กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--บลจ.กรุงไทย
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสัปดาห์นี้บริษัทเตรียมเปิดจำหน่ายอีก2 กองทุนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ3 เดือน คุ้มครองเงินต้น 2 ( KTFIX3M2) และกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ 6 เดือน3 (KTSUP6M3) ในระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายน 2551
โดยกองทุนKTFIX3M2 เป็นกองทุนที่เปิดให้ผู้ลงทุนสามารถซื้อ-ขายหน่วยลงทุนได้ทุกรอบระยะเวลา 3 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่มีนโยบายคุ้มครองเงินลงทุน โดยกองทุนจะลงทุนในตราสารที่มุ่งให้เกิดความคุ้มครองเงินต้น ได้แก่ ตราสารหนี้ภาครัฐ ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น TB09204A ในสัดส่วนการลงทุนประมาณ 60% และลงทุนในเงินฝากของธนาคารสินเอเซีย และ ธนาคาร เกียรตินาคิน สัดส่วน 40% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่งผลให้กองทุนสามารถให้อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 3.20% ต่อปี
ส่วนกองทุน KTSUP6M3 อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ที่บริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นตราสารแห่งหนี้ที่มีคุณภาพ ให้ผลตอบแทนที่ดี และมีความมั่นคงสูง โดยมีสัดส่วนการลงทุนดังนี้ กองทุนจะลงทุนในเงินฝาก/ บัตรเงินฝากของธนาคารสินเอเซีย และธนาคารเกียรตินาคิน ในสัดส่วน 40% ส่วนที่เหลือจะลงทุนใน ตั๋วแลกเงินของบมจ.ไทคอน อินดัสเตรียล คอนเน็คชั่น , บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ และบมจ.บัตรกรุงไทย ในสัดส่วน 60% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนสามารถให้อัตราผลตอบแทนที่ 3.70% ต่อปี ซึ่งการลงทุนในกองทุนดังกล่าว ไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย 15%
นายสมชัย กล่าวถึงภาวะการลงทุนในตลาดตราสารหนี้ ว่า ผลตอบแทนของพันธบัตรระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี ยังทรงตัวในระดับ 3.38 -3.45% เป็นผลจากปริมาณตราสารในรุ่นดังกล่าวยังมีอยู่จำกัด โดยที่กระทรวงการคลังยังไม่เปิดตารางการประมูลตั๋วเงินคลังรุ่นใหม่ ขณะที่ความต้องการลงทุนสำหรับพันธบัตรอายุไม่เกิน 1 ปี ยังมีอยู่ค่อนข้างสูง สืบเนื่องจากนักลงทุนยังคงเน้นลงทุนในตราสารระยะสั้นที่มีความเสี่ยงต่ำ
ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขาทั่วประเทศ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
แสงสิริ เนตรอัมพร /สำนักประชาสัมพันธ์
โทร 02-670-4900 ต่อ 1235 / 085-1800-441