ทอม แฮงก์ ปลื้ม CITY OF EMBER ดันทีมงานระดับออสการ์ เนรมิตมหานครใต้พิภพ ในสถานที่ต่อเรือไททานิคของจริง

ข่าวบันเทิง Monday September 8, 2008 14:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม
บริษัทมงคลเมเจอร์ เตรียมนำ City of Ember ภาพยนตร์ที่ถูกสร้างจากวรรณกรรมเยาวชนเรื่องเยี่ยมที่ได้รับความสนใจมากที่สุดขณะนี้มาลงโรงฉายในประเทศไทย โดยภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวเริ่มเป็นที่จับตามองนับตั้งแต่ ทอม แฮงก์ นักแสดง — ผู้สร้าง คนดังของฮอลลีวู้ด ประกาศว่าเขาตกหลุมรักบทประพันธ์เรื่องดังของนักเขียน ญานน์ ดูโปร และตัดสินใจที่จะขอซื้อสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่องนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์โดยได้บริษัท วอร์เดน มีเดีย ( ผู้ออกแบบงานสร้างอภนิหารตำนานแห่งนาร์เนีย ) มาออกแบบงานสร้างในส่วนของ ซีจีให้ตลอดทั้งเรื่อง และเติมความแข็งแกร่งด้านการแสดงด้วยด้วยทัพนักแสดงอย่าง บิล เมอเรย์ นักแสดงผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์จาก Lost in Translation ทิม ร็อบบินส์ นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์จาก Mystic River มาร์ติน แลนเดา นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์จาก Ed Wood และ เซาออยร์ซี่ โรแนน สาวน้อยผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ที่อายุน้อยที่สุดจาก Atonement และที่ฮือฮาที่สุดหนีไม่พ้นที่ ทอม แฮงก์ เลือก ฮาร์แลนด์ แอนด์ วอล์ฟ ชิพยาร์ด อู่ต่อเรือเดินสมุทรชื่อดังที่ประกอบ เรือไททานิค ในประเทศ ไอร์แลนด์เหนือ เป็นสถานที่สร้างเมืองเอ็มเบอร์และถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้
นครแอมเบอร์ ถูกสร้างในอู่ต่อเรือขนาดมหึมา ที่ซึ่งเคยถูกใช้เป็นสถานที่สร้างเรือ ไททานิค เรือเดินมหาสมุทรชื่อดัง และเพื่อที่จะสามารถ ทำจินตนาการของนครแอมเบอร์ และ "พื้นที่ที่มนุษย์ไม่เคยย่างกราย" ที่เต็มไปด้วยความมืดมิด มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการนำเสนอ โดยเฉพาะการตีความลักษณะหน้าตาและบรรยากาศที่น่าอึดอัดของเมืองนี้ ให้ปรากฎอยู่ในจอภาพยนตร์ ซึ่งมันก็เป็นหน้าที่ของผู้กำกับศิลป์ มาร์ติน เหลียง และเหล่าทีมงานที่มากไปด้วยฝีมือของเขา โดยที่เมืองทั้งเมืองนี้ ถูกสร้างอยู่ในโกดังที่มีความสูงถึง 100 ฟุต ที่ตั้งอยู่ในอู่ต่อเรือ เขาและทีมงานได้ทำงานอย่างหนักในการดึงเอาความขึงขังของนครแอมเบอร์ ให้เคียงคู่ไปกับความปราดเปรื่องของคนที่อาศัยอยู่ในนั้น
ทอม แฮงก์ ซึ่งรับบทเป็นผู้อำนวยการสร้าง ได้พูดถึงแรงบันดาลใจของเขาในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เอาไว้ว่า “"สิ่งที่ผมอยากจะทำ นั้นก็คือการรักษาการเล่าเรื่องราวแบบคลาสสิคเอาไว้ ตัวละครเอกทั้งสองคนต้องผ่านการกระตุ้นจากบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งจะทำให้พวกเขาตื่นขึ้นมาดูโลกที่ตัวเองอาศัยอยู่ และกลายเป็นคนที่เตรียมพร้อมรับมือ ในสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับชีวิตของพวกเขา ผมอยากให้หนังสร้างถูกเล่าอย่างช้าๆและมั่นคง มันจะไม่มีการเปิดเรื่องด้วยฉากอลังการ ดังเช่นหนังที่เล่าถึงความหายนะเรื่องอื่นๆ ผมอยากจะให้คนดูซึบซับโลกที่พวกเขากำลังรับชม ไปพร้อมๆกับตัวละครทั้งสองในเรื่อง”
สาดแสงแห่งมหึมาการผจญภัยใน City of ember โดย ทอม แฮงก์
16 ตุลาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ