วอเนอร์ เสนอภาพยนตร์เรื่อง Star Wars : Episode III Revenge of the Sith

ข่าวทั่วไป Wednesday April 20, 2005 11:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--วอเนอร์ บราเธอร์ส
Star Wars : Episode III Revenge of the Sith
ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในกาแล็กซี่อันไกลโพ้น...
ณ เวลาหนึ่งในเรื่อง Star Wars : Episode III Revenge of the Sith อัศวินเจได อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ จะตัดสินใจทำในสิ่งที่เปลี่ยนชะตาชีวิตของเขา เมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกระหว่างการสูญเสียคนที่เขารัก หรือยอมแลกวิญญาณเพื่อให้ได้มาซึ่งพลังที่จะช่วยชีวิตเธอไว้ อนาคินจะตกเป็นเหยื่อของการล่อลวงที่เย้ายวนใจแห่งพลังด้านมืด
ไม่ว่าอนาคินจะตัดสินใจอย่างไร ทั้งเหตุผลที่เขาเลือก และสิ่งนั้นนำเขาไปสู่การสวมชุดเกราะสีดำได้อย่างไร ต่างก็เป็นแก่นแท้ของตำนาน Star Wars หลังจากการรอคอยและคาดหวังมาถึง 30 ปี บรรดาผู้ชมภาพยนตร์จะได้รู้ถึงความจริงเมื่อ Revenge of the Sith ออกฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก
พวกเขาจะได้ค้นพบด้วยตนเองอย่างชัดเจนว่าทำไมและอย่างไรที่พระเอกของเรา อนาคิน สกายวอล์คเกอร์ — ซึ่งถูกพยากรณ์ไว้ว่าเป็นผู้ที่ถูกเลือก ผู้เดียวเท่านั้นที่จะนำสมดุลย์มาสู่พลัง และสร้างความมั่นใจว่าจะมีสันติในทั่วทั้งกาแล็กซี — จึงกลายเป็นดาร์ธเวเดอร์ ผู้ร้ายกาจ และเป็นมือขวาของจักรพรรดิ
พวกเขาจะได้เรียนรู้ว่า โอบี-วัน เคโนบี อาจารย์ผู้ชอบหาเรื่องของอนาคิน และโยดาอาจารย์เจไดตัวจิ๋ว จึงสามารถรอดชีวิตจากการทำลายล้างกองทัพเจไดแห่งตำนาน เพียงเพื่อจะใช้เวลาที่เหลือของชีวิตหลบซ่อนอยู่ตามดวงดาวที่ห่างไกลและไม่เป็นมิตร
พวกเขาจะได้รู้อะไรคือสิ่งที่ทำให้สมุหนายกแพลพาทีนที่ดูเหมือนมีเมตตาและสุขุมกลายเป็นผู้นำเผด็จการแห่งจักรวรรดิกาแล็กติคที่น่าหวาดกลัว
พวกเขาจะได้รู้ว่าทำไมลูกๆ ของอนาคิน ลุค สกายวอล์คเกอร์ และลีอา ออร์กานา เกิดมาและถูกแยกจากกัน...และถูกกำหนดให้เป็นผู้นำการกบฎอันเลื่องชื่อต่อจักรวรรดิ
“ชิ้นส่วนจะประกอบเข้าด้วยกัน และเป็นการเชื่อมโยง” จอร์ช ลูคัส ผู้เขียน-ผู้กำกับฯ ให้สัญญา เขาเพิ่งจะจบมหากาพย์อย่างสมบูรณ์ นับแต่เรื่อง Star Wars : Episode IV A New Hope ที่เขาเริ่มต้นเอาไว้เมื่อปี 1977 “ในที่สุด บทสุดท้ายก็จะถูกบอกเล่า”
ในการเริ่มเรื่อง Revenge of the Sith การต่อสู้แห่งหายนะครั้งสุดท้ายของสงครามโคลนที่แผ่ขยายไปทั่วกาแล็กซี — รวมทั้งที่เหนือน่านฟ้าของดาวคอรัสซองท์ ที่ตั้งของรีพับลิคซึ่งกำลังแตกเป็นเสี่ยง และยังเป็นที่อยู่ของเหล่าอัศวินเจได สมุหนายกแพลพาทีนถูกจับตัวไปโดยนายพลกรีฟวัสผู้ชั่วช้า หัวหน้าแห่งกองทัพพดรอยด์ — กองกำลังหุ่นยนต์แห่งขบวนการแบ่งแยก
โอบี-วัน เคโนบี (ยวน แม็คเกรเกอร์) และอนาคิน สกายวอล์คเกอร์ (เฮย์เดน คริสเต็นเซ็น) พยายามฝ่าฝันเข้าไปช่วยเหลือ ต้องเผชิญหน้ากับความได้เปรียบอย่างมากเพื่อช่วยให้แพลพาทีนเป็นอิสระและสังหารกรีฟวัส มันเป็นภารกิจที่แสนท้าทาย แต่นั่นเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของสงครามการต่อสู้อันแสนโหดร้าย และแอ็คชั่นของเจไดที่อัดแน่นอยู่ใน Episode III ซึ่งจะเป็นตอนที่เต็มไปด้วยแอ็คชั่นมากที่สุดในบรรดาภาพยนตร์ Star Wars ทุกเรื่อง
เปิดฉากการต่อสู้ที่ดำเนินไปตามลำดับเหตุการณ์ ซึ่งนำไปสู่เวลาแห่งความเป็นจริงของอนาคิน — ผู้ซึ่งมีความลับที่คอยตามข่มขู่เขาอยู่ : เขาใช้ชีวิตสองหน้าในฐานะอัศวินเจได ในขณะที่ได้แต่งงานอย่างลับๆ กับวุฒิสมาชิกหญิง แพดเม่ อมิดาล่า (นาตาลี พอร์ตแมน) ด้วยการล่อลวงให้อนาคินตกเป็นเหยื่อของความกลัวที่จะสูญเสียแพดเม่ แพลพาทีนได้เปิดเผยให้อนาคินล่วงรู้ถึงอีกด้านหนึ่งของพลัง ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับเขา แต่เป็นการให้สัญญาว่าจะสอนพลังนี้ให้อย่างที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้
โอบี-วัน รับรู้ถึงความขัดแย้งภายในใจของอนาคินได้ และจำต้องปะทะด้วยดาบแสงไลท์เซเบอร์กับลูกศิษย์พาดาวันอนาคตไกลของเขาบนดาวภูเขาไฟมุสตาฟา “ครั้งนี้นับเป็นก้าวที่รวดเร็วที่สุด ตื่นเต้นและเข้มข้นที่สุดของหนัง Star Wars ทั้งหมด” ผู้อำนวยการสร้าง ริค แมคคอลัมกล่าว “ เพราะว่าแฟนๆ หนัง Star Wars รู้ดีกันมานานแล้วถึงพล็อตสำคัญที่เป็นตัวเดินเรื่อง จอร์ชอยากจะสร้างประสบการณ์ที่จะทำให้พวกเขาประหลาดใจและโดนใจ”
ฉากดวลดาบไลท์เซเบอร์ครั้งสุดท้ายระหว่างอนาคินและโอ-บีวันเป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ฉากแอ็คชั่นที่จะหยุดโลกในเรื่อง Revenge of the Sith ”มันน่าทึ่งจริงๆ ที่มีแอ็คชั่นมากมายในหนัง” แม็กเกรเกอร์พูด “มันไม่มีขีดจำกัด”
หนึ่งในไฮไลท์ก็คือฉากเปิดที่เป็นการต่อสู้ในอวกาศ ซึ่งทำให้ย้อนนึกไปถึงการต่อสู้แบบหมาหมู่ที่น่าตื่นเต้นในเรื่อง Episode IV A New Hope ถึงแม้ว่าโดยทางเทคนิคแล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นในอวกาศ แต่เป็นในชั้นบรรยากาศรอบนอกของคอรัสซองท์ “มันทำให้เราได้โชว์ความตระการตาหลายอย่าง เช่นการระเบิดมโหฬาร เปลวไฟ และควันที่พวยพุ่งจากยานอวกาศ” แม็คคอลลัมกล่าว
และยังมีการต่อสู้ตัวต่อตัวที่เข้มข้นระหว่างโอบี-วัน กับกรีฟวัส ซึ่งเป็นการผสมผสานที่น่าขนลุกของดรอยด์กับมนุษย์ ที่ดูเหมือนเป็นการทำนายถึงอนาคตของตัวอนาคิน สกายวอล์คเกอร์เอง
“ในเรื่อง Revenge of the Sith สงครามโคลนยังคงมีอยู่ทั่วทั้งกาแล็กซี่ ทุกคนจึงต้องเตรียมต่อสู้อย่างเต็มที่ เพื่อให้พร้อมรับมือกับทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในทุกขณะ” ลูคัสบอก
แอ็คชั่นในเรื่อง Revenge of the Sith ยังเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงอย่างชัดเจนกับ A New Hope ซึ่งมีน้อยคนที่จะลืมไปแล้วว่าเปิดฉากด้วยภาพดาร์ธ เวเดอร์และกองทัพของเขาที่เข้าย่ำยียานกบฎ นี่เป็นตอนสุดท้ายของมหากาพย์ที่ลูคัสได้วางเค้าโครงไว้ตั้งแต่เมื่อตอนต้นทศวรรษ 1970 “มันเป็นโครงเรื่องที่ย้อนหลังไปยาวนาน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของความเป็นมาของตัวละคร และที่ของพวกเขาใน Episode IV A New Hope” ลูคัสกล่าว “แม้ว่าผมจะไม่ได้เริ่มต้นเขียนตอนก่อนหน้าจนกระทั่งอีก 20 ปีต่อมา โครงของเรื่องก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก มันเป็นตำนานเรื่องหนึ่งที่พ่อถูกไถ่บาปคืนโดยลูกๆ
ในหลายทาง ลูคัสกล่าวว่า เหตุการณ์ใน Episode III จะเปลี่ยนมุมมองของผู้ชมกับเรื่องที่เคยถูกเล่าขานเอาไว้ใน A New Hope, The Empire Strikes Back และ Return of the Jedi “การได้ดูหนังโดยเริ่มต้นจาก Episode I และจบด้วย Episode VI จะเป็นประสบการณ์ใหม่” เขากล่าว “สิ่งที่ทำให้ผมกำกับฯ Episode I, II และ III คือเรื่องราวที่มากขึ้นเกี่ยวกับอนาคิน ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นคนดีแต่กลายมาเป็นปีศาจร้าย — และท้ายที่สุด ต้องถูกเอาคืนโดยลูกๆ ของเขา มันน่าตื่นเต้นที่ได้เห็นเรื่องทั้งหมดอยู่รวมกัน”--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ