กรุงเทพฯ--23 มี.ค.--คิธแอนด์คิน TTA ประกาศมั่นใจพื้นฐานยังคงแข็งแกร่ง ชี้ผลประกอบการยังคงสดใส หลังเดินหน้ารุกธุรกิจพลังงานบริการนอกชายฝั่งที่มีแนวโน้มดี เชื่อสร้างรายได้ให้ TTA อย่างมั่นคง เตรียมหาจังหวะเพิ่มกองเรือจากตลาดเรือมือสองในราคาที่เหมาะสม แจงเหตุแม้ว่าธุรกิจเดินเรือจะเป็นขาลง คาดคงเป็นแค่ช่วงสั้นๆ ม.ล. จันทรจุฑา จันทรทัต กรรมการผู้จัดการ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)TTA ให้ความเห็นถึง ราคาหุ้น TTA ลดลงอย่างรวดเร็วใน 2-3 วันที่ผ่านมา ท่ามกลางข่าวลือต่างๆ ในตลาดฯ ที่ว่า บริษัทฯ กำลังประสบปัญหาทางธุรกิจเนื่องจากภาวะอัตราค่าระวางลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน บริษัทฯยังคงยืนยันว่า อุปสงค์ยังคงแข็งแกร่ง ทั้งนี้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ของงบการเงินปี 2548 จนถึงไตรมาสที่ 1 ของงบการเงินปี 2549 ปริมาณสินค้าที่ขนส่งด้วยเรือโทรีเซนเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 10 การเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอุตสาหกรรมหลักๆ เช่น ประเทศจีน ยังคงมีทิศทางที่สดใส ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มีการคาดการณ์ว่า ความต้องการเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 5-6 ในปี 2549 นี้ แม้ว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ของบริษัทฯ จะเป็นตัวเลขที่ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึงครึ่งหนึ่ง แต่ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมว่า ผลประกอบการในปีที่แล้วที่บริษัทฯ กำไรมหาศาลนั้น เนื่องจากอัตราค่าระวางในตลาดโลกสูงขึ้นมากจนเรียกได้ว่าผิดปกติ ซึ่งมีผลมาจากการที่อุปสงค์และอุปทานมีความแตกต่างกันมาก ส่วนสาเหตุหลักที่ค่าระวางในตลาดโลกลดลงเนื่องจาก อุปทานในตลาดโลกมีเพิ่มขึ้น มีเรือบรรทุกสินค้าแห้งเทกองขนาดกลางและขนาดเล็ก (Handymax and Handysize Vessels) ที่สั่งต่อใหม่เข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามกลไกของตลาดในภาวะที่อุปสงค์มีมากว่าอุปทาน ทำให้ค่าระวางในตลาดโลกของเรือประเภทนี้ลดลงจากระดับที่สูงมากในปีก่อนๆ มาสู่ระดับปกติ ปัจจุบัน เรือของบริษัทฯ ได้มีการให้เช่าเรือแบบทำสัญญารับขนส่งสินค้าล่วงหน้าไว้แล้ว ร้อยละ 40 ของกำลังบรรทุกสินค้าทั้งหมดของบริษัทฯ ณ ขณะนี้ เรียกได้ว่า เราได้เห็นภาพของผลประกอบการบริษัทฯ มาเกือบครึ่งปีงบประมาณแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้ลดต่ำกว่าที่บริษัทฯ ได้คาดไว้ อีกทั้งบริษัทฯ ก็ได้ดำเนินการธุรกิจอย่างระมัดระวัง โดยการพยายามกระจายความเสี่ยง ลดการพึ่งพาธุรกิจเดินเรือลงบ้าง โดยหันไปรุกธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือให้มากขึ้น “ในการดำเนินธุรกิจที่มีลักษณะเป็นวัฏจักรนั้น (cyclical business) สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การเข้าให้ถูกจังหวะเวลา เพื่อให้บริษัทฯ สามารถทำกำไรได้สูงสุด ในช่วงที่ค่าระวางลดต่ำลง ราคาเรือจะลดต่ำลงด้วย ซึ่งเป็นโอกาสเหมาะที่จะลงทุนในการซื้อเรือส่วนในเรื่องที่บริษัทฯ ขายเรือออกไป 2 ลำในระยะเวลาไล่เลี่ยกันนั้น เนื่องจากเรือทั้ง 2 ลำมีอายุมาก อีกทั้งไม่คุ้มค่าที่จะนำเรือดังกล่าวมาใช้งานต่อ เนื่องจากจะต้องเสียค่าซ่อมบำรุงมากมาย ดังนั้น บริษัทฯ จึงตัดสินใจขายเรือทั้งสองลำออกไป ซึ่งก็ได้กำไรจากการขายเรือดังกล่าวรวมกันประมาณ 56 ล้านบาท และเงินที่ได้จากการขายเรือนั้น บริษัทฯ ก็ได้นำไปชำระหนี้เงินกู้คืนก่อนกำหนดเวลา ซึ่งทำให้ยอดเงินกู้ของบริษัทฯ ลดลง และทำให้ฐานะทางการเงินของบริษัทฯ มีเสถียรภาพมากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมของบริษัทฯ ในการขยายกองเรือต่อไปในอนาคต เมื่อถึงเวลาอันควร” ในขณะเดียวกันบริษัทฯ เริ่มให้ความสำคัญกับธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ โดยมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจงานบริการนอกชายฝั่งที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาตินั้น นับได้ว่า เราเป็นบริษัทเดียวในประเทศไทย ที่มีเรือขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งอัตราค่าบริการของเรือประเภทนี้ อยู่ในระดับสูงและมีอนาคตที่สดใส จากการที่บริษัทฯ เพิ่งเริ่มรุกเข้ามาในธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอย่างจริงจัง ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาสักระยะหนึ่งในการที่จะเห็นผลกำไร โดยจะเห็นผลดีในระยะยาว “ในภาพรวมแล้ว ธุรกิจของบริษัทฯ ยังมีความแข็งแกร่ง เนื่องจากเรือของบริษัทฯ ยังอยู่ในสภาพดี และมีการบำรุงรักษาตามอายุงานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจกับบริษัทเรืออื่นๆ ในตลาดโลกได้ ลูกค้าของบริษัทฯ ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และให้ความไว้วางใจในบริษัทฯ ดีเหมือนเช่นเดิม ดังนั้น แม้ว่า ค่าระวางเรือในตลาดโลกลดลง แต่เรายังคงมีลูกค้าประจำและรับขนส่งสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในด้านธุรกิจบริการที่ เกี่ยวข้องกับการเดินเรือก็ยังคงมีรายได้สม่ำเสมอและมีฐานลูกค้าประจำเช่นเดียวกัน” ม.ล. จันทรจุฑากล่าว ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ คุณบังอร แก้วบวร โทร 02 6633226 ต่อ 68 มือถือ 0 1 9047907 E-mail
[email protected] [email protected]