ไทยติดอันดับประเทศเอื้ออำนวยต่อการค้าและการลงทุน

ข่าวทั่วไป Thursday September 25, 2008 14:28 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 ก.ย.--คต.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 องค์กร National Foreign Trade Council (NFCT) ซึ่งเป็นองค์กรด้านธุรกิจที่สนับสนุนการค้าที่ยึดกฎเกณฑ์เป็นพื้นฐานได้เผยแพร่รายงานเรื่อง Connecting the Dots : The Global Economy and Supply Chain Management เกี่ยวกับการจัดอันดับสภาวะแวดล้อมการค้าและการลงทุนใน 117 ประเทศ รวมทั้งไทย โดยเกณฑ์การพิจารณาการจัดอันดับดังกล่าว ได้แก่ นโยบายการค้าและการเปิดตลาด การปฏิบัติทางการค้าระหว่างประเทศ โครงสร้างพื้นฐานการบริการด้านการเงิน ทุนบุคลากร (human capital) และระบบกฎหมาย รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมาย
จากภาพรวม ประเทศพัฒนาแล้วมีโครงสร้างพื้นฐาน และทุนบุคลากรสำหรับการค้าและการลงทุนในระดับที่ดีกว่าประเทศกำลังพัฒนา แต่ขณะเดียวกันนโยบายสนับสนุนการค้าและการลงทุนของประเทศกำลังพัฒนาอยู่ในระดับที่ดีกว่าประเทศพัฒนาแล้ว โดยเปรียบเทียบจากกลุ่มประเทศยุโรป และสหรัฐฯ ที่มีการอุดหนุนจากรัฐบาย (government subsidies) และการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD measures) ในระดับที่สูง
ส่วนในระดับภูมิภาค กลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออก (ไม่รวมจีนและเวียดนาม) มุ่งเน้นการเปิดเสรีทางการค้าเพื่อสนับสนุนการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในขณะที่กลุ่มประเทศอเมริกากลางและอเมริกาใต้มีนโยบายสนับสนุนการค้าและการลงทุน แนวทางปฏิบัติทางการค้าระหว่างประเทศ และการบริการด้านการเงินในระดับที่ดีแต่ยังคงขาดในเรื่องประสิทธิภาพของภาครัฐในการตอบสนองความต้องการของประชาชน
สำหรับสภาวะแวดล้อมที่สนับสนุนและเอื้ออำนวยต่อการค้าและการลงทุนของประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 38 (59.01 คะแนน) ซึ่งสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยที่ 55.87 คะแนน โดยรองจากสิงคโปร์ในอันดับแรก (85.45 คะแนน) และมาเลเซียในอันดับที่ 26 (65.91 คะแนน) ขณะที่อินโดนีเซียอยู่อันดับที่ 60 (54.11 คะแนน) ฟิลิปปินส์อันดับที่ 68 (49.91 คะแนน) กัมพูชาอันดับที่ 70 (49.37 คะแนน) และเวียดนามอันดับที่ 76 (48.30 คะแนน)
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ เนื่องจากประเทศไทยมีจุดเด่นด้านนโยบายสนับสนุนการส่งออกและนำเข้าสินค้าและบริการ โดยดูจากกรณีที่ไทยถูกฟ้องร้องภายใต้กระบวนการยุติข้อพิพาทขององค์การการค้าโลก (WTO) เป็นจำนวนน้อย และมีการอุดหนุนจากรัฐบาลในระดับที่ต่ำ นอกจากนี้ ความต้องการภายในประเทศของไทย (local demand) อยู่ในระดับที่สูง จึงเป็นการสร้างโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุน อย่างไรก็ตามไทยยังคงต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเทคโนโลยีการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายความเร็วสูง(broadband) โดยรายละเอียดรายงานสามารถดูได้ที่
www.nftc.org/default/trade/Final%20Country%20Index.pdf

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ