ผู้บริโภคชาวไทยหมุนเวลาหัวใจสู่วัยหนุ่มสาว กว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ เมินศัลยกรรมตกแต่ง

ข่าวทั่วไป Tuesday November 21, 2006 14:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--เอซีนีลเส็น
ผลการสำรวจออนไลน์ของผู้บริโภคจาก 41 ประเทศทั่วโลกชิ้นล่าสุดจากเอซีนีลเส็น บริษัทผู้นำด้านการวิจัยทางการตลาดและข้อมูลชั้นนำของโลก เกี่ยวกับทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่ออายุ การอาศัยอยู่กับพ่อแม่จนถึงอายุ 20ปีกว่า และการทำศัลยกรรมเมื่ออายุมากขึ้นพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยทางอินเทอร์เน็ตรู้สึกมีความสุขในการย้อนเวลาหาความเยาว์ โดยผู้บริโภคจำนวน 63% เห็นด้วยว่าอายุ 30 กว่าของตนคืออายุ 20 กว่า และจากผู้บริโภคจำนวนเดียวกันในวัย 40 กว่าก็คิดว่าตนคือกลุ่มคนวัย 30 กว่า นอกจากนี้ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้บริโภควัย 60ปี รู้สึกว่าตนคือกลุ่มวัยกลางคน
ชาวไทยติดอันดับท็อปเท็นของโลกในการ “ย้อนเวลาหาความเยาว์ ”
ผู้บริโภคชาวยุโรบและผู้บริโภคในเอเชีย แปซิฟิค จัดเป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีความตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องการย้อนเวลามากที่สุด ผู้บริโภคชาวไทยถูกจัดลำดับเป็นหนึ่งในสิบประเทศของโลกที่มีความเห็นว่าอายุ 30 กว่าของตนคืออายุ 20 กว่า และจากผู้บริโภคจำนวนเดียวกันในวัย 40 กว่าก็คิดว่าตนคือกลุ่มคนวัย 30 กว่า นอกจากนี้ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้บริโภควัย 60ปี รู้สึกว่าตนคือกลุ่มวัยกลางคน หากเปรียบเทียบในกลุ่มของประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิคพบว่า ชาวญี่ปุ่นและชาวเกาหลีจัดอยู่ในลำดับต้นที่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว ในขณะเดียวกันชาวอินโดนีเซียดูเสมือนว่าจะมีความสนใจต่อเรื่องนี้น้อยที่สุดในภูมิภาค
โดยทั่วไป ผู้หญิงยอมรับกับแนวความคิดที่จะย้อนเวลามากกว่าผู้ชาย จากการสำรวจผู้บริโภคจากทั่วโลกพบว่า ผู้หญิงจำนวน 57% เห็นด้วยว่าอายุ 30 กว่าของตนคืออายุ 20 กว่า เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ชายจำนวน 51% ขณะที่ ผู้หญิงจำนวน 64% เห็นด้วยว่าอายุ 40 กว่าของตนคืออายุ 30 กว่า เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ชายจำนวน 58% และ ผู้หญิงจำนวน 60% เห็นด้วยว่าอายุ 60 กว่าของตนคืออกลุ่มวัยกลางคน เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ชายจำนวน 52%
ชาวไทยเผยเป็นเรื่องปกติมากที่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านของพ่อแม่ในวัย 20 ปลายๆ
เมื่อมีการสอบถามเกี่ยวกับเรื่องการอาศัยอยู่ในบ้านของพ่อแม่จนถึงอายุ 20 ปลายๆ ความคิดเห็นถูกแบ่งแยกเป็นหลายส่วน ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยจำนวน 70% เห็นด้วยว่าเป็นเรื่องปกติมากที่ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านของพ่อแม่ เช่นเดียวกับผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิคที่มีวัฒนธรรมเป็นลักษณะครอบครัวขยาย จากการสำรวจพบว่าจากเก้าในสิบประเทศที่เห็นด้วยกับความคิดดังกล่าวมาจากประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิค นำโดยสิงคโปร์ ( 88%) อินโดนีเซีย (83% ) และไต้หวัน ( 79%) ส่วนอีกด้านหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยว่าควรจะอาศัยอยู่ในบ้านของพ่อแม่เมื่ออายุ 20 ปีปลายๆ จาก แปดในสิบมาจากประเทศในกลุ่มยุโรบนำโดย ชาวนอร์เวย์ (83%) ชาวรัสเซีย ชาวฝรั่งเศส(79%) และชาวสวิส(77%) ตามลำดับ
วัฒนธรรมของเอเชียถือเป็นที่ยอบรับที่จะให้เด็กๆอาศัยอยู่ในบ้านของพ่อแม่จนถึงอายุ 20 กว่าปี ในขณะที่ชาวยุโรปมีความคาดหวังที่สูงกว่าว่าเด็กๆควรจะย้ายออกนอกบ้านเพื่อศึกษาต่อและไม่กลับมาอีก
นางจันทิรา ลือสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอซีนีลเส็น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ พวกเรามีอายุที่ยืนยาวกว่าคนรุ่นเก่า โดยอาจจะเป็นอะไรที่ขึ้นอยู่กับจิตใจที่รู้สึกว่าเรายังคงเป็นเด็กนานขึ้นโดยไม่เกี่ยวกับร่างกายของเรา มันอาจเป็นผลสืบเนื่องจากการที่พวกเราใช้เวลายาวขึ้นเพื่อที่จะเติบโตและใช้ชีวิตนานขึ้นในการศึกษาเล่าเรียน รวมถึงยังคงอาศัยอยู่ในบ้านของพ่อแม่ในช่วงอายุ 20 ปีกว่าๆ”
ศัลยกรรมตกแต่งไม่ใช่ทางเลือกชองคนไทย
ในขณะที่คนในปัจจุบันมีความสุขในการ ย้อนเวลาในด้านของทัศนคติที่มีต่ออายุของพวกเขา เมื่อถามคนเหล่านี้ว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะ เสริมสร้างบุคลิกลักษณะของพวกเขาให้ดูอ่อนเยาว์หรือไม่? ชาวไทยจำนวนมากถึง 84% พร้อมใจกันตอบว่า “ไม่” พวกเขาไม่สนใจการทำศัลยกรรมตกแต่งเมื่อพวกเขามีอายุมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิคจำนวน 86% และค่าเฉลี่ยของผู้บริโภคจากทั่วโลกที่ระดับ 80%
ประเทศที่ติดลำดับท็อปเท็นที่มีแนวโน้มที่จะทำศัลยกรรมมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือ ประเทศรัสเซีย ด้วยจำนวนที่ต่ำกว่าครึ่งของผู้ตอบแบบสอบถาม รองลงมาคือประเทศกรีซ และกลุ่มประเทศในแถบบอลติก ประเทศเกาหลีเป็นเพียงประเทศเดียวที่ไม่อยู่ในกลุ่มประเทศแถบยุโรบและติดลำดับท็อปเท็น และเมื่อเปรียบกับผลในด้านตรงกันข้ามที่แสดงลำดับท็อปเท็นที่ไม่เห็นด้วยกับการทำศัลยกรรมนำโดยชาวฮ่องกง เป็นจำนวน 94% รองลงมาคือชาวอินโดนีเซีย เป็นจำนวน 92% ชาวมาเลเซียและชาวญี่ปุ่น เป็นจำนวน 91% ตามลำดับ
นางจันทิรา ลือสกุล กล่าวเสริมว่า“มุมมองเกี่ยวกับ คนรุ่นเยาว์ คนแก่ หรือ วัยกลางคน และการใช้ชีวิตตลอดจนพฤติกรรมที่เหมาะสมกับคำจำกัดความเหล่านี้ในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม การที่คำจำกัดความในแบบดั้งเดิมนั้นเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงส่งผลให้นักการตลาดจำเป็นที่จะต้องเสาะหาช่องทางใหม่ในการที่จะสื่อสารกับผู้บริโภคที่ต้องการได้อย่างเหมาะสม.”
การสำรวจความเชื่อมั่นและความคิดเห็นออนไลน์ของผู้บริโภคทั่วโลกของเอซีนีลเส็นจัดทำขึ้นสองครั้งต่อปีที่ใหญ่ที่สุดโดยมีจุดมุ่งหมายในการสำรวจระดับความเชื่อมั่น,พฤติกรรม/แนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภค และปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคกังวลทั่วโลก โดยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอ้งอิงมาจากความเชื่อมั่นฯในตลาดงาน สถานภาพทางการเงินและความพร้อมในการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคทั่วโลก โดยเป็นผลการสำรวจที่ถูกจัดทำในปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน จากผู้ใช้อินเตอร์เน็ตประมาณ 22,780 คน ใน 41 ประเทศ จากทวีปยุโรป เอเชียแปซิฟิค อเมริกาเหนือ รวมถึงประเทศในแถบบอลติก
เกี่ยวกับเอซีนีลเส็น
บริษัท เอซีนีลเส็น จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการข้อมูลทางการตลาดชั้นนำของโลก และเป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจวีเอ็นยู (VNU) บริษัทฯ เปิดให้บริการกว่า 100 ประเทศทั่วโลก โดยให้บริการด้านการวัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลด้านการตลาด รวมถึงพฤติกรรมและความคิดเห็นของผู้บริโภค ผู้ใช้บริการมีความเชื่อมั่นในผลงานวิจัย วิธีการวัดผล และการวิเคราะห์ ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นภายในองค์กร และให้ความไว้วางใจในบริการอย่างมืออาชีพของบริษัทฯ เพื่อความเข้าใจในขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อค้นหาโอกาสทางการตลาด และเพื่อเพิ่มผลกำไรจากกิจกรรมทางการตลาดของตนเอง หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.acnielsen.com
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
Contacts: นิจวรรณ คูหา ( นิกกี้ )
Email: nitjawan.khooha@acnielsen.com
Tel: 02-231-1931#132 / 09-772-7707

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ