กรุงเทพฯ--9 ส.ค.--ธ.สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดรายงานผลประกอบการ - รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 อยู่ที่ 4,112 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิม 3,125 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (ผลประกอบการครึ่งปีหลังของ พ.ศ.2548 อยู่ที่ 3,625 ล้านเหรียญสหรัฐ) - กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 อยู่ที่ 1,527 ล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 1,333 ล้านเหรียญสหรัฐ (ผลประกอบการครึ่งปีหลังของ พ.ศ.2548 อยู่ที่ 1,348 ล้านเหรีญสหรัฐ) - กำไรพึงจัดสรรแก่ผู้ถือหุ้นสามัญเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 อยู่ที่ 1,088 ล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 956 ล้านเหรียญสหรัฐ (ผลประกอบการครึ่งปีหลังของ พ.ศ.2546 อยู่ที่ 961 ล้านเหรียญสหรัฐ) - สินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 อยู่ที่ 238 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิม 205 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว (สินทรัพย์รวมในครึ่งปีหลังของ พ.ศ.2548 อยู่ที่ 215 พันล้านเหรียญสหรัฐ)รายงานผลประกอบการซึ่งไม่รวมผลประกอบการจากธุรกิจของกลุ่มธนาคารฯ ในประเทศเกาหลีใต้* - รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 อยู่ที่ 3,378 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิม 2,927 ล้านเหรียญสหรัฐ (ผลประกอบการครึ่งปีหลังของ พ.ศ.2548 อยู่ที่ 2,977 ล้านเหรียญสหรัฐ) - กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 อยู่ที่ 1,293 ล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่ 1,225 ล้านเหรียญสหรัฐ (ผลประกอบการครึ่งปีหลังของ พ.ศ.2548 อยู่ที่ 1,192 ล้านเหรียญสหรัฐ) - รายจ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 อยู่ที่ 1,765 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิม 1,541 ล้านเหรียญสหรัฐ (ผลประกอบการครึ่งปีหลังของพ.ศ.2548 อยู่ที่ 1,636 ล้านเหรียญสหรัฐ) - อัตราส่วนรายจ่ายต่อรายรับอยู่ที่ร้อยละ 52.2 (อัตราส่วนรายจ่ายต่อรายรับของครึ่งปีแรกของ พ.ศ.2548 อยู่ที่ร้อยละ 52.6 และอัตราส่วนรายจ่ายต่อรายรับของครึ่งปีหลังของ พ.ศ.2548 อยู่ที่ร้อยละ 54.8)ผลประกอบการ Metrics** - กำไรสุทธิต่อหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 หรือ 84.1 cents (ผลประกอบการครึ่งปีแรกของ พ.ศ. 2548 อยู่ที่ 75.2 cents และผลประกอบการครึ่งปีหลังของ พ.ศ.2548 อยู่ที่ 78.7 cents) - ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ร้อยละ 17.9 (ผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของครึ่งปีแรกของ พ.ศ. 2548 อยู่ที่ร้อยละ 18.3 และผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นของครึ่งปีหลังของ พ.ศ. 2548 อยู่ที่ร้อยละ 18.1) - เงินปันผลระหว่างกาลต่อหุ้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 อยู่ที่ 20.83 cents - อัตราส่วนรายจ่ายต่อรายรับอยู่ที่ร้อยละ 53.6 (อัตราส่วนรายจ่ายต่อรายรับของครึ่งปีแรกของ พ.ศ. 2548 อยู่ที่ร้อยละ 52.6 และอัตราส่วนรายจ่ายต่อรายรับของครึ่งปีหลังของ พ.ศ. 2548 อยู่ที่ร้อยละ 57.3) - อัตราส่วนเงินกองทุนอยู่ที่ร้อยละ 14.2 (อัตราส่วนเงินกองทุนครึ่งปีแรกของ พ.ศ.2548 อยู่ที่ร้อยละ 12.9 และอัตราส่วนเงินกองทุนครึ่งปีหลังของ พ.ศ. 2548 อยู่ที่ร้อยละ 13.6)สาระสำคัญของผลประกอบการ - ผลกำไรก่อนหักภาษีเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ถึง 15% แม้ว่าธุรกิจไต้หวันจะไม่สามารถทำกำไรได้ - ธุรกิจของสายงานสถาบันธนกิจและบุคคลธนกิจเติบโตอย่างสมดุล - กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักภาษีในธุรกิจของธนาคารฯ ในประเทศเกาหลีเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ในครึ่งหลังของ พ.ศ. 2548 - สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด logn term credit เรทติ้ง ปรับเพิ่มขึ้นเป็น A+ โดย Standard and Poors มร.ไบรอัน แซนด์เดอร์สัน ประธานของธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดให้ความเห็นเกี่ยวกับผลประกอบการในครั้งนี้ว่า "การเติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็งของผลประกอบการนับเป็นข้อยืนยันของความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจของธนาคารฯ การดำเนินธุรกิจในหลายภูมิภาคและการมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายจะส่งเสริมให้ธนาคารฯ มีทั้งความยืดหยุ่นและความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้เป็นอย่างดีในแต่ละตลาด เรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างสรรผลประกอบการที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นของเราได้" สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ อาร์ชวัส เจริญศิลป์ ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์ โทร. 02-724 8023 แฟ็กซ์. 02-724 8018 อีเมล์: [email protected]