กรุงเทพฯ--3 พ.ย.--แอกเซส แอนด์ แอสโซซิเอทส์
“เอแบค” รุกสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการยุคใหม่ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้แสดงศักยภาพ จัดตั้ง “ธุรกิจจำลอง” ในสถาบันของตนและร่วมแข่งขันในโครงการฯ ในครั้งที่ 4 นี้ เน้นสร้าง “เครือข่าย” ธุรกิจจำลองระหว่างสถาบันให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ตั้งเป้า 50 สถาบันการศึกษาในเมืองไทยร่วมแข่งขัน และดึงนักธุรกิจชั้นนำเดินสายเข้าถึงที่ในภูมิภาคต่างๆ
ภราดา ดร.บัญชา แสงหิรัญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยว่า จากความสำเร็จในการจัดโครงการ 3 ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และสมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โครงการแข่งขันธุรกิจจำลองมีจุดม่งหมายเพื่อสร้างจิตสำนึกในการเป็นผู้ประกอบการที่สามารถสร้างงานได้ด้วยตนเอง และพัฒนาความเป็นนักธุรกิจมืออาชีพ สำหรับโครงการแข่งขันในปีที่ 4 นี้ ได้สานต่อจากครั้งที่ 3 โดยมุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายสถาบันการศึกษาตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง รวมทั้งได้รับโล่พระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สำหรับสถาบันที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในปีนี้ คาดว่าจะมีสถาบันการศึกษาจากทั่วประเทศเข้าร่วมประมาณ 50 สถาบัน
อาจารย์บัญชา สกุลดี Deputy Vice President for Student Affairs มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยว่า ความโดดเด่นของโครงการบริษัทจำลอง มิใช่เป็นเพียงแค่เป็นการประกวดการเขียนแผนธุรกิจแต่เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้นำแผนธุรกิจมาปฏิบัติจริงให้นักศึกษาได้เกิดการเรียนรู้และฝึกฝนทักษะ ในรูปแบบและระดับต่าง ๆ แบบครบวงจร ทั้งในด้านการบริหารงานและการฝึกฝนภาคสนาม โดยนักศึกษาสามารถทำงานตามที่ตนเองถนัดในแต่ละแผนกในสายการบริหาร การตลาด การเงินและการบัญชี การบริหารงานบุคคล หัวหน้าพนักงานขายและพนักงานขาย เป็นต้น โดยมีการวัดและประเมิน ในด้านการวางแผนและผลการดำเนินงาน การตลาด การบริหารบุคล การประชาสัมพันธ์ นวัตกรรม การทำประโยชน์เพื่อสังคม และการนำเสนอ มีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการจากทั่วประเทศกว่า 5,000 คน นักศึกษาจากทุกมหาวิทยาลัยนอกจากจะได้ฝึกฝนในการดำเนินธุรกิจแล้วยังให้ความสำคัญต่อสังคม หลายโครงการได้ถูกริเริ่มขึ้นเพื่อคืนกำไรสู่สังคม อาทิเช่น โครงการฝึกอบรมผู้ประกอบการให้กับนักโทษในเรือนจำ โครงการให้ทุนการศึกษาปันน้ำใจสู่เด็กน้อยเพื่อด้อยโอกาส โครงการประหยัดพลังงาน โครงการธนาคารขยะ เป็นต้น
ทางด้าน ดร.จิราภา ศรีกาฬสินธุ์ ผู้ช่วยรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยได้จับมือสถาบันการศึกษา 50 แห่งทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ โดยการสร้างและพัฒนาระบบเครือข่ายธุรกิจจำลองในแต่ละภูมิภาค โดยมีสถาบันแม่ข่ายเข้าร่วมในแต่ละภูมิภาคเป็นผู้ประสานงานหลักในพื้นที่ ซึ่งจะหมุนเวียนไปในแต่ล่ะปี ในปีนี้ ภาคเหนือได้แก่ มหาวิทยาลัยพายัพ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ภาคใต้ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ และภาคกลาง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ นอกจากการพัฒนาระบบการเรียนรู้โดยการฝึกอบรมแล้ว ในปีนี้ทางโครงการยังจัดทำระบบ e - learning ผ่านทางระบบ website ของโครงการ www.u-ed.org ซึ่งนักศึกษาสามารถศึกษาและเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง รวมทั้งจัดนักธุรกิจที่ปรึกษาให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาตลอดโครงการ และเน้นการพัฒนาสินค้าชุมชนในแต่ละภูมิภาคมาสร้างช่องทางการตลาดใหม่ ๆ ทำให้สถาบันได้ใกล้ชิดกับชุมชนมากขึ้น ก่อให้เกิดการพัฒนาศักยภาพและเศรษฐกิจในชุมชนให้เข้มแข็ง นอกจากนี้ ความยิ่งใหญ่และความสำเร็จของโครงการมาจากการความเสียสละอุทิศตนของ ศิษย์เก่าที่เคยเป็นอดีตผู้บริหารบริษัทจำลองของมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ซึ่งปัจจุบันได้เติบโตอยู่ในแวดวงธุรกิจเป็นทั้งเจ้าของธุรกิจและนักบริหารแบบมืออาชีพ จนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ได้นำประสบการณ์และความสามารถกลับมาช่วยรุ่นน้อง ช่วยสถาบัน ในการเพิ่มศักยภาพของคนรุ่นใหม่และส่งเสริม SMEs ไทยให้เทียบทันสากล
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: ดร. จิราภา ศรีกาฬสินธ์
ผู้ช่วยรองอธิการบดี ฝ่ายกิจการนักศึกษา
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
โทรศัพท์ 0-2723-2131-2
ธนัสถ์ มุสิกนิลพันธุ์ (ตูนPR)
บริษัท แอกเซส แอนด์ แอสโซซิเอทส์
976/4 ซอยโรงพยาบาลพระรามเก้า ถนนพระรามเก้า
แขวง/เขต ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320
T. 02-6415300-7 # 400
F. 02-6415308-9
M. 089-1284440