กรุงเทพฯ--20 พ.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สมาพันธ์ช่วยภาครัฐลดปัญหาแอลกอฮอล์แห่งชาติ (สมข.) ร่วมกับ ชมรมรักกันเตือนกัน และผู้ประกอบการชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัยทั้งหมด ประชุมเมื่อวานนี้ (16 พฤศจิกายน 2549) เพื่อสร้างนโยบายสาธารณะและจัดทำประมวลจริยธรรมรวม 7 ข้อ รวมทั้งสรรหาคณะกรรมการจรรยาบรรณ เพื่อควบคุมและตรวจสอบสมาชิกให้ดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบตลอดเวลา เน้นประเด็นสำคัญ คือ การไม่จำหน่ายสุราแก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์โดยการตรวจบัตรประชาชนอย่างเคร่งครัด รวมทั้งไม่จำหน่ายสุรากับ ผู้ที่แต่งกายในชุดนักศึกษาด้วย ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานทางจริยธรรมเหนือกว่าความรับผิดชอบตามกรอบกฎหมาย
ร.ศ. ดร. จีรเดช อู่สวัสดิ์ อธิการบดี ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า “ทางมหาวิทยาลัยก็มีมาตรการที่จะให้ความรู้ในเรื่องอันตรายจากการดื่มสุรา นอกจากนั้นยังให้ความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งกับทางเจ้าหน้าที่ในการที่จะป้องปรามและตรวจตราสถานบันเทิงที่ใกล้กับมหาวิทยาลัย รวมทั้งยังร่วมมือกับสถานบันเทิงในการช่วยกันตรวจตราและช่วยกันควบคุมดูแล ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายจะต้องช่วยกันอย่างเต็มที่”
อ. คนึงนิจ รัตนภิญโญพงษ์ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ม. หอการค้าไทย กล่าวว่า “ ความร่วมมือโดยสมัครใจดีกว่าการบังคับ ต่อไปนี้เราจะมีคนช่วยเป็นหูเป็นตา ดูแลลูกหลานของท่านให้ปลอดภัย ต้องช่วยกันป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เตือนลูกค้า เมื่อเห็นว่า ดื่มเกินพอดี รักกันเตือนกัน เสมือนคนที่รักกัน หวังว่า การจัดระเบียบร่วมกัน จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์สังคมด้วย จริยธรรมและความรับผิดชอบ ”
นาย สมศักดิ์ แดงบุญเรือง ผู้ประกอบการ ย่าน ม.หอการค้าไทย กล่าวว่า “ผู้ประกอบการทั้งหมด จะไม่จำหน่ายสุรากับผู้ที่แต่งกายนักศึกษา ขอให้ผู้ปกครองสบายใจว่าเราไม่สนใจนักดื่มหน้าใหม่ ส่วนนักดื่มหน้าเก่า เราจะร่วมกับ สมาพันธ์ฯเตือนเรื่องระดับการดื่มที่เสี่ยงภัย ต่อการถูกตำรวจจับ และ ระดับการดื่มที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ”
นาย กศมา ทยาวัตร ผู้ประกอบการร้าน 18 - 19 ย่านมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “ การ คอยควบคุมและตรวจสอบ เป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เท่าเทียมกัน การรณรงค์ ดื่มไม่ขับ ต้องทำอยู่แล้ว โดยได้ขอเครื่องตรวจวัดลมหายใจ จากสมาพันธ์ฯ หากตรวจแล้วพบว่า เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะให้นั่งรอ ดื่มน้ำเปล่า ดีกว่า ขับรถออกไปแล้ว ถูกจับ ปรับ ต้องถูกคุมประพฤติ เป็นคดีอาญาเสียประวัติ”
“ ความร่วมมือโดยสมัครใจ ดีกว่าการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพียงแต่เปลี่ยนกรอบความคิดมาเป็น จัดระเบียบร่วมกัน จะควบคุมทุกอย่างได้ แสดงให้เห็นว่า ควบคุม ดีกว่า ห้ามอย่างไร และ เพื่อพิสูจน์ว่า ชื่อเสียง คือ ความรับผิดชอบ อย่างไร ดังนั้น ห้ามโฆษณา คือ การลบทำลายชื่อเสียง ต่อไปใครจะรับผิดชอบ ป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ใครจะดูแลนักดื่มหน้าเก่า ให้รู้ทันแอลกอฮอล์ ใครจะรับผิดชอบถนนปลอดภัย ใครจะสร้างค่านิยมใหม่ว่า เมาต่อหน้าสาวเป็นเรื่องน่าอับอาย หรือ เราอยากเห็นคนทั้งประเทศไทย คิดเหมือนกันหมดว่า จน เครียด กินเหล้า” นาย บุญช่วย ทองเจริญพูลพร เลขาธิการสมาพันธ์ควบคุมแอลกอฮอล์แห่งชาติ กล่าวในท้ายที่สุด
ผู้ร่วมประชุม
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ชมรมรักกันเตือนกัน มูลนิธิธรรมศาสตร์
สมาพันธ์ควบคุมแอลกอฮอล์แห่งชาติ
บ.ไทยเอเชีย แปซิฟิค บริเวอรี่ จำกัด
บ.ริช มอนเด้ (บางกอก)จำกัด
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย
สมาคมภัตตาคารไทย
ร้าน18-19
ร้าน KLASS ROOMZ
ร้าน แรกลิ้น
ร้าน สุ่มสี่ สุ่มห้า
ร้าน Sit up
ร้าน หรรษา
ร้าน นครเวียงจันทร์
ร้าน อยู่กลางซอย
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net