กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์
ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) เผยเศรษฐกิจโลกและภาวะทางการเมืองส่งผลกระทบต่อตลาดโรงแรมในกรุงเทพฯ ช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เป็นผลให้ยอดขายห้องพักของโรงแรม 5 ดาวและ 4 ดาว ลดลง แต่เป็นการลดลงเพียงเล็กน้อย แต่จะส่งผลกระทบอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และปีหน้า
จากงานวิจัยของบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า เศรษฐกิจโลกและสภาวะทางการเมืองมีผลกระทบโดยตรงต่อจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ แผนการเดินทางของชาวต่างชาติ และยอดขายห้องพักของโรงแรมในกรุงเทพฯ
จากแหล่งข้อมูลของกรมการขนส่งทางอากาศ พบว่า จำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่เดินทางมาถึงท่าอากาศยานกรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) ในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 8.3 ล้านคน เพิ่มขึ้นเพียง 1.2% จากครึ่งหลังของปี 2550 แสดงให้เห็นว่าจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อติดต่อธุรกิจและเพื่อการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นค่อนข้างน้อย
ในช่วงครึ่งแรกของปี 2551 การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของโรงแรม Centara Grand at CentralWorld ทำให้จำนวนห้องพักของตลาดโรงแรมระดับ 5 ดาว ในกรุงเทพฯ มีจำนวนทั้งสิ้น 7,574 ยูนิต เพิ่มขึ้น 7.1% จากครึ่งหลังของปี 2550 ส่วนจำนวนห้องพักในตลาดโรงแรมระดับ 4 ดาว ยังคงอยู่ที่ 12,083 ยูนิต ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีโรงแรมระดับ 4 ดาวเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้
จากการศึกษาของไนท์แฟรงค์ฯ พบว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก, การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน, การชะลอในการลงทุน, ความเชื่อมั่นที่ลดลงของนักลงทุน, ความไม่แน่นอนทางการเมือง, และการเพิ่มขึ้นของค่าโดยสารเครื่องบิน ทั้งหมดนี้ นำไปสู่ปริมาณที่ลดลงในการเดินทางของชาวต่างชาติที่เดินทางมากรุงเพทฯ เพื่อติดต่อธุรกิจและประชุมในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ อย่างไรก็ดี ยอดขายห้องพักของโรงแรมระดับ 5 ดาว ยังมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่หากเปรียบเทียบการเพิ่มขึ้นของยอดขายห้องพักกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนห้องพักในตลาดโรงแรมระดับ 5 ดาวทั้งหมด จะพบว่าอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมระดับ 5 ดาว อยู่ที่ 70.8% ลดลงจากช่วงครึ่งหลังของปี 2550 ประมาณ 1.9% แต่ยังคงเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปีก่อนหน้านี้อยู่ประมาณ 2.3% สำหรับโรงแรมระดับ 4 ดาว อัตราการเข้าพักเฉลี่ยลดลงมาอยู่ที่ 70.2% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว ลดลงประมาณ 2.4% สาเหตุที่อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมระดับ 4 ดาวลดลงนั้นเป็นเพราะจำนวนห้องพักในตลาดโรงแรม 4 ดาวอยู่ในระดับที่คงที่ ในขณะที่จำนวนยอดขายห้องพักในตลาดนั้นได้รับผลกระทบจากปัจจัยเดียวกับตลาดโรงแรม 5 ดาว อย่างไรก็ดี อัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมระดับ 4 ดาวยังเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมาประมาณ 2.5%
แม้สภาพการแข่งขันในตลาดจะสูงขึ้นอันเนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของจำนวนห้องพัก อัตราค่าห้องพักของโรงแรมระดับ 5 ดาวและ 4 ดาวยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา เนื่องจากโรงแรมมีการปรับกลยุทธ์เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะของตลาดในปัจจุบัน และหลายโรงแรมมีการขยายฐานตลาดลูกค้าไปยังกลุ่มที่มีกำลังใช้จ่ายสูง เช่น กลุ่มตลาดรัสเซีย, อินเดีย, ยุโรป, และตะวันออกกลาง อัตราค่าห้องพักของโรงแรมระดับ 5 ดาวอยู่ที่ 5,618 บาท ส่วนโรงแรมระดับ 4 ดาวมีอัตราค่าห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ 3,425 บาท ในครึ่งแรกของปีนี้
ไนท์แฟรงค์ฯ คาดว่า การเปิดตัวของโรงแรมใหม่จะทำให้จำนวนห้องพักในตลาดซึ่งรวมทั้ง 5 ดาว และ 4 ดาว เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1,060 ยูนิต ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และคาดว่าตั้งแต่ปี 2552 — 2554 จำนวนห้องพักที่เปิดใหม่ในตลาดจะมีจำนวนทั้งสิ้น 3,555 ยูนิต
ในขณะที่จำนวนห้องพักในตลาดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยอดขายห้องพักของโรงแรมในกรุงเทพฯ คาดว่าจะมีจำนวนลดลงในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เนื่องจากการประกาศใช้ พ.ร.ก ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ, การยกเลิกจองห้องพักโรงแรมโดยชาวต่างชาติที่จะเดินทางมากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นผลมาจากการประกาศเตือนในหลายประเทศเกี่ยวกับการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย, การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก, และความไม่แน่นอนทางการเมือง
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2643-8223