โอกาสจากการเปิดตลาดสินค้าเครื่องนุ่มห่ม ภายใต้กรอบ FTA

ข่าวทั่วไป Thursday September 7, 2006 11:14 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--ปชส.จร.
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เครื่องนุ่งห่มเป็นสินค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่ไทยได้เปรียบเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศที่ไทยได้ทำความตกลงการค้าเสรีไปแล้ว คือออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และจีน รวมทั้งญี่ปุ่นที่ได้มีการเจรจาเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ลงนาม ยกเว้นในกรอบความตกลงการค้าเสรีไทย-อินเดีย ที่สินค้าเครื่องนุ่งห่ม ยังไม่ได้รวมอยู่ในการเปิดตลาด 82 รายการที่เร่ง ลดภาษีไปแล้ว ซึ่งการจัดทำ FTA กับประเทศดังกล่าวส่งผลดีต่อสินค้าไทยที่ได้ประโยชน์จากภาษีนำเข้าเป็น 0 เนื่องจากช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งที่ยังไม่ได้ทำความตกลงการค้าเสรีกับคู่เจรจา FTA ของไทย
สินค้าเครื่องนุ่งห่มประกอบด้วย เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องยกทรง รัดทรงและส่วนประกอบ ถุงเท้าและ ถุงน่อง และถุงมือผ้า โดยไทยจะเริ่มลดภาษีให้คู่เจรจาเป็น 0 ในปี 2009-2015 ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าและประเทศคู่เจรจาจะทยอยลดภาษีให้ไทยและเป็น 0 เร็วกว่าไทยลดให้ 1 ปี คือ ในปี 2008-2015 ยกเว้นในกรอบไทย-ญี่ปุ่น ซึ่งญี่ปุ่นจะลดภาษีเป็น 0 ทันทีที่ความตกลงมีผลบังคับใช้
นางอภิรดี กล่าวต่อว่า ในภาพรวมคู่เจรจามีการเปิดตลาดในลักษณะต่างตอบแทน และสุดท้ายมีอัตราภาษีเป็น 0 แม้จะใช้เวลาในการลดภาษีหลายปี แต่จากการที่ประเทศคู่เจรจา FTA กับไทยส่วนใหญ่อัตราภาษีของสินค้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปและเครื่องนุ่งห่ม มีอัตราค่อนข้างสูง คือ ออสเตรเลีย ร้อยละ 25 นิวซีแลนด์ ร้อยละ 19 จีน ร้อยละ 16-25 และญี่ปุ่น ร้อยละ 5-12.8 การจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับประเทศดังกล่าวจึงเป็นประโยชน์กับไทยที่ช่วยให้มีต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับคู่แข่งขันที่ยังไม่ได้มีการทำความตกลงฯกับคู่เจรจาของไทย
อย่างไรก็ตาม การทำความตกลงการค้าเสรีในปัจจุบันได้ขยายจำนวนเพิ่มขึ้นมาก ประเทศต่างๆ มีการจับคู่เจรจาเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าและแสวงหาผลประโยชน์ร่วมกัน ประกอบกับประเทศคู่แข่งขันของไทย เช่น จีน และอินเดีย มีต้นทุนค่าแรงงานต่ำ และได้มีการปรับ/พัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง จึงอาจส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการแข่งขันของไทยในระยะอันใกล้นี้ ดังนั้น ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมนี้จึงต้องเร่งปรับตัวเพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตและการตลาด โดยการพยายามลดต้นทุน เพิ่มนวัตกรรมใหม่ๆ ของการผลิตสินค้าให้มีรูปแบบที่มีความแตกต่าง/หลากหลาย และมีคุณภาพได้มาตรฐานสากล รวมทั้งควรมีการกำหนดมาตรฐานของสินค้าที่บังคับด้านความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ที่สวมใส่ ทั้งที่ผลิตในประเทศและที่นำเข้าเพื่อป้องกันสินค้าเครื่องนุ่งห่มที่ราคาถูกและด้อยคุณภาพ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคได้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ