กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--มส.ผส.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) โดยแผนงานวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ สนับสนุนโดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) เปิดเผยรายงานสถานการณ์สังคมไทยว่า ปัจจุบันสังคมไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว ทำให้ผู้สูงอายุประสบกับปัญหาต่างๆ ที่ตกอยู่ในภาวะพึ่งพิงในหลายๆ ด้านเช่น ด้านสุขภาพ ด้านเศรษฐกิจและรายได้ ด้านสังคม ด้านสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัย รวมทั้งด้านจิตใจ ซึ่งจะต้องมีผู้ดูแล คือคนในครอบครัวหรือผู้ที่อยู่ใกล้ชิด ทว่าในกรณีผู้สูงอายุที่ต้องอยู่คนเดียวนั้น จำเป็นต้องอาศัยคนในชุมชน หรือในกรณีที่ต้องการการดูแลพิเศษต้องมีผู้ดูแลที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเข้ามาช่วยเหลือดูแล เช่นอาสาสมัคร หรือผู้ช่วยผู้ดูแลผู้สูงอายุ
ในเรื่องดังกล่าว ทพญ.ชื่นตา วิชชาวุธ ผู้จัดการชุดโครงการแผนงานวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีผู้สูงอายุ กล่าวถึงระบบการดูแลผู้สูงอายุที่ใช้ชีวิตโดยลำพังว่า ปัจจุบัน ผู้ช่วยผู้ดูแลหรือผู้ที่ให้การช่วยเหลือเอาใจใส่ผู้สูงอายุในการทำกิจวัตรประจำวันและช่วยเหลือด้านอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น การพาไปโรงพยาบาลโดยได้รับค่าตอบแทนนั้น จะต้องเป็นผู้ได้รับประกาศนียบัตรจากการฝึกอบรมอย่างเป็นทางการ ภายใต้หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการหรือกระทรวงแรงงานอย่างน้อย 420 ชั่วโมง โดยการออกใบอนุญาตในการจัดตั้งสถาบันการฝึกอบรมและอนุมัติหลักสูตรภายใต้ความรับผิดชอบของกระทรวงศึกษาธิการ
“ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ ขาดการควบคุมและติดตามมาตรฐานการดำเนินงานและคุณภาพการบริการของผู้ช่วยผู้ดูแลที่ผ่านการฝึกอบรม และสถานฝึกอบรมบางแห่งยังมีการโฆษณาเกินจริง โดยมีข้อมูลการร้องเรียนจากผู้เข้าอบรมเข้าใจผิดคิดว่าเป็นหลักสูตรวิชาชีพการพยาบาล รวมทั้งมีการร้องเรียนจากผู้รับบริการถึงคุณภาพของผู้ช่วยผู้ดูแลที่ไม่ได้มาตรฐาน บางครั้งกระทำเกินขอบเขตหน้าที่ เช่น การฉีด insulin การให้อาหารทางสายยาง ซึ่งขัดต่อ พรบ.วิชาชีพการพยาบาลและผดุงครรภ์ พ.ศ.2528 มาตรา 27 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการพยาบาล หรือที่ความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต”
ทั้งนี้การศึกษาของ ผศ.ร.อ.หญิง ดร.ศิริพันธุ์ สาสัตย์ คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรร์มหาวิทยาลัยเสนอว่าควรมีการแบ่งระดับผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุตามสมรรถนะที่พึงประสงค์ให้ชัดเจนขึ้น รวมทั้งต้องมีการจัดหลักสูตรอบรมต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ช่วยดูแลผู้สูงอายุให้สามารถปฏิบัติงานในกิจกรรมที่ต้องการความสามารถเฉพาะได้ตามมาตรฐานที่กำหนด
ต่อปัญหาดังกล่าว แผนงานวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ จึงได้จัดให้มี เวทีนโยบาย “ระบบการดูแลและกำลังคนในการดูแลผู้สูงอายุ” ขึ้น เพื่อนำเสนอข้อมูล แลกเปลี่ยนทบทวน สถานการณ์ ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน รวมทั้งเพื่อแสวงหาประเด็นที่ยังเป็นจุดอ่อนต่อการขับเคลื่อนระบบการดูแลและกำลังคนในการดูแลผู้สูงอายุ และนำเสนอระบบการบริหารจัดการผู้ดูแลผู้สูงอายุที่เหมาะสมและ ระบบการดูแลระยะยาวที่ดีในครอบครัวและชุมชนด้วย โดยงานดังกล่าวจะจัดให้มีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2551 เวลา 08.30 -16.30 น. ณ ห้องประชุม 1 สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กรุงเทพฯ
เนาวรัตน์(เล็ก) ชุมยวง
www.thainhf.org
02 511-5855 ต่อ 116