กรุงเทพฯ--2 ส.ค.--124 คอมมิวนิเคชั่นส
หลังจากที่สายการบินในประเทศจำนวน 6 สายการบิน ได้ประสบความสำเร็จกับการทดสอบเปิดให้บริการเที่ยวบินทั้งหมด 22 เที่ยวบินที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันเสาร์ที่ 29 กรกฎาคม 2549 นายอัลเบิร์ท เจียง ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) ได้ออกมาแสดงความกังวลในเรื่องความพร้อมของสนามบินสุวรรณภูมิในการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในวันที่ 28 กันยายน 2549 เนื่องจากการทดสอบเที่ยวบินนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการทดสอบระบบสนามบินทั้งหมดเท่านั้น
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานคำกล่าวของ นายอัลเบิร์ท เจียง อดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ของท่าอากาศยานชางงี ประเทศสิงคโปร์ ว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่จะเริ่มเปิดเชิงพาณิชย์ คือ ทุกระบบจะต้องได้รับการทดสอบอย่างเข้มงวด เพื่อที่จะให้มั่นใจได้ว่า ทุกระบบสามารถบูรณาการและทำงานได้อย่างสมบูรณ์ 100%”
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ซึ่งเป็นผู้บริหารสนามบินสุวรรณภูมิ ตระหนักถึงความรับผิดชอบของบริษัท และยินดีรับคำวิจารณ์ที่ยุติธรรมและเป็นกลางจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่บริษัทจะสามารถแก้ไขปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ให้ลุล่วงได้ก่อนวันเปิดให้บริการจริงปลายเดือนกันยายนนี้
นายโชติศักด์ อาสภวิริยะ กรรมการผู้อำนายการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงประเด็นที่ นายอัลเบิร์ท เจียง ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) และอดีตผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ ของสนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ ว่า การให้ความเห็นในลักษณะดังกล่าว ถือเป็นการให้ความเห็นที่มีอคติ และมีประเด็นแอบแฝง แสดงให้เห็นถึงเจตนาที่จะทำให้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมเสื่อมเสียชื่อเสียง
ทั้งนี้ นายอัลเบิร์ท เจียง ได้ส่งอีเมล์คำวิจารณ์ของเขาไปยังสื่อต่างประเทศ และองค์กรทางด้านการบินที่เกี่ยวข้องในทันที ภายหลังการทดสอบเที่ยวบินเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเนื้อหาของอีเมล์ที่ได้ทำการส่งออกไปนั้น ไม่มีการชื่นชมความสำเร็จของการทดสอบเที่ยวบินดังกล่าวแต่อย่างใด ส่งผลให้มีการตั้งข้อสงสัยว่า คำวิจารณ์ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในเชิงลบของ นายอัลเบิร์ท เจียง อาจเกี่ยวข้องกับการแข่งขันที่รุนแรงในธุรกิจการบิน ซึ่งหลายประเทศพยายามก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาคนี้
ขณะเดียวกันเห็นว่าการที่ นายอัลเบิร์ท เจียง เคยเป็นอดีตผู้บริหารอาวุโสของท่าอากาศยานชางงี ประเทศสิงคโปร์ อาจส่งผลให้คำวิจารณ์ต่างๆขาดความเป็นกลาง
“ทุกฝ่ายควรคำนึงว่าทอท.เองก็มีความเสี่ยงหากเกิดความเสียหายในการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดังนั้นแล้วทอท.จึงต้องดูแลทุกอย่างให้ออกมาดีที่สุด เพื่อให้การเปิดใช้สนามบินเป็นไปอย่างราบรื่น จึงขอให้สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศลงข่าวที่เป็นกลาง เกี่ยวกับการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่กำลังจะมีขึ้นในเดือนกันยายนนี้ โดยไม่อิงอยู่กับความเห็นส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง”นายโชติศักดิ์ กล่าว
นอกจากนั้นในช่วงที่ผ่านมา ทอท. ได้ทำการหารือกับไออาต้าหลายครั้ง เกี่ยวกับการคิดค่าค่าธรรมเนียมการขึ้นลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งไออาต้าต้องการให้ ทอท. คงค่าธรรมเนียมไว้ที่อัตราเดิม ถึงแม้ค่าธรรมเนียมใหม่จะครอบคลุมสิ่งอำนวยความสะดวกที่มากขึ้น และสาธารณูปโภคที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ทอท. เห็นว่า แม้ค่าธรรมเนียมของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะสูงกว่าค่าธรรมเนียมของท่าอากาศยานกรุงเทพถึง 15% แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าค่าธรรมเนียมของท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ และท่าอากาศยานเช็ค แล็บ ก๊อก ประเทศฮ่องกง อีกทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังตั้งอยู่ในสภาพภูมิประเทศที่ดีกว่า ช่วยเอื้อต่อการต่อเที่ยวบินของผู้โดยสารไปทั่วโลกได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
นิมิตร หมดราคี
บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส จำกัด (มหาชน)
โทร. 0-2662-2266
E-mail: Nimitz@124comm.com