจัดส่งผู้แทนประเทศไทยไปแข่งขันโอลิมปิกวิชาการในแต่ละปีที่ดำเนินการโดยสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และทคโนโลยี (สสวท.) และมูลนิธิส่งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐานวิทยาศาสตร์ศึกษา ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ (มูลนิธิ สอวน.) และหน่วยงานพันธมิตรต่าง ๆ นั้น ประกอบไปด้วยการแข่งขันใน 5 สาขาวิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ เคมี ชีววิทยา ฟิสิกส์ และคอมพิวเตอร์  ซึ่งในปีนี้ยังเหลือเพียงวิชาคอมพิวเตอร์อีกวิชาเดียวที่ยังไม่ได้ไปร่วมการแข่งขัน          การแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกในปีนี้  จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-23  สิงหาคม 2551 ณ กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยมีผู้แทนประเทศไทย 4 คน ได้แก่  นายธนะ วัฒนวารุณ  นายภานุพงศ์ ภาสุภัทร  โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา  นายวิสิฐ ภัทรนุธาพร  และ นายอาภาพงศ์ จันทร์ทอง  โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ ไปร่วมการแข่งขัน          นายธนะ วัฒนวารุณ  (แบงก์) วัย 17 ปี เล่าว่า ผมเลือกโอลิมปิกวิชาการวิชาคอมพิวเตอร์ เพราะสนใจคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีตั้งแต่เด็ก  เป็นวิชาที่เห็นผล เห็นประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ชัดเจน เพราะเน้นการปฏิบัติ เมื่อเราสร้างสรรค์ผลงานจากคอมพิวเตอร์ขึ้นมาได้ชิ้นหนึ่ง ก็ทำให้เรารู้สึกมีความสุข และสร้างสรรค์ได้ไม่ยากด้วย  ถึงแม้ครอบครัวจะไม่ได้เป็นผู้ถ่ายทอดความรู้คอมพิวเตอร์ให้กับผมโดยตรง แต่คอยส่งเสริมให้ได้เรียนหนังสืออย่างเต็มที่  รวมไปถึงการฝึกฝนทำโจทย์  คอยจัดหาหนังสือเพื่อให้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ          น้องแบงก์ เคยได้เหรียญเงินจากการแข่งขันคอมพิวเตอร์ปี 2550 ณ ประเทศโครเอเชียมาแล้ว โดยมุ่งเน้นไปที่การฝึกปฏิบัติ “ผมชอบเขียนโปรแกรมมากกว่า เพราะชอบสิ่งที่เห็นภาพและจับต้องได้ มากกว่าทฤษฎีที่กล่าวมาลอย ๆ   ผมมั่นใจพอสมควรในการแข่งครั้งนี้  แต่เป้าหมายในการแข่งขันคือสามารถทำได้ดีที่สุดเท่าที่ความสามารถของตนเองจะทำได้ เหรียญรางวัลเป็นเพียงผลพลอยได้  คนรอบข้างก็คงอยากให้เราได้เหรียญทองเป็นฑรรมดา  แต่ผมจะไม่พยายามกดดันตัวเอง เพราะการกดดันตัวเองด้วยเป้าหมาย มักจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี”           นายภานุพงศ์ ภาสุภัทร   (ไอซ์)  วัย 17 ปี บอกว่า ทฤษฎีคอมพิวเตอร์นั้น เป็นส่วนที่ประกอบด้วยการพิสูจน์  และการพัฒนาโปรแกรมให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเป็นความสวยงามของตรรกะ  ส่วน การเขียนโปรแกรมและการทำโจทย์เป็นการฝึกหัดใช้ความสามารถ เป็นเวทีที่ให้ผู้แข่งขันปลดปล่อยเทคนิคของตนเองอย่างเต็มที่          น้องไอซ์นั้นเคยได้ 1 เหรียญทอง และ 2 เหรียญเงินจากการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกมาแล้ว สำหรับปีนี้สนใจไปแข่งคอมพิวเตอร์โอลิมปิก เพราะอยากนำความรู้ทางคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้กับคอมพิวเตอร์ จึงไม่ต้องสงสัยว่า พื้นฐานของหน่มน้อยคนนี้แน่นปึ๊กเลยทีเดียว  “ผมมั่นใจว่าอย่างน้อยต้องได้ประสบการณ์ดี ๆ กลับมาแน่นอน ส่วนเรื่องเหรียญรางวัลเป็นเพียงของขวัญให้กับความพยายามของผม  ไม่ได้ตั้งเป้าไว้ครับว่าจะต้องได้เหรียญอะไรกลับมา”          นายวิสิฐ ภัทรนุธาพร  (โม) วัย 17 ปี  เจ้าของเหรียญเงินจากการแข่งขันคอมพิวเตอร์โอลิมปิกระดับเอเซียแปซิฟิก  เล่าว่า เมื่อได้เป็นผู้แทนประเทศไทย ฯ ภูมิใจมากครับ เกินที่คาดไว้มาก ที่สามารถมาถึงจุดนี้ได้มีความกดดันพอสมควร  การเตรียมความพร้อมก็คือฝึกทักษะการแก้ปัยหา การทำสมาธิ การ ฝึกตั้งสติให้นิ่ง  มีความมั่นใจพอสมควร  รางวัลไม่ได้คาดหวังมาก ที่ตังเป้าไว้อย่างน้อยคือเหรียญทองแดง “ผมขอขอบคุณทุกคนที่สนใจและให้กำลังใจพวกเราครับ”          นายอาภาพงศ์ จันทร์ทอง  (เพลน) วัย 17 ปี บอกว่า ชอบเรียนคณิตศาสตร์มากที่สุดครับ มันสนุก เพราะมันต้องคิด  ผมชอบท้าทายตัวเองครับ ส่วนที่เข้าโอลิมปิกวิชาการวิชาคอมพิวเตอร์  เพราะสอบรอบแรกเห็นว่าสอบคณิตศาสตร์  พอสอบติดแล้วรู้ว่าต้องเขียนโปรแกรม ก็เลยศึกษาการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตั้งแต่นั้นมา           “ผมชอบตอนที่ต้องแก้ปัญหาโจทย์มากเลยครับ แต่ก็ไม่ชอบเขียนโปรแกรมยาว ๆ เท่าไหร่ มันเหนื่อยน่ะครับ  สำหรับการเตรียมตัวของผม คือ การฝึกเขียนโปรแกรมให้คล่อง เพราะผมยังเขียนโปรแกรมยาว ๆ มากไม่ได้ มักจะ bug บ่อย ๆ  การแข่งขันครั้งนี้อย่างน้อยผมก็ตั้งเป้าเอาไว้ว่าต้องได้เหรียญ  ส่วนจะได้เหรียญอะไรนั้นก็ค่อยว่ากันครับ”          สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร. 0 2392 4021 ต่อ 1111 หรือ 1210