บนกองถ่าย Twilight กับผู้กำกับ แคทธาลีน ฮาร์ดวิค

ข่าวบันเทิง Tuesday September 9, 2008 09:33 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--สหมงคลฟิล์ม
http://www.ew.com/ew/article/0,,20211840,00.html
ณ.เช้าวันหนึ่งในเดือนมีนาคมที่รัฐโอเรก้อน ดวงอาทิตย์ได้ทอดแสงสว่างใสเหมือนกับท้องฟ้าในรัฐแคลิฟอร์เนีย มันน่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับชาวเมืองทุกคน แต่มันเป็นความโชคร้ายของทีมงาน สองอาทิตย์มาแล้วที่ Twilight ภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมขายดีของ สเตฟานี่ เมเยอร์ กำลังถูกถ่ายทำในพอร์ทแลนด์ ที่ถูกเลือกใช้เป็นสถานที่การถ่ายทำ ด้วยสภาพบรรยากาศและท้องฟ้าที่มักจะมีเมฆปกคลุมอยู่เสมอ แวมไพร์ในจินตนาการของ เมเยอร์ นั้น สามารถดำรงชีวิตในตอนกลางวันได้ แต่ต้องไม่ปะทะกับแสงแดดโดยตรง ซึ่งวันนี้ก็ดูเหมือนจะสร้างปัญหาให้กับผู้กำกับอย่าง แคทธาลีน ฮาร์ควิค ที่จะต้องรีบถ่ายทำฉากนอกสถานที่โดยเร็ว เพราะมีรายงานสภาพอากาศสำหรับวันพรุ่งนี้ว่าจะยิ่งดูสดใสกว่าวันนี้อีก เธอจำเป็นต้องรีบถ่ายทำฉากโรแมนติคของนักแสดงดาวรุ่งทั้งสองคนของเธอ "พวกเราต้องสร้างฉากห้องนอนภายใน 24 ชั่วโมง มันเป็นเรื่องที่สาหัสมาก"
ไม่มีหนังสือเล่มไหนตั้งแต่ แฮรี่ พ๊อตเตอร์ ที่จะสร้างความกระตือรือร้น หรือความกระวนกระวายใจได้มากเท่านี้แล้ว โดยหนังได้สร้างตามหนังสืออย่างซื่อตรง ซึ่งเป็นเรื่องราวของ เบลล่า (คริสติน สจ๊วต) วัย 17 ปี ที่ย้ายมาที่เมืองเล็กๆใน ตะวันออกเฉียงเหนือของแปซิฟิค และตกหลุมรักกับ เอ็ดเวิร์ด (โรเบิร์ต แพททินสัน) แวมไพร์หนุ่มรูปงาม ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็ตกหลุมรักเธอเช่นเดียวกัน แต่แรงปรารถนาของเขาก็ทำให้เขาต้องควบคุมตัวเองไม่ให้ดื่มเลือดของเธอ นี้เป็นหนังสือที่มีส่วนผสมของแรงปรารถนาและความอันตราย และเป็นมหากาพย์ในเรื่องรักโรแมนติคของของวัยรุ่นที่ต้องประสบเคราะห์กรรมในการอยู่ด้วยกัน ซึ่งมันก็ทำให้เด็กสาวทั่วโลกต่างคลั่งไคล้หนังสือเล่มนี้ ถึงขนาดมีบล็อคที่เขียนชำแหละโปรดักชั่นของหนังเรื่องนี้ทุกฝีก้าว และก็ยังมีสาวสองคนที่เข้าร่วมในโครงการ Make-A-Wish เพื่อที่จะได้เป็นนักแสดงประกอบในหนังเรื่องนี้ ฮาร์ควิค พูดถึงปรากฏการณ์ครั้งนี้ไว้ว่า "คุณไม่สามารถสร้างมันขึ้นมาเองได้" อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าด้วยฐานแฟนหนังสือขนาดนี้ ทางฮอลลิวู้ดก็น่าจะที่ไล่ยื้อแย้งลิขสิทธ์ของหนังสือเล่มนี้แน่นอน แต่ความจริงแล้ว หนังเกือบจะไม่ได้เกิดขึ้นด้วยซ้ำไป
ในเดือนเมษายน 2004 บริษัทในเครือของ Paramount ที่ชื่อ MTV Films ได้ครอบครองสิทธิ์ แต่การพัฒนาบทนั้นไม่ได้มีส่วนคล้ายกับต้นฉบับเลย (มีการนำแว่นตากลางคืนมาใช้ แถม เบลล่า ยังกลายเป็นเด็กสาวที่กิ๊บเก๋และทันสมัย) โดย เมเยอร์ ได้พูดถึงบทเวอร์ชั่นนั้นเอาไว้ว่า "พวกเขาสามารถสร้างหนังเรื่องนั้น และเรียกเป็นอย่างอื่นก็ได้ และก็จะไม่มีใครรู้ว่าเป็น Twilight" แต่ก็โชคดีสำหรับเหล่าแฟนที่คลั่งไคล้หนังสือ เมื่อพาราเม้าท์ตัดสิบใจพับเก็บโครงการนี้ขึ้นหิ้งไปก่อน และต่อมาในปี 2006 อิริค ฟิค (Erik Feig) ประธานบริษัท Summit Entertainment ก็พยายามที่จะทำสัญญากับ เมเยอร์ ซึ่งถูกทำให้ผิดหวังไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ ฟิค ก็ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า ตัวหนังจะต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตัววรรณกรรม โดยเขาพูดกับ เมเยอร์ว่า "จะไม่มีแวมไพร์คนไหนที่ถูกกระทำให้เยี่ยงสัตว์ป่า หรือหมาล่าเนื้อในรูปลักษณ์ของมนุษย์อย่างแน่นอน"
Twilight ที่กำลังจะออกฉายในวันที่ 20 พฤศจิกายน ไม่ได้พูดถึงตำนานของกระเทียมและเขี้ยว มันเหมือนกับ Buffy มากกว่า Nosferatu ฮาร์ควิค ที่สร้างชื่อมากับหนังอินดี้สุดฮิต Thirteen ดูเหมือนจะเกิดมาเพื่อสร้างหนังเรื่องนี้ โดยเธอเล่าว่า "เมื่อฉันอ่านหนังสือ ฉันเหมือนกับสัมผัสลมหายใจของ เบลล่า ได้เลย" เธอและนักเขียนบท เมลิสซ่า โรเซนเบิร์ค (Melissa Rosenberg) ได้ร่วมกันเขียนบทเป็นเวลา 6 อาทิตย์ และพวกเขาก็ต้องพบกับเรื่องท้าทายในการคัดเลือกนักแสดง เพราะการเลือกผิดก็อาจจะทำให้แฟนเดนตายทั้งหลายออกอาการคลั่งได้ โดย ฮาร์ควิค นั้นอยากจะหานักแสดงที่มีอายุเท่ากับตัวละครในเรื่อง และสามารถถ่ายทอดตัวของ เบลล่า ทั้งอารมณ์ความรู้สึกเบื้องลึกที่จะสามารถนำพาเนื้อเรื่องไปได้
ในช่วงที่เป็นเด็กนั้น คริสทิน สจ๊วต ได้เป็นที่รู้จักจากการแสดงเป็นลูกของ โจดี้ ฟอสเตอร์ ใน Panic Room แต่ก็จากปีที่แล้วนี้เองจากเรื่อง Into the Wild ของ ณอนน เพนน์ ที่แสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตของเธอ ฮาร์ควิค พูดถึงเธอไว้ว่า "ส่วนผสมของความไร้เดียงสาและความโหยหาของวัยรุ่นผู้หญิง เป็นสิ่งที่ทำให้ฉันเลือกเธอ" โดย ฮาร์ควิค หวังที่จะพบกับ เบลล่า ของเธอ เธอจึงนั่งเครื่องบินไฟลต์ดึกไปยัง พิตส์เบิร์ค ที่ คริสทิน วัย 17 ปี กำลังถ่ายทำเรื่อง Adventureland ของ เกร็ก ลาม็อตต้า อยู่ และเธอก็จัดการให้ คริสติน ได้เทสหน้ากล้องทันที ฮาร์ควิค เล่าถึงความประทับใจว่า "ถึงแม้ว่าเธอจะถ่ายทำมาตลอดทั้งคืน แต่เธอก็สามารถท่องบทตรงนั้นได้เลย ทั้งฉากการเต้นบนเตียงนอน และฉากที่เธอต้องวิ่งไล่นกพิราบในสวนสาธารณะ มันทำให้ฉันต้องมนต์เสน่ห์ของเธอทันที" แต่สำหรับ คริสติน แล้ว การได้รับเลือกนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่มันยากตรงที่เธอจะเล่นมันอย่างไร เธอเล่าว่า "สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ นั้นก็คือให้ เบลล่า คือตัวฉัน เธอซื่อสัตย์ เป็นผู้นำ และดูเหมือนว่าเป็นผู้หญิงที่มีเหตุมีผล และถึงเธอจะอยู่ตัวคนเดียว แต่เธอก็ไม่ใช่คนขี้เหงา"
สำหรับตัวละครสำคัญอีกคนอย่าง เอ็ดเวิร์ด ที่ เมเยอร์ ได้ให้คำนิยามเอาไว้ว่า "หล่อเกินมนุษย์ปุถุชน" จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่เขาจะกลายเป็นที่ต้องใจของสาวๆทั่วโลก ฮาร์ดวิค เล่าว่า "ทุกคนต่างมี เอ็ดเวิร์ด ในอุดมคติเป็นของตัวเอง พวกเธอคอยจ้องจับตารอดูว่าฉันจะเลือกใคร ไม่เว้นแม้กระทั่งหญิงสูงอายุคนหนึ่งที่พูดกับฉันว่า 'คุณอย่าพลาดเชียวน่ะ'” ในที่สุด ฮาร์ควิค ได้เห็นรูปของ โรเบิร์ท แพททินสัน หนุ่มอังกฤษวัย 22ปี ที่เป็นที่รู้จักจากบท เซดริค ดิกกอรี่ ใน Harry Potter and the Goblet of Fire จากนั้นเธอจึงเรียก แพททินสัน ให้มาพบที่บ้านของเธอในเวนิส, แคลิฟอร์เนีย และการเทสหน้ากล้องของเขาซึ่งเป็นซีนโรแมนติคระหว่างเขากับ เบลล่า บนเตียงนอน ฮาร์ควิค เล่าว่า "มันตื่นเต้นมาก ท้องฟ้าดูเปิดกว้างขึ้น และฉันก็คิดว่า นี้คงจะเป็นเรื่องที่ดีแน่ๆ"
แต่เหล่าแฟนๆก็ดูไม่แน่ใจนักในตอนแรก และบางคนก็โจมตีอย่างรุนแรง แพททินสัน เล่าว่า "ผมหยุดอ่านไปเลยหลังจากที่เห็นคนเขียนว่า 'ได้โปรด เลือกคนอื่นเถอะ'(หัวเราะ)" เพื่อการเตรียมบท นักแสดงคนนี้ทำมากกว่าที่จะไม่เดินกลางแดด เขาเขียนไดอารี่โดยสวมบทเป็นตัวละครที่เขาเล่น และก็ยังปิดกั้นตัวเองจากเพื่อนฝูงและครอบครัว เขาเล่าว่า "ผมอยากให้ตัวเองมีความรู้สึกโดดเดี่ยว อย่างไรก็ตาม ผมควรจะต้องมีกล้ามท้องหกลูก แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่ประสบความสำเร็จ (หัวเราะ)"
อย่าได้กังวลไป เพราะเหล่าแฟนๆก็รู้สึกตื่นเต้น ทั้งที่เห็นแค่ตัวอย่างแรกของหนังแล้ว และมันก็ทำให้ ฮาร์ควิค รู้สึกหายกังวล ซึ่งมันก็เป็นเพราะแฟนๆนี้เองที่ทำให้เธอมีกำลังใจสร้าง ยกตัวอย่างในวันหนึ่ง เหล่าทีมงานต้องรับสภาพอากาศที่เลวร้าย ที่มีทั้งหิมะ, ฝน และลูกเห็บ เธอเล่าว่า "มีบางวันที่ฉันร้องไห้ แต่เมื่อฉันเหลือบไปเห็นเด็กสาวและแม่ของเธอ ที่เป็นแฟนของหนังสือเล่มนี้ทั้งคู่ พวกเธอกำลังยืนอยู่กลางฝนและมองมาที่ฉัน มันทำให้ฉันก็คิดกับตัวเองว่า ฉันจะท้อถอยไม่ได้ ฉันควรที่จะต้องลุกขึ้นมาและถ่ายฉากนี้ให้ดีที่สุด และฉันก็ไม่สนใจว่าลูกเห็บมันจะตกลงมาบนหัวฉันหรือไม่"
Kornpanut Chainichayakul .. moonOi
Online Marketing Executive
Sahamongkolfilm International Co., Ltd.
388 S.P. Building 9th B Fl. Phaholyothin Road
Samsennai Phayathai
Bangkok 10400 Thailand
Tel. 0-2273-0939 - 9 ext. 135
Fax. 0-2273-0989
E-Mail : kornpanut@sahamongkolfilm.com
msn jackanapes_noi@hotmail.com
http://www.sahamongkolfilm.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ